กาแฟสกัดเย็นไนโตร หรือ "ไนโตร โคล์ดบรูว์" ต่างจากกาแฟเย็นอย่างไร?

ทั้งผู้ที่เป็นคอกาแฟ และ ทั้งผู้ที่ไม่ได้เป็นคอกาแฟ คงได้เห็นผ่านตากันมาบ้างกับนวัตกรรมการชงกาแฟแบบ ไนโตร โคล์ดบรูว์ (Nitro Cold Brew) เรียกอีกอย่างว่า กาแฟสกัดเย็นไนโตร หรือกาแฟที่มีฟองละเอียดนุ่มอยู่ทั่วทั้งแก้วโดยเฉพาะบริเวณด้านบนของแก้ว และแม้ถึงรู้ว่ามันต่างกันแต่คุณก็ยังอยากรู้ว่า อะไรที่ทำให้ กาแฟ ไนโตร โคล์ดบรูว์ มันต่างจากกาแฟดำทั่วไป

 

จุดเริ่มต้นที่มาจาก "เบียร์"

ช่วงคริสต์ทศวรรษ 1950 นักคณิตศาสตร์ ชาวอังกฤษ ชื่อ ไมเคิล เอ็ดเวิร์ด แอช  ได้นำทีมคิดค้นและพัฒนาระบบนำจ่ายก๊าซไนโตรเจนให้กับเบียร์ยี่ห้อดังในประเทศไอร์แลนด์ ซึ่งเป็นระบบที่คิดมาเพื่อรักษาคุณภาพในการนำจ่าย "ดราฟท์เบียร์" (Draft Beer) ให้คงคุณภาพที่ดีไว้ เนื่องจากดราฟท์เบียร์ต้องเก็บรักษาให้เย็นอยู่ตลอดเวลา จนได้มาเป็นรูปแบบของการเสิร์ฟผ่านถังเบียร์ (Keg) อย่างที่เราเห็นทุกวันนี้

 

 

ต้องบอกว่า ปัจจุบันไม่ใช่ เบียร์ และ กาแฟ เท่านั้นที่ถูกนำไปอัดด้วยก๊าซไนโตรเจนให้มีรสชาติและสัมผัสที่พิเศษ เพราะไม่ว่าจะเป็น ชา น้ำผลไม้ ค็อกเทล (Cocktail) และม็อกเทล (Mocktail) ต่างได้ถูกนำมาแต่งเติมด้วยก๊าซไนโตรเจนให้น่าสนใจมากขึ้นเช่นเดียวกัน 

 

 

ก๊าซไนโตรเจน คืออะไร

ก๊าซไนโตรเจน เป็นก๊าซเฉื่อย โปร่งใส ไม่มีกลิ่น และ ไม่สามารถละลายในของเหลวเช่นเดียวกับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แต่ด้วยฟองก๊าซไนโตรเจนที่มีขนาดเล็กและมีเสถียรภาพกว่ามาก เมื่อทำการอัดก๊าซไนโตรเจนลงไปในเครื่องดื่มภายใต้ความดัน จึงเกิดการกระจายตัวเป็นฟองขนาดเล็กจับตัวเข้ากับทั่วเครื่องดื่ม เกิดเป็นระลอกคลื่นก๊าซไหลลงสู่ก้นแก้วที่เรียกว่า "Cascading Effect" ทำให้เครื่องดื่มมีรสสัมผัสที่ ครีมมี่ หรือ ความนุ่มละมุนลิ้น (Creamy)  อีกทั้งยังเกิดการดันตัวเป็นโฟมนุ่มอยู่ด้านบนสุดของแก้ว ต่างกับน้ำโซดาซึ่งอัดด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จึงทำให้เครื่องดื่มมีความซ่า แต่ไม่มีรสสัมผิสเป็นเนื้อครีม ซึ่งต่างจากกาแฟเย็นอื่น ๆ ที่จะผ่านกระบวนการชงจากเครื่องที่เรียกว่า เครื่องชงเอสเพรสโซ่ (Pump Espresso) 

 

เมื่อก๊าซไนโตรเจนมาอยู่ในเครื่องดื่มอย่างกาแฟสกัดเย็น  จึงทำให้หลายคนติดใจในรสสัมผัส ที่แตกต่างนี้ รวมทั้งมีเสียงจากนักดื่มบางกลุ่มว่า การดื่ม กาแฟไนโตร โคล์ดบริว ทำให้รสชาติที่ได้มีความชัดเจนขึ้น และมีความกลมกล่อมในตัวมากยิ่งขึ้น