"มารี กีมาร์" ร่วมสืบสานตำนานอาหารเมืองเพชร

เนื่องในโอกาสที่จังหวัด “เพชรบุรี” ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านวิทยาการอาหาร จากยูเนสโก กับมรดกอาหารเมือง 3 รส ร้านอาหารไทยสูตรดั้งเดิม "มารี กีมาร์"  (MARIE GUIMAR) ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก มารี เดอ กีมาร์ หรือที่รู้จักกันดีในนาม “ท้าวทองกีบม้า” ผู้ที่ถือเป็นต้นตำรับขนมหวานเครื่องทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย นำโดย "เชฟโจ้" ธนา ทวีถาวรสวัสดิ์ จึงขอนำเสนออาหารไทยสูตรเมืองเพชรฯ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมือง 3 รส คือ รสเปรี้ยวจากมะนาวท่ายาง ที่ให้รสเปรี้ยวและมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์, รสหวานจากน้ำตาลโตนด, รสเค็มจากเกลือสมุทร ของ อ.บ้านแหลม และนอกจากวัตถุดิบทั้ง 3 อย่างนี้ เพชรบุรียังอุดมไปด้วยวัตถุดิบชั้นดีอื่นๆ อีก อาทิ  อาหารทะเล, เนื้อวัวทุ่ง, ชมพู่, สับปะรด, กล้วย ฯลฯ

 

 

สำหรับเมนูอาหารเมืองเพชรบุรี ทางร้านมีหลายเมนูที่อยากแนะนำ อาทิ “แกงคั่วหัวตาลกุ้งสด” แกงพื้นถิ่นของ "เพชรบุรี" โดยเลือกเฉพาะตาลที่ไม่อ่อนไม่แก่จนเกินไป นำเพียงส่วนหัวมาฝานบางๆ ขยำกับน้ำเกลือ แล้วนำไปต้มอย่างน้อย 3 น้ำเพื่อลดความขม จากนั้นนำไปแกงกับเครื่องแกง กะทิ ปลาย่างหรือเนื้อย่าง ปรุงรสด้วยน้ำตาลโตนด น้ำปลา เอกลักษณ์ของแกงคั่วหัวตาล คือมีรสขมจางๆ ของหัวตาลอ่อน และรสหวานกลมกล่อมของน้ำตาลโตนด

 

 

 

อีกเมนูที่อยากให้ลองคือ “ปลาหมึกต้มหวาน” เมนูเด็ดของทุกจังหวัดแถบจังหวัดชายฝั่งทะเล ไล่เรียงตั้งแต่แม่กลองลงไป แต่สูตรของเมืองเพชรจะกลมกล่อมเนื่องจากใช้น้ำตาลโตนด ส่วน “ขนมจีนทอดมันปลา” เป็นเมนูเฉพาะถิ่นของชาวเมืองเพชรที่นำมาจับคู่กันได้อย่างลงตัว โดยส่วนมากจะนิยมใช้ปลาอินทรี เวลากินจะวางเส้นขนมจีนไว้ด้านล่าง วางชิ้นทอดมันกับใบกะเพรากรอบไว้ด้านบน และราดด้วยน้ำจิ้มรสออกหวานๆ เปรี้ยวๆ อร่อยลงตัวทีเดียว

 

 

ขณะที่ขนมหวานเมืองเพชรฯ ต้องยกให้ “ขนมหม้อแกง” เป็นขนมที่ได้รับการบันทึกในประวัติศาสตร์ว่า ท้าวทองกีบม้า นำส่วนผสมฝรั่งเข้ามาในขนมไทย ใช้ไข่ แป้ง และกะทิเป็นส่วนประกอบสำคัญ นำมาผสมกันในถาดตามสัดส่วน แล้วจึงนำไปอบจนหน้าของขนมหม้อแกงมีสีน้ำตาลทองน่ารับประทาน ปัจจุบันมีการนำเผือก เม็ดบัว ถั่ว และหอมเจียว มาผสม และแต่งหน้าขนมหม้อแกง ทำให้ขนมหม้อแกงมีรสชาติที่กลมกล่อมมากขึ้น ขนมหม้อแกงเป็นขนมที่ได้รับความนิยมชมชอบจากชนชั้นสูงในวัง ต่อมาเมื่อลูกมือในบ้านของท้าวทองกีบม้าได้แต่งงาน ก็ได้นำสูตรและวิธีการทำขนมหม้อแกงออกมาถ่ายทอด ทำให้ชาวบ้านคนธรรมดาได้มีโอกาสรู้จักกับขนมหม้อแกง

 

เมื่อปี พ.ศ.2529 จังหวัด "เพชรบุรี" ได้มีการบูรณะพระนครคีรีให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ทำให้ชาวบ้านในละแวกนั้นทำขนมหม้อแกงที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นออกมาจำหน่าย ขนมหม้อแกงจึงเป็นขนมที่ขึ้นชื่อของจังหวัดเพชรบุรี โดยสมัยก่อนจะทำกินกันเฉพาะในงานสำคัญ เช่น งานบวช หรืองานแต่งงาน ซึ่งขนมหม้อแกงนั้นจะถูกอบในเตาถ่านที่ใช้แผ่นสังกะสีมาคลุมบนถาดขนม แล้วใช้ถ่านหรือกาบมะพร้าวจุดไฟ แล้วเกลี่ยให้ทั่วสังกะสี เพื่อให้ขนมได้รับความร้อนทั้งด้านบน และด้านล่าง ทำให้หน้าของขนมหม้อแกงมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลทอง

 

 

พูดถึงอาหารสูตรเมืองเพชรฯ “ข้าวแช่” ก็เป็นอีกอย่างที่พลาดไม่ได้ ข้าวแข่เมืองเพชรป็นสูตรของคนมอญ ซุ่งทำเพื่อบูชาเทพเจ้า ขอพรให้มีลูก การทำจึงพิถีพิถัน ต้องซาวข้าวกลางแจ้ง แล้วล้างด้วยน้ำ 7 ครั้งเพื่อให้แห้งออก แล้วนำไปหุงพอให้สุก แล้วนำมาล้างอีกครั้งเพื่อให้แป้งออกหมด เวลาใส่น้ำลอยดอกไม้จะได้ใส ส่วนเครื่องข้าวแข่จะทำแบบวิจิตรกว่าอาหารปกติ เครื่องข้าวแช่เมืองเพชรจะเป็นเครื่องที่ทำแล้วสามารถเก็บไว้ได้นาน เช่น ปลายี่สนผัดหวาน ลูกกะปิทอด ไชโป๊วผัดหวาน ฯลฯ สังเกตได้ว่าเครื่องข้าวที่เห็นในปัจจุบันจะออกรสหวาน เพราะกินง่าย และเข้าได้กับเครื่องเคียงต่างๆ

 

 

ร่วมสัมผัสมรดกทางภูมิปัญญาไทยที่ต่อยอดอย่างสร้างสรรค์ และเชื่อมโยงวิถีชีวิต ชุมชน เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวเข้าไว้ด้วยกันอย่างโดดเด่น ที่ร้านมารี กีมาร์ บนชั้น 28 อาคาร Wyndham Bangkok Queen Convention Centre ซอยไผ่สิงห์โต ถนนพระราม 4 กรุงเทพฯ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 11.00 – 21.00 น. ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สำรองที่นั่ง และบริการจัดส่งเดลิเวอรี่ โทร.02-258-5697 หรือ www.marieguimarbkk.com

 

** หมายเหตุ อาหารไทยเมืองเพชรบุรี เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันนี้ - 31 มีนาคม 2565 และข้าวแช่ เริ่มตั้งแต่ 1 มีนาคม – 31 พฤษภาคม 2565 เท่านั้น**