OTP หรือ One Time Password ครั้งหนึ่งเคยได้รับการยอมรับว่าเป็นระบบรักษาความปลอดภัยที่สุดทางหนึ่งในการทำธุรกรรมออนไลน์
จากกรณีเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ครูสาวที่ใช้เฟสบุ๊กชื่อว่า Teachernaii KM โพสต์ลงเฟสบุ๊กส่วนตัวถึงเหตุการณ์ที่อยู่ ๆ มีรหัส OTP เด้งขึ้นมาที่โทรศัพท์มือถือของเธอขณะกำลังเล่นเกม ทำให้เธอถูกหักเงินจนเกือบเกลี้ยงบัญชี แต่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ในเมื่อรหัส OTP คือ รหัสที่เจ้าของบัญชีจะได้รับแต่เพียงผู้เดียว และหากเจ้าของบัญชีไม่ได้หรอกรหัสดังกล่าว จะเป็นไปไม่ได้เลยที่เงินจะถูกตัดออกจากระบบ
รหัส OTP คืออะไร?
OTP หรือ One Time Password คือรหัสผ่านใช้ครั้งเดียวที่ระบบธนาคารต่าง ๆ สร้างขึ้นเพื่อความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางอินเทอร์เน็ต โดยเป็นตัวเลข 6 หลักที่ระบบจะส่งไปยัง SMS โทรศัพท์มือถือเจ้าของบัญชี เพื่อใช้ตรวจสอบและยืนยันการเป็นเจ้าของบัญชีก่อน ทำการซื้อของออนไลน์ หรือก่อนเข้าถึงและเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนตัว
ซึ่งรหัสผ่านชุดนี้จะการกำหนดระยะเวลา สำหรับการใช้งานครั้งนั้น ๆ หากเลยเวลาดังกล่าวจะไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้อีก ทั้งนี้ OTP เป็นส่วนหนึ่งของระบบที่ช่วยลดความเสี่ยงในการทำธุรกรรมทางอินเทอร์เน็ตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แล้วครูสาวโดนหักเงินได้อย่างไร?
การหักเงินนี้เริ่มต้นจากที่มีรหัส OTP เด้งเข้าโทรศัพท์ของครูสาวเพื่อแจ้งเตือน จากนั้นรายงานการเดินบัญชี (statement) จึงตามมาว่าถูกหักทั้งหมด 5 ยอดแต่ละยอดไปสู่ปลายทางที่ต่างกัน ทั้งที่ครูสาวไม่ได้กรอกรหัส OTP แต่อย่างใด
ทางทีมคมชัดลึกออนไลน์ได้สอบทางธนาคารที่เกี่ยวข้อง จึงรับคำตอบว่า ที่จริงหากเจ้าของบัญชีได้รับรหัส OTP แต่เจ้าตัวไม่ได้นำรหัสนั้นไปยืนยันทำธุรกรรม เงินก็จะไม่สามารถถูกหักออกไปได้เพราะจะมีเจ้าของบัญชีแต่เพียงผู้เดียวที่จะได้รับรหัสนั้น ๆ จากเหตุการณ์นี้จึงทำให้เราเห็นได้ว่ามิจฉาชีพออนไลน์ยังคงหากลวิธีใหม่ ๆ ในการยักยอกเงินอย่างต่อเนื่อง วันนี้ระบบการรักษาความปลอดภัยทางการเงินออนไลน์จึงอาจต้องได้รับการออกแบบจากผู้พัฒนาระบบใหม่ว่าจะทำอย่างไรไม่ให้เหล่ามิจฉาชีพเข้าถึงบัญชีของประชาชนได้อีก
จากความเคลื่อนไหวล่าสุด เมื่อครูสาวติดต่อไปที่ธนาคารที่เกี่ยวข้องก็ได้คำตอบให้พอสบายใจแล้วว่าจะได้รับเงินคืน แต่ทางธนาคารยังไม่สามารถตอบได้ว่าเมื่อใดเพราะยังต้องทำการตรวจสอบเส้นทางการเดินบัญชี แต่ทางธนาคารให้คำมั่นว่าจะช่วยดูแลครูสาวอย่างเต็มที่
ที่มาข้อมูลและรูปภาพ :
Teachernaii KM
สำนักดิจิทัลเทคโนโลยี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง