Lifestyle

"โรคยอดฮิตในเด็ก" ที่พ่อแม่ต้องระวังช่วงอากาศเปลี่ยน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

วัยเด็กเป็นช่วงวัยที่ต้องดูแลใส่ใจในเรื่องของสุขภาพเป็นพิเศษ เพราะระบบภูมิต้านทานในร่างกายของเด็กๆ นั้นไม่เหมือนกับผู้ใหญ่ ดังนั้นในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงหรือช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสต่างๆ พ่อแม่จึงต้องใส่ใจดูแลสุขภาพของลูกรักเป็นพิเศษ

สำหรับโรคยอดฮิตที่เด็กๆ มักจะเป็นในช่วงอากาศเปลี่ยน และพ่อแม่ต้องทำความรู้จัก จะมีโรคอะไรบ้างไปดูกันเลย

 

ไข้หวัดใหญ่

 

ไข้หวัดใหญ่ อากาศที่เย็นลงและความชื้นในช่วงหน้าฝนจะทำให้โรคในกลุ่มไวรัสที่เกิดกับระบบทางเดินหายใจนั้นเจริญเติบโตได้ดีกว่าปกติ บวกกับเป็นช่วงที่เด็กเปิดเทอมด้วยบางครั้งเด็กอาจจะไปติดมาจากเพื่อน ๆ ที่โรงเรียน ดังนั้นจึงส่งผลให้ช่วงนี้มีเด็กป่วยด้วยไข้หวัด และไข้หวัดใหญ่เป็นจำนวนมาก

 

เมื่อเด็กได้รับเชื้อไข้หวัดเข้าสู่ร่างกายแล้วจะส่งผลให้เด็กมีอาการคือคัดจมูก มีน้ำมูกใส ๆ จาม คอแห้ง เจ็บคอ เป็นไข้ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ไอแห้ง ไอมีเสมหะ หากอาการรุนแรงและลุกลามอาจมีโรคแทรกซ้อนที่มากับไข้หวัดก็คือ ไซนัสอักเสบ หลอดลมอักเสบ หรือ ปอดอักเสบได้ ดังนั้นพ่อแม่จึงไม่ควรประมาทกับอาการเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ของลูก หากพบว่าลูกเจ็บป่วยไม่สบาย ก็ควรใส่ใจอาการของลูกเป็นพิเศษ

 

โรคมือเท้าปาก

 

โรคมือเท้าปากจะพบมากในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี โดยมี อาการที่แสดงของโรคนี้คือ มีไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย หลังจากนั้น 2-3 วันจะมีอาการเจ็บปากจะไม่ยอมทานข้าว เพราะในปากมีตุ่มแดงทั้งที่ลิ้น เพดานปากและกระพุ้งแก้ม แล้วกลายเป็นตุ่มพองใสในที่สุด นอกจากนี้ยังมีการอักเสบและแดงบริเวณรอบๆ ตุ่ม เมื่อตุ่มแตกออกจะเป็นแผลหลุมตื้นๆ และมี ผื่นขึ้นที่ฝ่ามือ นิ้วมือ ฝ่าเท้า และก้น แต่จะไม่คัน อย่างไรก็ตามโรคนี้ไม่มีความรุนแรงมากนัก จนคุณพ่อคุณแม่ร้อนใจ เพราะอาการไข้ขึ้นนั้นจะลงภายใน 3 – 5 วัน อาการของเด็กก็จะค่อยๆ ดีขึ้น และหายเป็นปกติภายใน 7-10 วัน แต่ทั้งนี้คุณพ่อคุณแม่ควรเฝ้าดูอาการเจ้าตัวน้อยอย่างใกล้ชิด

 

ไวรัส RSV

 

ไวรัส RSV หรือ โรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัส RSV เป็นโรคติดเชื้อที่มีอาการคล้ายหวัดแต่บางครั้งอาจก่อให้เกิดอาการรุนแรงจนถึงขั้นปอดอักเสบได้ไวรัส RSV เป็นไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคระบาดในระบบทางเดินหายใจโดยเฉพาะในเด็กเล็ก เชื้อไวรัสนี้สามารถทำให้เกิดภาวะปอดอักเสบได้

 

สำหรับอาการของเด็กที่ติดเชื้อไวรัส RSV นี้เด็กจะมีอาการหอบเหนื่อยและหายใจลำบากอย่างไรก็ตามอาการบางอย่างของโรคติดเชื้อไวรัส RSV นี้อาจคล้ายกับอาการของไข้หวัดเช่นมีไข้ไอจามอาจจะทำให้พ่อแม่แยกความแตกต่างของอาการหวัดและไวรัสได้ยาก ดังนั้นพ่อแม่ควรสังเกตเพิ่มเติมว่า ลูกมีอาการเหนื่อยหอบและหายใจเร็ว และมีเสียงครืดคราด ๆ และไอหนักมาก ๆ หรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นให้รีบพาลูกไปพบแพทย์ในทันที และที่สำคัญหากลูกมีโรคประจำตัวอย่างหอบหืด ภูมิแพ้ พ่อแม่ยิ่งไม่ควรนิ่งนอนใจกับอาการป่วยของลูก

 

ไข้เลือดออก

 

ไข้เลือดออกเป็นโรคที่เกิดเกิดจากยุงลาย ซึ่งพบได้มากบริเวณที่มีน้ำขัง และช่วงหน้าฝนเช่นนี้ สำหรับเด็กที่เป็นไข้เลือดออก จะมีอาการคือไข้สูง อ่อนเพลีย ซึ่งหากพบว่าลูกมีอาการดังกล่าวอาจจะต้องมีการตรวจเลือดเพิ่มเติมเพื่อยืนยันอาการป่วยอีกครั้งหนึ่ง สำหรับการป้องกันไข้เลือดออกนั้น สามารถป้องกันได้โดยตรงเลยคือ การให้ลูกสวมใส่เสื้อผ้าให้มิดชิดเพื่อป้องกันไม่ให้ยุงกัด และการป้องกันทางอ้อมก็คือ ทำลายแหล่งน้ำขังหรือแหล่งเพาะพันธุ์ในบ้านโดยพยายามทำบ้านให้โปร่ง ไม่มีมุมอับทึบ และกำจัดแหล่งน้ำขังในบ้านตามจุดต่าง ๆ เช่น ขารองตู้กับข้าวเป็นต้น

 

การป้องกัน

 

สำหรับการดูแลลูกน้อยของคุณให้ห่างไกลจากปัญหาสุขภาพในช่วงหน้าฝนและอากาศเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ พ่อแม่ควรฝึกเขาให้ล้างมือบ่อย ๆ ในทุกครั้งหลังการทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงก่อนการกินอาหาร ทั้งนี้พยายามหลีกเลี่ยงการพาลูกไปอยู่ใกล้กับผู้ป่วย หลีกเลี่ยงการพาลูกไปเดิมตามศูนย์การค้าต่าง ๆ และหากลูกเป็นยังเล็กมากโดยเฉพาะหากเป็นเด็กที่อายุต่ำกว่า 6 เดือนก็ให้ระวังหากจะต้องนำลูกใส่รถเข็นตามห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ รวมถึงการการให้ลูกได้รับวัคซีนตามกำหนดที่ควรได้รับ หรือแม้กระทั่งวัคซีนเสริมต่าง ๆ ได้แก่ วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ วัคซีนป้องกันปอดอักเสบ วัคซีนป้องกันไข้เลือดออก ทั้งนี้เพื่อป้องกันลูกน้อยให้ห่างไกลจากปัญหาสุขภาพและการเจ็บป่วยด้วยโรคระบาดยอดฮิตทั้งหลายในหน้าฝนนี้

 

 

ข้อมูล : นพ.สุรพงษ์ ลีโทชวลิต กุมารแพทย์ ประจำศูนย์กุมารเวช โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ