ไลฟ์สไตล์

รุกขายแฟรนไชส์"ลูกชิ้นปิ้ง"
ต่อยอดธุรกิจก๋วยเตี๋ยวเนื้อ

รุกขายแฟรนไชส์"ลูกชิ้นปิ้ง" ต่อยอดธุรกิจก๋วยเตี๋ยวเนื้อ

24 ก.พ. 2553

"ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ" ในเมืองเชียงใหม่นั้นมีให้เลือกหลายร้าน ซึ่งร้าน "ก๋วยเตี๋ยวเนื้อสามย่าน" ย่านสันติธรรม อ.เมือง เป็นอีกหนึ่งแห่งที่มีชื่อเสียงเป็นที่ชื่นชอบของคนเมืองไม่แพ้กัน แต่ละวันมีลูกค้าแวะเวียนมาอุดหนุนกันแน่นร้าน ด้วยน้ำซุปรสชาติเด็ด หอมเครื่องเท

  "สุกันยา ยาเดชะ" เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อแห่งนี้ เล่าให้ฟังว่า เดิมเป็นคนเชียงราย แต่เมื่อปี 2538 ได้มาตั้งรกรากที่ จ.เชียงใหม่ และเปิดร้านอาหารตามสั่ง กระทั่งปี 2545 จึงมีแนวคิดเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวที่บริเวณห้องเช่าย่านสันติธรรม ติดกับเชียงใหม่แปซิฟิคแมนชั่น บริเวณถนนหัสดิเสวี ต.ช้างเผือก ขณะนั้นเช่าห้อง 2 ห้อง เปิดเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยวปลาและก๋วยเตี๋ยวเนื้อ

 เมื่อขายมาได้ระยะหนึ่งพบว่าก๋วยเตี๋ยวเนื้อลูกค้ามากกว่าต้องต่อคิว โดยเฉพาะมื้อเที่ยง ทำให้บริการลูกค้าไม่ทัน ลูกจ้างที่มีก็ไม่พอ จึงตัดสินใจปิดร้านก๋วยเตี๋ยวปลาและทุ่มเทแรงกายแรงใจและลูกจ้างทั้งหมดที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อโดยลดพื้นที่เช่าเหลือห้องเดียว ร้านเปิด 08.00-17.00 น. ซึ่งก็ขายดีมากทุกวัน  เสน่ห์ที่ทำให้ลูกค้าติดใจนั้นหนีไม่พ้นน้ำซุปที่รสชาติเข้มข้น สูตรต้นตำรับจากสามย่านแท้จริง ซึ่งเป็นมรดกตกทอดมาตั้งแต่รุ่นพ่อ

 "สมัยนั้นเพื่อนพ่อเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้ออยู่สามย่าน ซึ่งก็มีลูกค้าเป็นจำนวนมาก จึงแบ่งสูตรให้เพื่อนนำไปเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวแต่ก็ไม่ได้นำมาใช้เก็บไว้เรื่อยมา กระทั่งวันหนึ่งมีแนวคิดอยากเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวเนื้อ พ่อจึงมอบสูตรน้ำซุปให้ ซึ่งก็มีการดัดแปลงสูตรบ้างตามความเหมาะสม แต่ที่เน้นมากคือน้ำซุปของที่นี่ต้องข้น หอมของเครื่องเทศที่ใส่ 8 ชนิด  เช่น อบเชย ลูกจันทน์ ยี่หร่า ฯลฯ" สุกันยา เล่า

 สุกันยา บอกอีกว่า แม้ก๋วยเตี๋ยวจะขายดีมีลูกค้าอุดหนุนแน่น โดยแต่ละวันขายได้ไม่ต่ำกว่า 200 ชาม ราคาชามละ 30 บาท พิเศษ 40 บาท แต่อยากหาอาหารกินเล่นเพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้า จึงปิ๊งไอเดียปิ้งลูกชิ้นขาย ทั้งลูกชิ้นเอ็นเนื้อ ลูกชิ้นเนื้อ ลูกชิ้นหมู เมื่อกินกับน้ำจิ้มรสชาติเปรี้ยวหวานกลมกล่อม บวกกับราคาไม่แพงเพียงไม้ละ 10 บาท จึงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี แต่ละวันขายลูกชิ้นปิ้ง 7-8 กิโลกรัม

 "เดิมทีปีนี้จะมีการขายแฟรนไชส์ลูกชิ้นปิ้ง โดยใช้ชื่อ "ลูกชิ้นปิ้งสามย่าน" ในราคา 1.5  หมื่นบาท โดยมีอุปกรณ์ให้ ทั้งตู้ขายลูกชิ้น เตาแก๊ส ถังแก๊ส แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องมารับลูกชิ้นและน้ำจิ้มที่ร้านทุกวัน เพื่อควบคุมคุณภาพไม่ให้ผิดเพี้ยนไปจากต้นตำรับ แต่จากสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซา ทำให้ผู้ที่สนใจจะลงทุนทำธุรกิจไตร่ตรองมากขึ้น จึงจำเป็นต้องชะลอโครงการไปก่อน แต่หากมีคนสนใจติดต่อมาเราก็พร้อมจะขายให้"

 ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีแผนที่จะขยายสาขาร้านก๋วยเตี๋ยวอีก 1 แห่ง เหตุเพราะร้านปัจจุบันคับแคบ ช่วงอาหารกลางวันจึงทำให้การจราจรภายในร้านหนาแน่น ซึ่งขณะนี้กำลังหาทำเลที่เหมาะสม แต่ร้านเดิมก็ยังคงไว้ เป็นการเอาใจลูกค้าขาประจำเป็นแฟนอย่างเหนียวแน่นอีกด้วย

"วรัทยา ไชยลังกา"