Lifestyle

"ออกกำลังกายในน้ำ" ใช้เวลาน้อยกว่าแต่เผาผลาญมากกว่า คลิ๊กเพื่อดูวิธี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"การออกกำลังกายในน้ำ" กลายเป็นกระแสนิยม และ ถูกนำมาประยุกต์เข้ากับการออกกำลังกายรูปแบบต่าง ๆ อย่างการจ๊อกกิ้งในน้ำ แอโรบิกในน้ำ การเต้นในน้ำ

"การออกกำลังกายในน้ำ" หรือ "Aqua Fitness" ปกติจะรู้จักกันเฉพาะในวงการแพทย์ ใช้สำหรับฟื้นฟูสมรรถภาพนักกีฬาหลังอาการบาดเจ็บ แต่ช่วงหลัง ๆ ด้วยความที่ผู้คนส่วนใหญ่นิยมในการออกกำลังกายเพิ่มขึ้น จึงมีการค้นพบว่า การออกกำลังกายในน้ำ เป็นการออกกำลังกายเพื่อส่งเสริมสุขภาพได้อย่างแท้จริง จนกลายเป็นกระแสนิยม และถูกนำมาประยุกต์เข้ากับการออกกำลังกายรูปแบบต่าง ๆ เช่น จ๊อกกิ้งในน้ำ แอโรบิกในน้ำ การเต้นในน้ำ รวมถึงการใช้เครื่องออกกำลังกายในน้ำ


3 ข้อดีของการออกกำลังกายในน้ำ

1.ช่วยลดการบาดเจ็บ

การออกกำลังกายในน้ำนั้นทำให้น้ำหนักตัวของเราได้รับการช่วยพยุงจากน้ำ ซึ่งช่วยลดโอกาสในการบาดเจ็บจากการออกกำลังกายลงเพราะจะช่วยให้กระดูกและข้อต่อของเราไม่ต้องแบกรับน้ำหนักที่มากเกินไป มีแรงกระแทกต่ำ แต่สามารถช่วยให้เลือดสูบฉีดและไหลเวียนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ดี

 

2.ลดระยะเวลาฟื้นตัวจากปัญหาข้อต่อ

คุณหมอมักแนะนำการออกกำลังกายในน้ำให้กับคนที่ข้อต่อบาดเจ็บ อักเสบ หรือได้รับการผ่าตัดมา เพื่อให้มีการฟื้นตัวที่เร็วขึ้น 
 

 

3. เผาผลาญได้ดียิ่งขึ้น

เมื่อเราออกกำลังกายในน้ำจะทำให้แคลอรี่ถูกเผาผลาญมากขึ้นในขณะที่เราใช้เวลาการออกกำลังกายสั้นลง 

 

2 ท่าออกกำลังกายในน้ำง่าย ๆ ที่สามารถเอาไปลองได้

1.การเดินหรือวิ่งจ๊อกกิ้งในน้ำ

"ออกกำลังกายในน้ำ" ใช้เวลาน้อยกว่าแต่เผาผลาญมากกว่า คลิ๊กเพื่อดูวิธี

เปลี่ยนจากการเดินหรือวิ่งบนถนนมาเป็นในน้ำแบบง่าย ๆ เพียงแค่ลองเดินหรือวิ่งจ๊อกกิ้งจากขอบสระด้านหนึ่ง (ที่พื้นสระเสมอกัน) โดยอาจลองเดินแบบตรง ๆ หรือลองเดินแบบสลับซิกแซกไปมาก็ได้ ทุกๆ 3 นาทีสลับกัน

 

2. การแพลงค์ในน้ำ

"ออกกำลังกายในน้ำ" ใช้เวลาน้อยกว่าแต่เผาผลาญมากกว่า คลิ๊กเพื่อดูวิธี

ให้ใช้โฟมว่ายน้ำ 1 อันมาจับไว้ด้านหน้า จากนั้นค่อย ๆ กดโฟมว่ายน้ำลงไป แล้วโน้มตัวลงไปข้างหน้า โดยที่ขาทั้งสองข้างค่อยๆยืดไปด้านหลัง เหมือนกับเรากำลังทำให้ตัวของเราทำมุม 45  องศากับพื้นสระว่ายน้ำ โดยให้ถ่ายน้ำหนักทั้งหมดมาที่โฟมว่ายน้ำ ค้างไว้ประมาณ 10-30 วินาที

 

3. ยกขาใต้น้ำ

"ออกกำลังกายในน้ำ" ใช้เวลาน้อยกว่าแต่เผาผลาญมากกว่า คลิ๊กเพื่อดูวิธี

การยกขาใต้น้ำเป็นการออกกำลังกายโดยอาศัยแรงต้านของน้ำเป็นตัวช่วย ทำแล้วเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาผู้สูงอายุได้ทุกส่วน โดยเฉพาะกล้ามเนื้อขาส่วนบน ทั้งยังช่วยให้สะโพกยืดหยุ่นได้ดีขึ้นด้วย โดยผู้สูงอายุสามารถออกกำลังกายด้วยท่ายกขาใต้น้ำได้ 

 

อ่านมาถึงตรงนี้จะทำให้พอนึกออกว่าการ "ออกกำลังกายในน้ำ" ไม่ได้มีแต่การว่ายน้ำและไม่ได้ยากอย่างที่คิด แต่ก่อนออกกำลังกายควรมีการวอร์มร่างกายกันก่อน รวมถึงใครที่ว่ายน้ำไม่เป็นจะต้องใช้ความระมัดระวัง หรือมีเพื่อนที่ว่ายน้ำเป็นมาเป็นบัดดี้ร่วมออกกำลังกายด้วย หรือหากใครมีปัญหาเรื่องสุขภาพหรือข้อต่อ อย่าลืมที่จะปรึกษาแพทย์ก่อนมาออกกำลังกาย

logoline