เวลานี้หลายคนคงได้ดูซีรีย์เสียดสีสังคม "Dont Look Up" ของเน็ตฟลิกซ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และก็เชื่อว่าหลายคนคงสงสัยแบบเราว่า ทำไมนักวิทยาศาสตร์ต้องเล่าเรื่องง่าย (อุกกาบาต) ให้เป็นเรื่องยากด้วย เราจึงไปหาข้อมูลมาให้
"Don’t Look Up" ซีรีย์เชิงอุปลักษณ์ (มโนการทำความเข้าใจสิ่งหนึ่งด้วยอีกสิ่งหนึ่ง) เสียดสีการเมืองสหรัฐอเมริกาของเน็ตฟลิกซ์ (Netflix) ที่ได้มา ลีโอนาร์โด ดิแคปริโอ มาเป็นนักแสดงนำชาย และ เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ เป็นนักแสดงนำหญิง ทั้งคู่สวมบทบาทเป็นนักดาราศาสตร์ผู้ค้นพบว่าอุกกาบาตกำลังพุ่งมายังโลกและจะก่อให้เกิดการทำลายล้างมนุษยชาติได้ แต่ที่น่าสนใจของหนังเรื่องนี้ คือ ทำไมนักวิทยาศาสตร์ (ลีโอนาร์โด) ถึงไม่สามารถเล่าเรื่องอุกกาบาตออกมาเป็นภาษาง่าย ๆ ให้คนทั่วไปเข้าใจได้ แต่กลับใช้ภาษาทางวิชาการที่ซับซ้อนในการอธิบาย เฉกเช่นกับงานวิจัยต่าง ๆ ที่คนธรรมดาอย่างเราก็อยากเข้าใจ แต่ก็ถอดใจไปซะก่อนเพราะศัพท์เฉพาะทางต่าง ๆ ที่ยากเกินจะเข้าถึง
ฉากที่เราพูดถึงนั้นคือฉากที่สองนักดาราศาสตร์ต้องเดินสายออกไปเล่าเรื่องนี้ให้ประธานาธิบดีฟัง แต่ลีโอนาร์โดกลับไม่สามารถอธิบาย "โลกกำลังจะแหลกสลายถ้าเราไม่หยุดอุกกาบาตนั้น" ได้ด้วยภาษาง่าย ๆ อีกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือนักวิทยาศาสตร์คนดัง แอลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เพราะถึงแม้เขาจะได้เผยแพร่งานที่ได้การยอมรับจากคนทั่วโลกแต่มีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูดแม้แต่นิดเดียว ในความเป็นจริงอาจไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์เท่านั้นที่นิยมใช้ศัพท์ทางเทคนิคเพื่ออธิบายเรื่องราว แต่ยังรวมถึงหมอกับคนไข้ นักวางแผนนโยบาย รวมถึงผู้เชี่ยวชาญอื่นแขนงต่าง ๆ อีกด้วย
ซึ่งถ้าถามว่าเหล่าผู้เชี่ยวชาญและคนธรรมดาอย่างเราต่างกันอย่างไร เหตุผลแรกนั่นเป็นเพราะเขาไม่รู้ว่าคำศัพท์ที่พวกเขาใช้เป็นศัพท์ที่คนธรรมดาเข้าไม่ถึง เนื่องจากพวกเขานั้นต้องคำสาปของความรู้ หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Curse of Knowledge พวกเขาจึงเล่าอะไรจากพื้นฐานความคิดว่า สิ่งที่เขารู้ต้องเป็นสิ่งที่คนอื่นรู้เช่นกัน พูดอีกอย่างคือ พวกเขาไม่รู้ว่าสิ่งที่เขากำลังพูดถึงเป็นสิ่งที่ผู้อื่นไม่ได้มีความรู้พื้นฐานเหมือนกับเขา
ดังนั้นความแตกต่างระหว่างนักวิทยาศาสตร์กับคนธรรมดาคงไม่ใช่เรื่องของความฉลาดหรือบ้องตื้นใด ๆ แต่กลับเป็นเรื่องของ 'ความรู้พื้นฐาน' ที่มีกันคนละระดับ
ที่มาข้อมูลและรูปภาพ:
Netflix
ข่าวที่เกี่ยวข้อง