เปิดตัวแล้ว "รถโดยสารไร้คนขับ" ไร้พวงมาลัย ที่ใช้เทคโนโลยีดาวเทียมในการขับเคลื่อนแทนที่เทคโนโลยีวายฟายแบบรุ่นก่อน ๆ เปิดทดลองใช้ฟรีให้กับคนในเมืองอ็อกซ์ฟอร์ดเชียร์
(29 พฤศจิกายน) ไม่กี่วันมานี้ นายจอร์จ ฟรีแมน รัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์ประเทศอังกฤษประกาศเปิดตัว "รถโดยสารไร้คนขับ" ให้สามารถวิ่งได้ในอังกฤษแล้ว ในช่วงการทดลองระบบนี้จะยังไม่มีการเก็บค่าโดยสารใด ๆ แต่ผู้ที่จะใช้บริการรถคันนี้ได้จะเป็นเฉพาะผู้ถือบัตรผ่านของวิทยาเขตวิจัยของเมืองอ็อกซ์ฟอร์ดเชียร์และแขกของผู้ถือบัตรเท่านั้น
ทดลองขับที่ไหน
รถยนต์ไร้คนขับนี้ถูกนำมาทดลองใช้ในประเทศอังกฤษโดย บริษัทนวัตกรรมดาร์วิน ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดย องค์การอวกาศแห่งยุโรป และ องค์การอวกาศแห่งสหราชอาณาจักร จะทดลองให้บริการในวิทยาเขตวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมฮาร์เวลล์ เมืองอ็อกซ์ฟอร์ดเชียร์ ซึ่งเป็นแหล่งที่ตั้งของบริษัทวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมที่สำคัญของประเทศอังกฤษ แต่นอกจากที่ประเทศอังกฤษ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ได้เปิดใช้งานรถโดยสารไร้คนขับในเมืองใหญ่แล้วเช่นกัน
จุดเด่น
"รถโดยสารไร้คนขับ" คันนี้ขับเคลื่อนโดยใช้พลังงานแบตเตอรี่ ซึ่งทำให้เราได้เห็นภาพอนาคตชัดขึ้นว่า อีกหน่อยรถที่เราจะได้นั่งกันนอกจากจะไม่มีคนขับแล้ว ยังเป็นรถที่ไม่ปล่อยมลภาวะที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมของเราอีกด้วย และเมื่อใดที่รถคันนี้ถูกนำมาใช้ได้ในวงกว้างก็จะยิ่งทำให้เราขยับสู่การบรรลุเป้าหมายการลดละเลิกปล่อยมลพิษได้เร็วขึ้นเท่านั้น
ระบบเทคโนโลยี
"รถโดยสารไร้คนขับ" คันนี้ถูกสร้างขึ้นโดยบริษัท Navya บริษัทฝรั่งเศสผู้เชี่ยวชาญในการออกแบบยานพาหนะไฟฟ้า รถคันนี้ไม่มีพวงมาลัย และใช้เทคโนโลยี LiDAR หรือ เทคโนโลยีที่ใช้แสงเพื่อตรวจจับและคาดคะเนระยะทางของวัตถุ ม่ว่าจะเป็นเซนเซอร์ LiDAR, กล้อง LiDAR, และระบบอัลตราซาวนด์ LiDAR, เพื่อนำทางรถไปได้อย่างปลอดภัยจากสิ่งกีดขวางต่าง ๆ รวมถึงมีเสาอากาศรับสัญญาณดาวเทียม (GNSS) สำหรับกำหนดตำแหน่ง แลพยังมีผู้คุมระบบคล้ายระบบการควบคุมเครื่องบินตลอดช่วงการทดลองใช้รถคันนี้
ส่วนข้อมูลเส้นทางการเดินรถการใช้การสื่อสารผ่านดาวเทียมในการทดลองนี้มีความสำคัญ ถือเป็นความก้าวหน้าของยานยนต์ไร้คนขับ เพราะการทดลองที่ผ่านมาจะเป็นการใช้สัญญาณวายฟาย (Wi-Fi) เพื่อเชื่อมต่อสัญญาณเส้นทางเดินรถ ทำให้การใช้ดาวเทียมจะทำให้รถไร้คนขับสามารถนำทางได้แม้ในพื้นที่ชนบทหรือพื้นที่ห่างไกล
www.gov.uk/government/news
wblog.wiki/th/Harwell_Science_and_Innovation_Campus
ข่าวที่เกี่ยวข้อง