5 เมนูเด็ดปรุงง่ายๆ จาก “ปลา” สารพัดชนิด

 

1. ปลาทูซาเตี๊ยะ เป็นเมนูปลาทูสดที่ควรต้องลองกินให้ได้สักครั้ง ใครที่ไม่กินถือว่าพลาดของดีของอร่อยกันเลย แต่ก็เชื่อว่าเมื่อเอ่ยถึงชื่อเมนูนี้หลายคนอาจจะยังไม่เคยได้ยินด้วยซ้ำ

 

“ซา” มาจากภาษาจีนที่แปลว่า 3 ดังนั้น "ปลาทูซาเตี๊ยะ" จึงหมายถึง ปลาทู 3 รสนั่นเอง

 

ส่วนผสมการทำปลาทูซาเตี๊ยะ

 

• ปลาทูสด 5 ตัว
• กระเทียม 10 กลีบ (ใช้ได้ทั้งกลีบเล็กหรือกลีบใหญ่)
• รากผักชี 2 ต้น
• ขิงแก่ให้หั่นเป็นแว่น 10 แว่น
• หอมแดงไทยทุบพอให้แหลก 2 หัว
• น้ำสะอาด 3 ถ้วยตวง
• น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ (ความเปี้ยวขึ้นอยู่กับความชอบ)
• น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
• ซอสซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
• ซอสน้ำมันหอย 3 ช้อนโต๊ะ
• พริกขี้หนูเม็ดใหญ่ 10 เม็ด

 

วิธีการทำปลาทูซาเตี๊ยะ

 

1. ล้างปลาทูให้สะอาด โดยการควักไส้และดึงเหงือกปลาทูออกจากนั้นก็ล้างด้วยน้ำสะอาด
2. ตั้งหม้อแล้วใส่ขิงแก่ รากผักซี กระเทียม หอมแดงไทย และเติมน้ำสะอาดลงไปในหม้อ
3. เมื่อน้ำเริ่มเดือดแล้วก็ให้ใส่ปลาทูสดลงไปได้เลย แล้วก็ใส่น้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และน้ำมะขามเปียกตามลงไปในหม้อได้เลย
4. ตามด้วยใส่กระเทียมและหัวหอม ให้เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนกว่าน้ำจะงวด
5. เมื่องวดและได้รสชาติตามที่ต้องการแล้วก็ให้ใส่พริกลงไปในหม้อแล้วปิดไฟตักใส่ถ้วยกินได้เลย แต่เคล็ดลับความอร่อยของเมนูปลานี้คือยิ่งต้มนานเท่าไรก็ยิ่งเพิ่มรสชาติความอร่อยแบบทวีคูณกันเลย

 

 

2.ปลานิลราดพริก ถ้าใครติดใจเมนูนี้จากการออกไปกินข้าวที่ร้านอาหาร ลองกลับบ้านมาลงมือทำเองสักครั้งก็น่าจะดีไม่น้อย เพียงแค่ทอดปลานิลจนสุกกรอบ เสร็จแล้วราดพริกสามรสลงไปจนชุ่ม 

 

ส่วนผสมการทำปลานิลราดพริก

 

• ปลานิลสด 1 ตัว
• เกลือป่นเล็กน้อย
• พริกไทยเล็กน้อย
• กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ
• พริกสีแดงสับ 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา 4 ช้อนชา
• น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมัน (สำหรับทอดปลาและผัดน้ำราด)

 

วิธีทำปลานิลราดพริก

 

1. ทำความสะอาดปลานิล ขอดเกล็ด ควักไส้และเครื่องในปลาออก
2. นำไปล้างอีกครั้ง จากนั้นบั้งเนื้อ ปลาตามชอบ
3. พักให้สะเด็ดน้ำ แล้วโรยเกลือและพริกไทยลงไป ทาให้ทั่วตัวปลาทั้ง 2 ด้าน
4. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชลงไป ใช้ไฟปานกลาง รอให้น้ำมันร้อน ใส่ปลานิลลงทอดให้สุกเหลืองแล้วพลิกกลับด้าน
5. ทอดต่อจนสุกทั้งสองด้าน จากนั้นเร่งเป็นไฟแรงสุดเพื่อรีดน้ำมันออก
6. ตักขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จานที่เตรียมไว้
7. ทำน้ำราดสามรส ผัดกระเทียมและพริกสับในน้ำมันพืช
8. ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ
9. เติมน้ำเปล่า คนให้เข้ากัน เคี่ยวจนส่วนผสมข้นเหนียวตามชอบ
10. ตักน้ำสามรสราดบนปลาที่ทอดเตรียมไว้ แต่งจานให้สวยงาม พร้อมเสิร์ฟ

 

 

 

 

3.ปลากระพงทอดน้ำปลา เมนูยอดฮิตที่เมื่อไรไปร้านอาหารทะเลก็มักจะต้องสั่งจนกลายเป็นเมนูโปรดของทุกบ้านไปแล้ว เพราะสามารถกินกันได้ทั้งครอบครัว ทั้งยังเป็นเมนูที่ทำเองง่ายมากๆ แค่ทอดปลาให้เหลืองกรอบแล้วราดด้วยซอสน้ำปลาแสนอร่อย เสิร์ฟพร้อมกับน้ำยำรสแซบ 

 

ส่วนผสมการทำปลากระพงทอดน้ำปลา

 

• ปลากระพง 1 ตัว
• น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนชา
• ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
• แป้งข้าวโพด 1 ถ้วยตวง
• ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันพืชไว้ใช้สำหรับการทอดปลา

 

ส่วนผสมการทำน้ำยำรสแซบ

 

• น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
• หอมแดงซอย 1 – 2 หัว
• พริกขี้หนูซอย ใส่ตามความชอบ
• มะม่วงเปรี้ยวซอยหรือหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ
• ผักซีไว้โรยหน้า

 

วิธีการทำปลากระพงทอดน้ำปลาและน้ำยำ

 

1. ล้างปลากระพงให้สะอาด แล้วซับน้ำให้แห้ง จากนั้นก็นำปลามาผ่าครึ่งกึ่งกลางโดยที่ไม่ให้ปลาขาดจากกันแล้วก็แผ่ออก
2. นำน้ำมันหอยและซอสปรุงรสที่เตรียมไว้มาผสมให้เข้ากัน แล้วก็นำปลากระพงลงไปคลุกให้ทั่วตัวปลา แล้วก็นำปลาไปคลุกต่อในแป้งข้าวโพด อาจจะหมักทิ้งไว้ประมาณ 15 – 20 นาที เพื่อให้รสชาติของซอสซึมเข้าเนื้อปลา
3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันให้ท่วมตัวปลา โดยใช้ไฟปานกลางในการทอด รอจนกว่าน้ำมันจะเดือนแล้วค่อยนำปลาลงไปทอด จากนั้นก็ค่อน ๆ ทอดไปจนกว่าปลากระพงจะสุกกลายเป็นสีเหลืองสวย กรอบดีแล้ว ก็นำปลากระพงขึ้นแล้วพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
4. จากนั้นก็ทำน้ำราดปลาดโดยตั้งกระทะใบเล็ก แล้วใส่น้ำตาลปี๊บและน้ำปลา ผสมเข้ารวมกันจนเดือด ค่อนตักราดปลากระพงที่ทอดไว้

   5. ก็มาทำน้ำยำกันต่อ ด้วยการนำส่วนผสมต่างๆ น้ำปลา น้ำตาลทราย น้ำมะนาว พริกขี้หนู หอมแดง           และมะม่วง ปรุงรสชาติตามที่ต้องการ จากนั้นก็ตักใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยผักซี เสิร์ฟคู่กับปลากระพง           ทอด

4.ปลาช่อนลุยสวน อาหารไทยต้นตำรับ เหมาะกับคนรักสุขภาพ เพราะสมุนไพรต่างๆ ที่ใส่ค่อนข้างเยอะ แต่วิธีการทำบอกเลยว่าง่ายมากๆ ใครไม่เคยทำอาหารมาก่อนหรือมือใหม่ก็สามารถทำให้เมนูปลาช่อนลุยสวนอร่อยได้ ไปดูกันสิว่าจะต้องเตรียมซื้อวัตถุดิบอะไรบ้าง

 

ส่วนผสมการทำปลาช่อนลุยสวน

 

• ปลาช่อน 1 ตัว
• น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำพริกเผา 2 ช้อนโต๊ะ
• หอมแดงซอย 3 หัว
• ตะไคร้ซอย 1 ต้น
• ใบมะกรูดหั่นฝอย 5 ใบ
• พริกขี้หนูซอย 15 – 20 เม็ด
• มะม่วงเปรี้ยวซอย ครึ่งลูก
• ขิงแก่หั่นเต๋า ½ ถ้วยตวง
• มะนาวหั่นเต๋า ½ ถ้วยตวง
• ผักชีฝรั่งซอย 1 ต้น
• พริกแห้งทอด 10 เม็ด
• ถั่วลิสงทอด ½ ถ้วยตวง
• ใบสะระแหน่ 1 ต้น

 

วิธีการทำปลาช่อนลุยสวน

 

1. นำปลาช่อนไปล้างทำความสะอาด ต้องขอดเกล็ดและควักไส้ออกให้เรียบร้อย จากนั้นก็ทาเกลือบางๆ รอบตัวปลาแล้วพักทิ้งไว้
2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันให้ท่วมตัวปลา โดยใช้ไฟแรง เมื่อน้ำมันเดือดได้ทีแล้วก็ลดไฟลง แล้วนำปลาช่อนลงไปทอดในกระทะ จนกว่าจะสุกเหลืองกรอบ แล้วนำขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมันก่อนลงจาน
3. คราวนี้ก็มาทำน้ำยำกันต่อเลย โดยทำส่วนผสมต่างๆ ได้แก่ น้ำพริกเผา น้ำปลา น้ำตาลทราย และน้ำมะนาว คลุกเคล้าให้เข้ากัน ซึ่งจะเผ็ดหรือเปรี้ยวก็เติมได้ตามที่ต้องการเลย จากนั้นให้ใส่พริกขี้หนูซอย มะนาวหั่นเต๋ว หอมแดงซอน ขิงแก่หั่นเต๋า ใบมะกรูดหั่นฝอย ผักชีฝรั่งซอย และมะม่วงซอย แล้วก็ให้คลุกเคล้าให้เข้ากัน
4. นำน้ำยำที่ได้ไปราดลงบนตัวปลาช่อน แล้วโรยด้วยใบสะระแหน่ ถั่วลิสงทอด และพริกทอด เพื่อตกแต่งจานให้ดูสวยงามและน่ากินยิ่งขึ้น

 

 

5.ยำปลาแซลมอน เมนูยอดฮิตระดับตำนาน ร้านยำไหนที่ไม่มียำแซลมอนถือว่าเอ๊าท์มากๆ ยิ่งถ้าคนไทยด้วยแล้วเรื่องรสชาติก็ต้องขอแซ่บไว้ก่อน วันนี้เราก็มีเคล็ดลับให้คนที่ชอบกินยำสามารถทำกินเองที่บ้านได้ ในราคาที่ประหยัดมาฝากกันด้วย

 

ส่วนผสมการทำยำปลาแซลมอน

 

• ปลาแซลมอน หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แบบลูกเต๋าหรือสไลด์บาง ๆ ก็ได้แล้วแต่ชอบเลย
• พริกขี้หนูหั่นเล็ก ปริมาณตามความจี๊ดจ้าดของแต่ละคน
• น้ำมะนาวก็ประมาณ 2 ลูก หรือจะมากกว่าน้อยกว่าได้ตามความเปรี้ยวของแต่ละคน
• น้ำตาล 1 ช้อนชา
• น้ำปลา 1 – 2 ช้อนโต๊ะ
• ตะไคร้ซอยบาง ๆ 1 – 2 ต้น
• กระเทียมจีนสับละเอียด 4 กลีบ
• หอมแดงซอย 2 หัว
• ต้นหอมซอยสำหรับโรยหน้า

 

วิธีการทำยำปลาแซลมอน

 

1. ให้เริ่มจากทำน้ำยำกันก่อน โดยนำส่วนผสมต่างๆ ได้แก่ น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย ผสมรวมกันให้คนจนกว่าน้ำตาลจะละลาย
2. จากนั้นก็ให้ตะไคร้ กระเทียม หอมแดง พริกขี้หนู แล้วคลุกให้เข้ากันอีกครั้ง จากนั้นก็นำปลาแซลมอนใส่ลงไปได้เลย แล้วก็คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วก็ชิมรสชาติว่าพอใจหรือยัง สามารถเติมเผ็ด เปรี้ยว เค็ม ได้ตามใจคนกินเลย เมื่อได้รสชาติที่ต้องการแล้ว
3. ตักใส่จานเสิร์ฟได้เลยจ้า แค่นี้ก็ได้ยำปลาแซลมอลรสแซ่บที่ไม่เหมือนใครมานั่งกินชิลล์ๆ