เดินป่า รับพลังบนหลังมังกร ทริปเดินป่าระยะสั้นที่ฮ่องกง ฉลองเปิดประเทศ

วันนี้  "คมชัดลึกออนไลน์" จะชวนคุณผู้อ่านติดตาม "จอม" อุไรพรรณ์ อภิขันติกุล ผู้หญิงตัวเล็ก ขาสั้น ที่ชอบเดินทางคนเดียวไปหาสถานที่ธรรมชาติ และเล่าเรื่องการเดินทางก้าวเล็ก ๆ ผ่านเพจและเว็บไซต์ Small Steps Travel ปัจจุบันพักการเดินทางมาเป็นคุณแม่ลูกอ่อน พร้อมกับทำร้านสุขพอดี Simply Happy ที่เชียงใหม่ ที่มีทั้งกาแฟและหนังสือเด็ก แต่ยังคงคิดถึงการเดินทางเสมอ รอวันที่เด็กน้อยโตขึ้นอีกนิดจะกลับมาออกเดินทางอีกครั้งพร้อมกับเด็กน้อยที่จะก้าวเล็ก ๆ เดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ด้วยกัน

เตรียมตัวให้พร้อม เตรียมเงินให้พอ ชวนไปเดินป่า ฉลองการเปิดประเทศฮ่องกง หลังจากปิดประเทศไป 2 ปี เดินป่ารับพลัง เยียวยาจิตใจอีกครั้ง ธรรมชาติสมบูรณ์ขึ้น 

 

เส้นทางเดินป่าที่เรากำลังจะพาคุณผู้อ่านไปเดินกันนั้นมีชื่อว่า "DRAGON’S BACK"  ชาวฮ่องกงมีความเชื่อว่า การได้เดินป่าที่นี่เป็นการได้เดินอยู่บนหลังมังกร และเดินไปรับพลังบวก แต่สำหรับเรา ๆ เชื่อว่าพลังบวกนั้นก็คือความสุขที่ได้เดินอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่งดงามแปลกตา

 

พูดถึงฮ่องกงแล้ว สิ่งแรก ๆ ที่นึกถึงก็คงจะเป็นวัด ชอปปิง และของกิน … เราก็เหมือนกันค่ะ
เราเคยมาฮ่องกงครั้งหนึ่งแล้ว  เลยไม่ค่อยมีความกระตือรือร้นที่จะมาที่นี่อีก เพราะเราไม่ค่อยชอปปิง และไม่เน้นกินสักเท่าไหร่...จนครั้งนี้ ที่มีเหตุให้ต้องมาทำธุระ และเราอยู่เที่ยวต่อคนเดียวอีก 2 วันกว่า ๆ

 

... อืมมม เราจะทำอะไรดีนะ 

เราชอบเที่ยวภูเขา ชอบเดิน ก็เลยลองหาที่เที่ยวแบบเดิน เดิน และเดิน ขึ้นเขาดู เอาแบบที่ไม่เปลี่ยวและไม่อันตรายจนเกินไป  เพราะว่า...เราจะไปคนเดียว จนมาเจอข้อมูลของสถานที่นี้

"Dragon’s Back"

Dragon’s Back เป็นเส้นทางเดินที่เป็นส่วนหนึ่งของ Hong Kong Trail Section 8  อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะฮ่องกง โดย Dragon’s Back เป็นเส้นทางที่ TIME Asia เคยให้เป็น the best urban hiking trail เลยนะ
ด้วยเส้นทางเดินบนเขาริมทะเล ที่เห็นวิวทะเลแบบพาโนรามาสวยงาม  เราตัดสินใจไปเดินที่ Dragon’s Back 
ซึ่งเราก็ไปได้พบเจอวิวที่ดีต่อใจแบบนี้มา

อยากจะไปเจอธรรมชาติ เจอวิวสวย ๆ  ก็ต้องแลกด้วยความพยายามในการเดินขึ้นเขากันหน่อย 
ครั้งนี้จะมารีวิวการเดิน Dragon’s Back ไว้เป็นข้อมูลเผื่อเพื่อน ๆ จะสนใจลองไปเดินเขาที่ฮ่องกงกันค่ะ

การเดินทาง

ขาไป :  MTR สถานี Shau Kei Wan >>  ขึ้นรถบัส สาย 9 (to Shek O via To Tei Wan ( Dragon’s Back )) ชานชาลา J ชานชาลาสุดท้าย ลงที่ป้าย To Tei Wan >> ทางเริ่มเดินอยู่ฝั่งเดียวกับฝั่งที่ลงรถบัส

ขากลับ : Mini Bus ตรง Tai Long Wan  >>  MTR สถานี Shau Kei Wan

ระยะทาง 
จากถนน Shek O ตรงป้ายรถ To Tei Wan ถึง Tai Long Wan ประมาณ 8.5 km

เส้นทางการเดิน
ป้ายรถ To Tei Wan ถนน Shek O >> Vantage Point over Shek O Peninsula >> Shek O Peak >> Dragon’s Back >> Pottinger Gap >> Tai Long Wan

 

ของที่ควรเตรียมมา

• อาหารและน้ำดื่ม เพราะระหว่างทางไม่มีร้านขายอาหาร / น้ำ
• ทากันแดด และเอาหมวกมาด้วย (เตรียมเสื้อแขนยาวใส่กันแดดมาด้วยก็ดีนะ) เพราะทางเดินบางช่วง ต้องเดินในที่โล่ง ไม่มีร่มเงาบังแดด

เตรียมตัวกันพร้อมแล้ว ก็เดินทางกันเลยดีกว่าค่ะ !!

 

การเขียนถึง Dragon’s Back ทั้งหมดจะแบ่งเป็นตอน ๆ ตามนี้นะคะ
0  —  เริ่มเดินทางไป Dragon’s Backและการลงรถเมล์ผิดป้าย
1  —   เส้นทางช่วงแรก  ถนน Shek O >> Vantage Point over Shek O Peninsula
2  —  Shek O Peak จุดที่สูงที่สุดของเส้นทาง Dragon’s Back
3  —  เดินสันหลังมังกรกันต่อ ( Dragon’s Back )
4  —  จาก Dragon’s Back ไปจนจบเส้นทางที่ Tai Long Wan
5  —  นั่งพัก รับลมคลื่นที่ Big Wave Bay แล้วค่อยเดินทางกลับ MTR

 

ตอนที่ 0  —  เริ่มเดินทางไป Dragon’s Back และการลงรถเมล์ผิดป้าย

จาก MTR สถานี Shau Kei Wan ออก exit A แล้วไปขึ้นรถบัสสาย 9 (to Shek O via To Tei Wan ( Dragon’s Back )) 
ที่ชานชาลา J ชานชาลาสุดท้าย สังเกตง่าย ๆ จะเป็นชานชาลาที่มีคนมาต่อแถวเยอะที่สุด  รถมี 2 ชั้น โดยป้ายที่ต้องลงคือ To Tei Wan ถ้าเราลงป้ายถูกที่ To Tei Wan เราก็คงได้เดิน Dragon’s Back เลย

แต่เราขอนอกเส้นทางนิดนึง (แบบไม่ได้ตั้งใจ 555)  คือพอขึ้นรถได้ เราก็ตั้ง Google Maps ที่ Dragon’s Back ไง ละไม่สนใจดูชื่อป้ายรถเมล์ และลืมขยายรูปดูว่า Google Maps มันให้เราไปลงที่ป้ายชื่ออะไร คิดไปเองว่ามันปักให้เราไปลงที่ป้าย To Tei Wan ทีนี้ก็นั่งเพลิน ๆ ดูวิวดูทางนู่นนี่ไป ถ่ายรูปไป

 

มากดดู Google Maps อีกที   เฮ้ยยยย จะถึงป้ายแล้ว เลยรีบกดปุ่มให้รถจอด โดดลงรถ แล้วก็งงว่าทำไมไม่มีใครลงป้ายนี้เลยนะ ปกติถ้าคนต่อคิวขึ้นรถเยอะขนาดนี้ เค้าต้องลงป้ายนี้กันเยอะมากแน่ ๆ กว่าจะรู้ตัวว่ามันแปลก ๆ   รถบัสก็จากไป พร้อมกับที่เราเงยหน้าขึ้นไปมองป้าย … และพบว่า … ป้ายนี้คือป้าย Lan Nai Wan ไม่ใช่ To Tei Wan กรี๊ดดดดดด
(จริง ๆ จุดเริ่มเดินใน Google Maps จะมีเขียนไว้ใกล้ ๆ ป้าย To Tei Wan เลยว่าเป็นทาง Dragon’s Back – Trail Start แต่รีบลงรถไง เลยไม่ทันดู ฮืออออ)

เราลืมไปว่า Google Maps มันจะหาเส้นทางที่สั้นที่สุดให้   แล้วเส้นทางเดินเขาในฮ่องกงเค้าทำไว้ให้หลายทาง Trail Section  1 2  3 …​ ถึงเลขไหนก็ว่ากันไป   Goolgle Maps เลยพามาทางที่ไปถึงได้สั้นที่สุด …​  แต่ปัญหาคือมันไม่ใช่ทางที่เราอยากเดินนน

ตอนนี้มีทางเลือกคือ จะรอบัสคันต่อไปมาละนั่งบัสไปลง To Tei Wan หรือจะเดินไปเพราะมันคือป้ายรถถัดไป ซึ่งอยู่ห่างไป 1.5 กม. (วัดระยะทางตามถนนที่รถวิ่ง) ซึ่งแน่นอน  เราเลือกเดินอยู่แล้วเพราะขี้เกียจรอ และไหน ๆ ก็มาลงป้ายนี้แล้ว

อย่างที่บอกว่าเส้นทางเดินที่ฮ่องกงเค้าทำไว้หลาย Trail มาก   เราเลยเปิด Maps ดู เห็นว่า มีส่วนหนึ่งของเส้นทาง Hong Kong Trail Section 7 ที่สามารถเดินจากป้าย Lan Nai Wan ไป To Tei Wan ได้ เราเลยเดินเข้า Hong Kong Trail Section 7 เพื่อไปยังป้าย To Tei Wan เดินไกลกว่าเดิมหน่อย แต่เราว่าวิวมันคงจะสวยกว่ามาเดินบนถนน

ลงป้ายผิดก็จริง  แต่ไหน ๆ ได้มาเดินเส้นทางนี้แล้ว ก็จะขอพูดถึงหน่อยละกัน

ช่วงแรกของเส้นทางนี่จะเดินลงบันไดอย่างเดียวเลย เดินลงไปยาว ๆ แบบนี้ก็แอบหวั่นใจไป ว่าช่วงสุดท้ายมันก็คงต้องเดินขึ้นสินะ ฮือออ ระหว่างทางก็มีวิวสวย ๆ ให้ได้เห็นบ้าง

เดินมาซักพัก จะเจอทางแยก ให้ไปทางซ้ายเพื่อไป trail ที่เป็น Dragon’s Back กับระยะทางอีก 1.5 กม.

พอเลี้ยวซ้ายและเงยหน้าขึ้นเท่านั้นล่ะ  สิ่งที่เราไม่อยากเจอก็มาแล้ว
บันไดขึ้น ขึ้น และขึ้น … ขึ้นกันไปยาว ๆ เลย (ก็ตอนเริ่มเดิน ก็ลงแบบยาวเลยนี่นา เหอๆๆ)
แต่มาถึงขั้นนี้แล้ว ตัดสินใจว่าจะเดินแล้ว   ก็ต้องเดินกันต่อไป

เดินเหนื่อย และปวดขา  นี่คือยังไม่ได้เริ่มเดิน Dragon’s Back แต่ ณ จุดนั้น ก็เริ่มเหนื่อยแล้ว
ยังดีหน่อยที่พอมองหันหลังกลับไป ก็ยังมีวิวสวย ๆ ให้เห็น  ให้มีกำลังใจขึ้นมาหน่อย

หลังจากการเดินเส้นทางที่ไม่ได้ตั้งใจมาเดิน และจบด้วยการขึ้นบันไดยาวไป ๆ ตลอดทาง เราก็มาถึงแถว ๆ ป้ายรถเมล์ To Tei Wan จุดเริ่มเดินของ Dragon’s Back   ซึ่งจริง ๆ แล้วเราควรลงที่ตรงนี้ !!

รู้สึกคนเยอะขึ้นมาทันที  หลังจากที่ไปเดินเส้นทางที่เดินคนเดียวโดดเดี่ยวเดียวดาย  มาสักพักหนึ่ง เอาล่ะ  คราวนี้เราจะเริ่มเข้าเส้นทางที่เราตั้งใจมาเดินสักที ต้องขอโทษด้วยที่นอกเรื่องไปนาน  เผื่อใครจะลงป้ายผิดแบบเรา จะได้เอาไว้เป็นตัวเลือกแทนการรอบัสคันต่อไปเพื่อนั่งต่อไปอีก 1 ป้าย 

มาเริ่มเดิน Dragon’s Back กันเถอะ !!  ไม่เน้นเนื้อหาละนะ อยู่ด้านบนแล้ว เน้นรูปยาว ๆ ไปเลยยย
 

ตอนที่ 1  —   เส้นทางช่วงแรก  ถนน Shek O >> Vantage Point over Shek O Peninsula
การเดินไป Dragon’s Back จะเริ่มจากถนน Shek O โดยช่วงแรกจะเดินภายใต้ร่มเงาของต้นไม้

ไปสักพัก จะออกสู่ทางโล่งที่ไม่มีอะไรบังแดดแล้ว ถ้าในวันฟ้าใส บอกเลยว่าแดดแรงมากวันที่เราไปเดินก็เช่นกัน ..​.

มีป้ายตลอด ไม่ต้องกลัวหลง และทุกคนต่างก็เดินไปทางเดียวกันหมด ทางราบก็มี ขึ้นบันได้ก็มี

เดินมาสักพัก จะเจอทางแยก ให้ไปทางขวา ตามป้าย Dragon’s Back 

จากถนน เดินไปไม่เกินครึ่งชั่วโมง จะถึงจุดหมายแรกของเรา Vantage Point over Shek O Peninsula จุดชมวิวสวย ๆ แวะถ่ายรูป ยืนดูวิวกันซักแป๊บ แล้วค่อยไปต่อค่ะ

ต่อไปคือจุดหมายที่ 2 ของเราในเส้นทางนี้ กับ Shek O Peak

 

ตอนที่ 2  —  Shek O Peak จุดที่สูงที่สุดของเส้นทาง Dragon’s Back

จาก Vantage Point over Shek O Peninsula ให้เราไปทางซ้าย ซึ่งจะเป็นทางเดินตามแนวเขา เพื่อไป Shek O Peak

ตลอดทาง ก็จะเป็นวิวเดิม แต่เปลี่ยนมุมไปเรื่อย ๆ

คือวิวมันเป็นวิวทะเลแบบพาโนรามา กว้างมาก
เราชอบสีของน้ำทะเลที่นี่ .. สวยดี

ทางเดินและวิวภูเขาระหว่างเดิน

ซึ่งทางเดินในส่วนนี้ จะเป็นทางเดินบนสันเขาตลอดทาง
เตรียมหมวกมาด้วยนะ แดดแรงมาก

เดินดูวิวภูเขา ชายทะเลและทะเลไกลสุดตา ซักพักเราก็มาถึงจุดหมายถัดไป
Shek O Peak   จุดที่สูงที่สุดของเส้นทาง Dragon’s Back

 

ตอนที่ 3  —  เดินสันหลังมังกรกันต่อ ( Dragon’s Back )

จาก Shek O Peak ก็มาเดินเส้นทางสันเขาต่อเพื่อพิชิตหลังมังกร  Dragon’s Back ซึ่งวิวก็จะเหมือนกับรูปด้านบนค่ะ

 

ตอนที่ 4  —  จาก Dragon’s Back ไปจนจบเส้นทางที่ Tai Long Wan

พอพ้นจากช่วงสันเขา เราก็จะไม่เห็นวิวภูเขา ชายหาด และทะเลแล้วค่ะ
มาดูลักษณะเส้นทางเดินกันดีกว่า

เดินลงเขาจาก Dragon’s Back มาซักแป๊บ จะเจอทางแยกค่ะ
หากจะกลับเลย ไม่เดินต่อแล้ว ก็ไปทางซ้ายเพื่อไป Shek O Road
หรือถ้าจะเดินต่อเพื่อไป Tai Long Wan ก็ไปทางขวาค่ะ

เราเลือกไปทางขวาเพื่อเดินต่อให้จบทั้งเส้นทาง  แต่จากจุดนี้ คนที่เลือกเดินต่อ มีบ้างแต่ไม่เยอะมาก จึงค่อนข้างสงบกว่าช่วงที่เดินบน Dragon’s Back ค่ะ เส้นทางที่เดินจะเป็นทางราบไปเกือบตลอดทาง เดินในร่มเงาต้นไม้ และไม่มีวิวให้ดูนะคะ

ทางเดินบางช่วงเป็นหิน ระมัดระวังกันด้วยนะ

เดินมาสักพักจะเข้าสู่ช่วงที่เป็นถนน

ซึ่งจะมาเราไปเจอทางแยกอีกแล้ว เหมือนเดิมค่ะ เลือกกลับบ้าน ไม่เดินแล้ว ก็เลี้ยวซ้าย ถ้าจะเดินต่อก็ไปขวา …
ถ้ามาถึงตรงนี้ แสดงว่าเดินจาก Shek O Peak มาแล้ว 2.5 กม.  และจะต้องเดินไป Big Wave Bay (ชายหาดที่ Tai Long Wan) อีก 2.5 กม. ค่ะ

แน่นอนค่ะ เราเลือกเดินต่อ เพราะเราชอบเดิน ช่วงถนนไม่มีที่ร่มนะคะ แดดร้อน

เดินมาประมาณ 1 กม.​   พอมาถึงตรงนี้ ให้ชิดซ้าย เพื่อเดินตรงต่อไปค่ะ ตามป้ายเลย

เดินตรงมานิดนึง จะเจอทางแยก ให้ไปทางขวาค่ะ จะไปบันไดเดินลงไปเรื่อย ๆ

พอพ้นช่วงบันไดแล้ว จะเป็นทางดินและหินแบบนี้ต่อค่ะ

สุดท้ายแล้ว ก็จะจบด้วยทางแบบบันได จนไปสุดเส้นทางการเดินของเส้นทางนี้เลยค่ะ

คือช่วงเส้นทางหลังจาก Dragon’s Back จะไม่มีวิวแบบบนสันเขาให้ดูแล้ว แต่ถ้าอยากจะเดินให้จบครบหมดทั้งเส้นทาง ก็เดินเรื่อย ๆ ในธรรมชาติ ตามเส้นทางด้านบนได้ค่ะ ซึ่งจุดหมายปลายทางของเส้นทางนี้ คือ  Big Wave Bay ชายหาดที่ Tai Long Wan ค่ะ

ระหว่างทางของการเดินในเส้นทางเดิน trail จะมีเสาบอกหมายเลขอยู่ ซึ่งเราเจอตลอดทางเลย ตอนแรกเราก็งงนะ ว่ามันคืออะไร  จนเดินมาสุดทางถึงเจอป้ายอธิบายไว้ เสานี้คือ Distance Post เป็นเสาสำหรับนักเดินเขา ในกรณีที่มีเหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น ก็ให้แจ้งหมายเลขของเสาที่ใกล้ที่สุดให้กับ rescue operator เพื่อแจ้งจุดที่อยู่ เพื่อให้มาช่วยเหลือได้ โดยสำหรับ Hong Kong Trail ซึ่งมีระยะทางทั้งหมด 50 กม. นั้น จะเริ่มหมายเลข H001 ที่ The Peak และสิ้นสุดที่ Big Wave Way ด้วยหมายเลข H100 โดยระยะห่างระหว่างเสาอยู่ที่ 500 เมตรค่ะ ถ้าไปเดินกัน แอบจำเลขเสาล่าสุดที่ผ่านระหว่างเดินไว้ด้วยก็ดีนะคะ เราสารภาพเลยว่าตอนเดินเราไม่ได้สนใจเลย เพราะตอนแรกเราไม่รู้ว่ามันคืออะไร เหอๆๆ เสาสุดท้าย  H100

 

ตอนที่ 5  —  นั่งพัก รับลมคลื่นที่ Big Wave Bay แล้วค่อยเดินทางกลับ MTR

พอจบเส้นทางแล้ว ก็จะมาทะลุที่หมู่บ้าน ตรง Tai Long Wan

มีบอกเส้นทางเดินไว้ค่ะ

พอเดินทะลุออกมาจากเขตที่เป็นบ้านพักอาศัย เราก็ไปแวะ Big Wave Bay กันซะหน่อยค่ะ  เดินมาเยอะแบบนี้แล้ว  ไปนั่งพัก ฟังเสียงคลื่นกันซักแป๊บ แล้วค่อยกลับที่พัก เดินตามตรอกซอกซอย จนสุดทางที่เจอสนามเด็กเล่น ให้ไปทางซ้ายเพื่อไปชายหาด

ชายหาดตรงนี้ มีเท่านี้เองค่ะ สั้น ๆ

มานอนเล่นกันก็มีบ้างแต่ไม่เยอะ

ส่วนใหญ่จะมาเล่น Surf กันค่ะ

ชื่อ Big Wave Bay .. คลื่นก็ต้อง Big  สินะ

เรานั่งพัก ให้เท้าหายล้า  ฟังเสียงคลื่น  เอาหน้ารับลม  ไปสักพัก ก็ได้เวลากลับที่พัก จากชายหาด เดินตามเส้นทางหลัก ย้อนมาทางสนามเด็กเล่น ไปตามทางเรื่อยๆ จะเจอ minibus จอดรออยู่ ซึ่งจะไปส่งเราถึงที่ MTR เลยค่ะ หน้าตา minibus

สำหรับการมาฮ่องกงในครั้งนี้ การเที่ยวเดินป่า เที่ยวภูเขาชมธรรมชาติของฮ่องกง เราได้ประสบการณ์ที่แตกต่างออกไป เราไม่เคยคิดว่าการมาเที่ยวฮ่องกงจะมีแบบนี้   ทำให้เรารู้ว่าคนที่นี่เค้าก็เดิน trail กันเยอะ เหมือนมาเดินออกกำลังกาย  และเส้นทางให้เดินก็มีเยอะ

ในส่วนของเส้นทางเดิน Dragon’s Back นั้น เราว่าไม่ยาก ไม่หนัก ไม่ลำบาก และมีเส้นทางเดินพร้อมป้ายไว้ให้ ไม่ต้องกลัวหลง เดินเรื่อย ๆ เหนื่อยก็พัก ไปเรื่อย ๆ ก็จบเส้นทางแล้ว  สำหรับวิวนั้น เราว่าสวยแค่ช่วงเดินตรงสันเขา เพราะหลังจาก Dragon’s Back แล้ว จะไม่เห็นวิว แต่เดินใต้ร่มต้นไม้  แต่หากจะอยากเดินให้จนจบเส้นทางก็เดินได้นะ เดินดูเส้นทางเค้า ดูธรรมชาติ  และไปนั่งชิว ๆ ริมชายหาดที่ Big Wave Bay

Dragon’s Back … เราว่าก็เป็นทางเลือกหนึ่งของการมาเที่ยวฮ่องกง ที่อยากจะลองอะไรใหม่ ๆ นอกจากการไปวัด ชอปปิง และหาของอร่อยรับประทาน 

ขอบคุณ 

คุณอุไรพรรณ์ อภิขันติกุล
www.smallstepstravel.com