Lifestyle

ชวน "แช่ออนเซ็น" เที่ยวปีใหม่ พักฟื้นกายใจ ที่ทำงานหนักมาทั้งปี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หยุดยาวปีใหม่ทั้งทีใครที่กำลังมองหาที่เที่ยว และ กิจกรรมสบาย ๆ เพื่อได้พักฟื้นร่างกาย และ จิตใจ เราขอแนะนำให้ออกไปเปย์ตัวเองและคนที่เรารักด้วยการออกไป "แช่ออนเซ็น"

ทำงานหนักมาทั้งปีแล้วเนอะ เก่งมากเลยนะทุกคน งั้นเรามาต้อนรับปีใหม่ด้วยการพักผ่อนเพิ่มพลังกาย พลังใจด้วยการ "แช่ออนเซ็น" ดีไหม แต่สงสัยไหมว่า "แช่ออนเซ็นช่วยให้ผ่อนคลายอย่างไร? แล้วเราจะไปแช่ออนเซ็นในกรุงเทพที่ไหนได้บ้าง? มาตามอ่านกันเลย

 

ออนเซ็น (Onsen) คืออะไร? 

Onsen หรือ ออนเซ็น หรือ เป็นคำทับศัพท์ภาษาญี่ปุ่นแปลว่า “น้ำพุร้อน” โดยคำว่า “ออน (On)” แปลว่า “ร้อน” กับว่า “เซน (Sen)” ซึ่งหมายถึง “น้ำพุ” โดยออนเซ็นนั้นเป็นวัฒนธรรมการอาบน้ำของชาวญี่ปุ่นที่มีมาเนิ่นนาน เกิดขึ้นมาจากการที่ประเทศญี่ปุ่นมีภูเขาไฟมากมายที่ยังไม่ดับอยู่หลายลูก ทำให้มีน้ำแร่ที่มีคุณสมบัติพิเศษรักษาโรคหลายประการทั้งยังให้ความอบอุ่นผ่อนคลายได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

 

ออนเซ็น (Onsen) ดีอย่างไร? 

การแช่น้ำแร่ออนเซ็น จะมีแร่ธาตุที่ให้ประโยชน์แก่ร่างกายเราหลายชนิด เช่น แคลเซียม,แมกนีเซียม แร่ธาตุ 2 ตัวนี้จะช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดดำ การอักเสบในหลอดลม อาการปวดตามข้อ และยังช่วยทำให้กระดูกมีความแข็งแรง หรือแร่ซัลเฟอร์ จะช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของข้อต่อ ช่วยซ่อมแซมกระดูกอ่อนผิวข้อ และยังช่วยฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของกระดูกสันหลังได้

 

 

ประโยชน์ที่จะได้หลัง "แช่ออนเซ็น"

  • ทำให้ร่างกายผ่อนคลาย กระชุ่มกระชวย ลดความเครียดทั้งร่างกายและจิตใจ

  • เสริมสร้างความสดชื่นกระปรี้กระเปร่า

  •  บรรเทาอาการปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อ

  •  ช่วยบรรเทาอาการไขข้อกระดูกเสื่อม กระดูกพรุน ให้มีอาการดีขึ้นได้

  •  ช่วยขยายหลอดเลือด ทำให้การไหลเวียนโลหิตดีขึ้น

  •  ช่วยให้การดูดซึมและแลกเปลี่ยนออกซิเจนในร่างกายดีขึ้น

  • ระบบเผาผลาญในร่างกายดีขึ้นและทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

  •  มีแร่ธาตุบำรุงผิวพรรณเนียนสดใส ผิวพรรณเปล่งปลั่ง

  • ทำให้ผิวหนังสะอาดช่วยรักษาโรคผิวหนัง

  • ความร้อนของน้ำจะทำให้เหงื่อออก ช่วยขับสิ่งอุดตันใต้ผิวหนัง

  •  ช่วยรักษาแผลที่เกิดจากการฟก ช้ำ ให้หายเร็วขึ้น

  • ช่วยบำบัดรักษาความเสื่อมของผิวหนังวัยชรา

 

3 พิกัด "แช่ออนเซ็น" ที่ได้มาตรฐานในกรุงเทพฯ

1. Let’s Relax

ชวน "แช่ออนเซ็น" เที่ยวปีใหม่ พักฟื้นกายใจ ที่ทำงานหนักมาทั้งปี

ที่นี่เปิดทำการทุกวันตั้งแต่ 10.00 – 00.00 น. เรียกได้ว่าแช่กันได้ยาว ๆ ฟิน ๆ ยันเที่ยงคืน เหมาะกับคนที่กิจกรรมตอนเช้าแน่น มีเวลาตอนกลางคืนจะได้ไม่ต้องรีบกลับ 

 

ภายในจะมีทั้งหมดด้วยกันถึง 5 บ่อ  อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 40-42 องศาเซลเซียส โดย สายออนเซ็น มักจะบอกว่า Let’s Relax Onsen เป็นออนเซ็นที่น้ำแร่ค่อนข้างร้อนจริง เนื่องจากทำตามหลักธรรมเนียมของญี่ปุ่นแท้ ๆ โดยนอกจากน้ำจะร้อนแล้ว ยังต้องถอดเสื้อผ้าทั้งหมด มีเพียงผ้าขนหนูผืนเล็กไว้ปิดเพียงจุดเล้กๆ เท่านั้น บ่อทั้ง 5 นั้นแบ่งออกเป็น

  1. บ่อน้ำแร่ธรรมชาติจากแหล่งน้ำเมืองเกโระ (Gero) จังหวัดทากายาม่า (Takayama) ที่อุณหภมิประมาณ 41-42 องศา โดยติดอันดับ 1 ใน 3 แหล่งน้ำแร่ที่ดีที่สุดของญี่ปุ่นเช่นกัน ตัวแร่มีสรรพคุณในเรื่องของความสวยความงาน เหมาะสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะในเรื่องของผิวพรรณ นอกจากนี้ยังช่วยผ่อนคลายความเครียดได้ดี

 

  1. บ่อซิลค์บาธ (Silk Bath) หรือบ่อฟองอากาศออกซิเจนขนาดเล็กเข้มข้น อุณหภูมิประมาณ 40 องศา ซึ่งช่วยในเรื่องทำให้ผิวนุ่มลื่น ชุ่มชื่น คลายความเมื่อยล้าต่าง ๆ
     
  2. บ่อโซดา ​(Soda Bath) ช่วยในเรื่องระบบหมุนเวียนเลือด ชะลอการแก่ก่อนวัย อุณหภูมิประมาณ 40 องศา
     
  3. บ่อน้ำวน (Whirlpool) ที่อุณหภูมิประมาณ 36 องศา ด้วยการพ่นฟองอากาศจากหัวเจ็ทให้ความรู้สึกเหมือนโดนนวดอยู่ตลอดเวลา
     
  4. บ่อน้ำเย็น (Cold Bath)
     

ด้วยโลเคชั่นใจกลางทองหล่อ พร้อมน้ำแร่ส่งตรงจากญี่ปุ่น ราคา ​Onsen Day Pass ของ Let’s Relax นั้นจะอยู่ที่ 700 บาทน๊า
 

 

2. Kashikiri Onsen and Spa

ชวน "แช่ออนเซ็น" เที่ยวปีใหม่ พักฟื้นกายใจ ที่ทำงานหนักมาทั้งปี

Kashikiri Onsen and Spa ออนเซ็นส่วนตัวที่เพราะไม่ต้องโป๊ต่อหน้าสาธารณะ และได้บรรยากาศแบบญี่ปุ่นแบบสุด ๆ ปัจจุบัน Kashikiri Onsen and Spa มีทั้งหมด 2 สาขา คือ สาขาสุขุมวิท 49 (ทองหล่อ) และ สุขุมวิท 101/1 (อุดมสุข) เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.30 น. 

ด้วยความที่เป็นห้องส่วนตัวทำให้ลูกค้าจะได้บ่อออนเซ็นเพียง 1 บ่อไม้ ทางคาชิกิริมีทั้งห้องสำหรับส่วนตัว 1 ท่าน และส่วนตัว 2 ท่านสำหรับท่านที่มาเป็นคู่โดยจะเป็นลักษณะห้องเดี่ยวติดกัน ก่อนที่ทุกท่านจะเข้ามาในห้องนั้นพนักงานจะให้เลือกผงออนเซ็นโดยจะมีด้วยกันทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่

 

  1. ไวท์ รีบอร์น (White Reborn) จากเมืองคุสัทซึ (Kusatsu) 1 ใน 3 แหล่งน้ำที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น มีคุณสมบัติช่วยรักษาผดผื่น ภูมิแพ้ผิวหนัง ลดอาการอักเสบและสิว
     
  2. บลู เธอราพี (Blue Therapy) จากเมืองเบปปุ (Beppu) ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เนียนนุ่ม เล็บและผมแข็งแรง
     
  3. สุดท้ายโซดา ออนเซน (Soda Onsen) มีสรรพคุณช่วยปรับสมดุล เพิ่มออกซิเจนในเลือด ทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึก
     
  4. ไวท์ รีบอร์น (White Reborn) จากเมืองคุสัทซึ (Kusatsu) 1 ใน 3 แหล่งน้ำที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น มีคุณสมบัติช่วยรักษาผดผื่น ภูมิแพ้ผิวหนัง ลดอาการอักเสบและสิว
     
  5. บลู เธอราพี (Blue Therapy) จากเมืองเบปปุ (Beppu) ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เนียนนุ่ม เล็บและผมแข็งแรง
     
  6. สุดท้ายโซดา ออนเซน (Soda Onsen) มีสรรพคุณช่วยปรับสมดุล เพิ่มออกซิเจนในเลือด ทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึก

 

การเข้าแช่ออนเซ็นของที่นี่ราคา 700 บาทสำหรับ 45 นาที ในช่วง 5 นาทีสุดท้ายพนักงานจะมาเรียกเตรียมให้เราอาบน้ำ ออกมาทานอาหารว่างก่อนกลับบ้าน

 

 

3. Panpuri Wellness (ปัญญ์ปุริ เวลล์เนส)

ชวน "แช่ออนเซ็น" เที่ยวปีใหม่ พักฟื้นกายใจ ที่ทำงานหนักมาทั้งปี

 

ออนเซ็นสุดหรูบนชั้น 12 อาคารเกสรวิลเลจ (Gaysorn Village) เดินทางสะดวก ติด BTS ชิดลม เปิดทำการทุกวันเวลา 10.00 -23.00 น. บรรยากาศที่นี่จะเน้นความมินิมอล สะอาด หรูหรา สกินแคร์ระดับพรีเมียม และยังมีโซนพักผ่อนนอนชมวิวกรุงเทพ ฯ ชิลล์ ๆ อีกด้วย  จุดเด่นของที่นี่ คือวิวระดับล้าน เพราะเมื่อแช่ออนเซ็นแล้วมองผ่านกระจกออกตึกชั้น 12 นั้น ทุกท่านจะได้พบกับวิวย่านราชประสงค์แบบพาโนราม่าทีเดียว

 

โซนออนเซ็นของทาง Panpuri ถูกออกแบบโดยสถาปนิกชาวญี่ปุ่นชื่อดัง "โนบุฮิโระ นากามูระ" (Nobuhiro Nakamura) ทำให้มั่นใจได้ว่าทุกอย่างนั้นถูกหลักของประเทศต้นแบบอย่างแน่นอน โดยจะมีทั้งลักษณะของบ่อรวม แยกตามเพศ และสำหรับผู้รักความสันโดษสามารถจองบ่อส่วนตัวได้เช่นกัน

 

บ่อออนเซ็นที่นี่ก็เรียกได้ว่าจัดเต็มสุด ๆ เพราะแม้จะอยู่บนอาคารสูงเสียดฟ้า แต่ก็ยังให้มาถึง 5 บ่อ โดยจุดเด่นแต่ละบ่อจะอยู่ที่

  1. บ่อซิกเนเจอร์ (Signature Bath) จะมีอุณหภูมิอยู่ที่ 37-41 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นบ่อน้ำแร่หลักที่นำน้ำแร่มาจากเมืองคุซัตสึ (Kusatsu) ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 ของแหล่งน้ำแร่ออนเซ็นที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น มีสรรพคุณที่ช่วยในการบำบัดรักษาโรคหลากชนิด ช่วยในเรื่องอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งกระจ่างใสอีกด้วย

 

  1. นอกจากนี้ ยังมีบ่อตามฤดูกาล (Seasonal Bath) ที่จะสลับสับเปลี่ยนเอาน้ำแร่จากเมืองต่างๆในญี่ปุ่นมาให้ทุกท่านได้ลองแช่กันอีกด้วย

 

  1. บ่อโซดา (Soda Bath)

 

  1. บ่อน้ำเย็น (Cold Bath) อุณหภูมิอยู่ที่ 15-18 องศาเซลเซียส

 

  1. บ่อเจ็ท (Vitality Pool) ที่มีสรรพคุณช่วยการกระตุ้น ให้เลือดไหลเวียนดีขึ้นและยังช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ

 

สำหรับราคา Onsen Day Pass ของทาง Panpuri นั้นโดยปกติจะอยู่ที่ 750 บาท ส่วนใครที่ต้องการบ่อส่วนตัวละก็ค่าบริการจะอยู่ที่ 1,800 บาท ต่อห้อง ต่อ 30 นาที 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ