Lifestyle

รู้เรื่อง "วัคซีน" ก่อนไปต่างประเทศ ฉีดยี่ห้อไหนไปประเทศอะไรได้บ้าง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หลักเกณฑ์ในการคัดกรองผู้เดินทางเข้า-ออก ของประเทศนั้นๆ มีเงื่อนไขแตกต่างกันอย่างไร ทั้งระยะเวลาหลังจากฉีด และชนิดของ"วัคซีน" โดยชนิดของ "วัคซีน" ที่ฉีดแล้วเดินทางได้สะดวก เดินทางได้ทุกประเทศ คือ mRNA vaccine

หากเป็นช่วงสถานการณ์ปกติ ช่วงปลายปีที่อากาศดีๆ และเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวแบบนี้ หลายคนคงจองตั๋วเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศกันคึกคักแล้ว แต่เมื่อสถานการณ์โควิด-19 ยังไม่ห่างหายไปจากโลกใบนี้ การเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศจึงเป็นไปได้ยากขึ้น เพราะแต่ละประเทศมีข้อจำกัดหลายอย่าง โดยเฉพาะในเรื่องของ “วัคซีน” ซึ่งวันนี้จะพาไปดูกันว่า หลักเกณฑ์ในการคัดกรองผู้เดินทางเข้า-ออก ของประเทศนั้นๆ มีเงื่อนไขแตกต่างกันอย่างไร ทั้งระยะเวลาหลังจากฉีด และชนิดของ"วัคซีน" โดยชนิดของ "วัคซีน" ที่ฉีดแล้วเดินทางได้สะดวก เดินทางได้ทุกประเทศ คือ mRNA vaccine แล้วถ้าฉีด "วัคซีน" ชนิดอื่นไปแล้ว ต้องทำอย่างไร?

 

1.ปัจจุบัน องค์กรอนามัยโลก (WHO) ให้การรับรอง "วัคซีนโควิด" ทั้งหมด 7 ยี่ห้อ ได้แก่

  1. Moderna
  2. Pfizer/BioNTech
  3. Janssen (Johnson & Johnson)
  4. Oxford/AstraZeneca
  5. Covishield (Serum Institute of India, Oxford/AstraZeneca formulation)
  6. Sinopharm (Beijing)
  7. Sinovac

ซึ่งการจะเดินทางไปในแต่ละประเทศนั้น จะต้องตรวจสอบว่าประเทศที่เราจะเดินทางไปใช้เกณฑ์อะไรในการคัดกรองคนเข้า-ออก ของประเทศ "วัคซีนโควิด" มีกี่ชนิด?

 

2. จำนวนโดส

 

ฉีด "วัคซีนโควิด" ครบโดส โดยนับจำนวนโดสของวัคซีนชุดแรก (Primary Series) ให้ครบ โดยไม่มีข้อกำหนดในเรื่องของระยะห่างระหว่างเข็ม แม้จะเว้นระยะห่างนานหลายเดือน หรือหลายปีก็ตาม ที่สำคัญคือต้องมีหลักฐานการรับรองถึงชนิดและจำนวนของวัคซีนโควิดที่แต่ละประเทศรับรอง

 

ในบางประเทศอาจมีการระบุระยะห่างของการรับวัคซีน ระหว่างเข็มที่ 1 และ เข็มที่ 2 เช่น ประเทศ ออสเตรเลีย ที่จะต้องได้รับวัคซีนโดยเว้นระยะห่างเข็มที่ 1 และ เข็มที่ 2 (Minimum interval) อย่างน้อย 14 วัน หรือ ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่จะต้องรับวัคซีนโดยเว้นระยะห่างอย่างน้อย 17 วัน

 

(โดยปกติระยะห่างของการรับ "วัคซีนโควิด" เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 ของวัคซีนแต่ละยี่ห้อ: วัคซีน Pfizer 21 วัน, วัคซีน Moderna 28 วัน, วัคซีน AstraZeneca 28 วัน)

 

3. ระยะเวลาหลังฉีด

 

เมื่อได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว บางประเทศอาจมีเงื่อนไขหรือข้อกำหนัดเกี่ยวกับระยะเวลาหลังจากฉีดวัคซีน ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะต้องได้รับวัคซีนครบอย่างน้อย 14 วัน มาแล้วจึงจะเดินทางเข้า-ออกประเทศได้

 

*อย่างไรก็ตาม อาจมีเงื่อนไขหรือข้อกำหนดอื่นๆ ที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศ เช่น

 

ประเทศฝรั่งเศส

  • วัคซีนที่ต้องฉีด 2 เข็ม (เช่น วัคซีน  Pfizer, Moderna) นับ 7 วัน หลังจากได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 
  • วัคซีนที่ฉีด 1 เข็ม (เช่น  Janssen /J&J ) นับ 7 วัน หลังจากนั้นต้องฉีดวัคซีนชนิด mRNA 1 เข็ม ในผู้ที่เคยได้รับวัคซีน Sinovac หรือ Sinopharm 2 เข็ม มาก่อน
  • กรณีที่ได้วัคซีนชนิดเชื้อตาย (Inactivated vaccine), Sputnik V หรืออื่นๆ แต่ไม่ครบตามโดส จะต้องมาเริ่มฉีดวัคซีนชนิด mRNA ใหม่ให้ครบ 2 เข็ม 7 วันไปแล้ว จึงจะถือว่า ได้รับวัคซีนครบโดส (Fully vaccinated status)
  • สำหรับผู้ที่เคยติดโควิด-19 แล้ว ฉีดวัคซีนโควิดใดๆ ก็ตามครบ 7 วัน ถือว่าได้รับวัคซีนครบโดส

 

ฉีดวัคซีนสูตรไขว้ เดินทางอย่างไร?

 

สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนสูตรไขว้ ควรเช็กข้อมูลกับสถานทูตของประเทศปลายทางก่อน เนื่องจากปัจจุบัน แต่ละประเทศมีการใช้สูตรวัคซีนที่ไม่เหมือนกัน

 

เอกสารจำเป็นเดินทางช่วงโควิด

 

  • ใบรับรองแพทย์ว่ามีสุขภาพพร้อมเดินทาง (Fit to Fly Health Certificate/Fit to Travel Health Certificate)
  • หนังสือเดินทาง (Passport)
  • ใบรังรองผลการตรวจโควิด (Medical certificate with a laboratory result indicating that COVID -19 is not detected)
  • วีซ่า (Visas)
  • เอกสารยืนยันตัวตน เช่น บัตรประจำตัวประชาชน ใบอนุญาตขับขี่ เป็นต้น
  • บริการตรวจหาเชื้อ COVID-19 สำหรับผู้เดินทางไปต่างประเทศ (FIT-TO-FLY)

 

หากต้องเดินทางไปต่างประเทศต้องทำอย่างไร?

 

ควรศึกษาข้อมูลของแต่ละประเทศว่า มีการรองรับวัคซีนชนิดใด ยี่ห้อใดบ้าง มีหลักเกณฑ์ กฎข้อบังคับ เงื่อนไขอะไรบ้าง มาตรการการกักตัวของประเทศปลายทาง เอกสารที่จำเป็นต่อการเข้าประเทศ โดยควรอัพเดทข้อมูลข่าวสารอยู่ตลอดเวลา เพราะข้อมูล ณ ปัจจุบัน กับในระยะเวลาข้างหน้าอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอด ดังนั้น ควรเตรียมพร้อมและเช็กข้อมูลข่าวสารก่อนเดินทาง

 

ข้อมูล : โรงพยาบาลศิครินทร์

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ