Lifestyle

วิธีแก้ "ท้องผูกเรื้อรัง" ไม่งั้นอาจเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ หนึ่งในมะเร็งร้ายอันดับต้นที่คนไทยเป็นกันเยอะ ข้อมูลที่จากงานวิจัยที่ในประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าผู้เป็น "ภาวะท้องผูกเรื้อรัง" มีความสัมพันธ์กับการเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่มากกว่าคนทั่วไปถึง 1.78 เท่า

เมื่อผู้ที่มี "ภาวะท้องผูกเรื้อรัง" มีความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่มากกว่าคนทั่วไปถึง 1.78 เท่า ดังนั้นหากรู้การป้องกันไม่ให้เกิดภาวะท้องผู จะถือเป็นการช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ส่วนหนึ่ง

 

วิธีแก้ "ท้องผูกเรื้อรัง" ไม่งั้นอาจเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่

 

ขับถ่ายแบบไหนถึงเรียกว่า "ท้องผูก"
ลักษณะการขับถ่ายที่บอกได้ว่ามีเกณฑ์ผิดปกติ คือ เมื่อขับถ่ายน้อยกว่า 3 ครั้งต่ออาทิตบ์ ร่วมกับลักษณะของอุจจาระที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น ก้อนมีขนาดเล็กลง หรือก้อนแข็งขึ้น เวลาถ่ายต้องออกแรงเบ่งแรงขึ้น และใช้เวลานานกว่าจะขับถ่ายเสร็จ หากให้เกิดภาวะท้องผูกเรื้อรังไปนานๆ หากคุณมีภาวะนี้อาจนำไปสู่ความเสี่ยงต่อการเป็นริดสีดวงทวาร หรือมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้

ปรับพฤติกรรมป้องกันอาการท้องผูก

1. ขับถ่ายให้เป็นเวลา
เวลาที่เหมาะสมในการขับถ่ายคือหลังตื่นนอนตอนเช้า ดังนั้น ควรปรับเวลาการตื่นนอนให้เช้าขึ้นเพื่อให้มีเวลาสำหรับการดื่มนม หรือดื่มน้ำเปล่าที่จะช่วยกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกอยากถ่าย



2. ดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ มากกว่าปกติในหนึ่งวัน
น้ำเปล่าถือว่าเป็นหัวใจสำคัญในการกระตุ้นการขับถ่าย ควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อย 1.5-2 ลิตรต่อวัน โดยแบ่งดื่มในแต่ละช่วงเวลา ครั้งละ 1-2 แก้ว ไม่ควรดื่มน้ำปริมาณมากๆ แบบรวดเดียว


3. เลือกทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง
อีกตัวช่วยสำคัญในการขับถ่าย คือ อาหารไฟเบอร์สูง อย่าง ผักและผลไม้ 

 

4. ออกกำลังกายเป็นประจำ
การเคลื่อนไหวร่างกายอยู่เสมอจะช่วยให้ลำไส้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น คนที่ไม่ค่อยชอบออกกำลังกายหรือเอาแต่นั่ง ๆ นอนๆ ไม่ค่อยขยับร่างกายในแต่ละวันจึงมักจะมีโอกาสเกิดภาวะท้องผูกได้สูงกว่า

แหล่งไฟเบอร์ที่สำคัญมีดังนี้
1. ส้ม ส้มจะอุดมไปด้วยวิตามินซีและยังอัดแน่นไปด้วยไฟเบอร์ที่มีส่วนช่วยในการขับถ่าย ทั้งยังมีสารนารินจีนินที่ทำหน้าที่คล้ายกับยาระบายอีกด้วย


2. ลูกพรุน เต็มไปด้วยโพแทสเซียมมากกว่ากล้วยถึง 2 เท่า จึงลดปัญหาร่างกายขาดโพแทสเซียมที่เป็นสาเหตุของอาการท้องผูก


3. ถั่วดำ ในถั่วดำ 1 ถ้วยจะอุดมไปด้วยไฟเบอร์มากถึง 15 กรัม รวมทั้งยังมีโพแทสเซียมและแมกนีเซียม ตัวช่วยสำคัญที่ทำให้อุจจาระเคลื่อนผ่านทางเดินอาหารได้ง่ายขึ้น


4. ราสเบอร์รี่ เป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่มีไฟเบอร์สูงมากกว่าสตรอว์เบอร์รี่ถึง 2 เท่าเลยทีเดียว
 

วิธีแก้ "ท้องผูกเรื้อรัง" ไม่งั้นอาจเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่

 

ที่มาข้อมูล : https://www.paolohospital.com

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ