"ฉีดฟิลเลอร์" เสริมเสน่ห์ริมฝีปากได้จริงไหม ไปดูกัน
การ "ฉีดฟิลเลอร์ปาก" เป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรง เพราะหลายคนเชื่อว่าช่วยเสริมเรื่องความั่นใจ ภาพลักษณ์ ด้านความเชื่อริมฝีปากอวบอิ่มจะเพิ่ม เสริมเรื่องทรัพย์ในกระเป๋า เสน่ห์ได้นั่นเอง
เรื่องราวความสวยงามนั่นอยู่คู่กับผู้หญิงเสมอ ดังเช่นสุภาษิต คำพังเพยที่มีอยู่ว่า "ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง" ซึ่งคุณแม่สุดสตรอง "แพท" ณปภา ตันตระกูล ก็เช่นเดียวกัน เมื่อวันก่อนเจ้าตัวก้าวเข้าคลีนิกพึ่งพาคุณหมอเสริมความงามที่ริมฝีปาก ซึ่งเป็นเทรนด์ของคนดังที่กำลังมาแรง เพราะช่วยเสริมเรื่องความั่นใจ ภาพลักษณ์ ด้านความเชื่อริมฝีปากอวบอิ่มจะเพิ่ม เสริมเรื่องทรัพย์ในกระเป๋า เสน่ห์ได้นั่นเอง ซึ่งวันนี้ คมชัดลึกออนไลน์ จะพาไปเรียนรู้เรื่อง “การฉีดฟิลเลอร์ปาก” กับ พญ.ฐานิสร ธรรมลิขิตกุล แพทย์ผู้อำนวยการ รมย์รวินท์คลินิก แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวหนัง
ทำไมคนถึงนิยมฉีดฟิลเลอร์ปาก
- การฉีดสารเติมเต็มที่เรียกกันว่า “ฟิลเลอร์” ช่วยปรับแต่งปากให้มีรูปทรงอย่างที่สาวๆ ต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็นปากรูปกระจับ หรือปากเต็ม อวบอิ่มเซ็กซี่แบบสาย ฝ. ก็สามารถปรับรูปปากด้วยฟิลเลอร์ได้ โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่เจ็บตัวมาก ไม่ต้องพักฟื้น จึงเป็นที่นิยม
- สำหรับผู้ที่มีอายุมากขึ้น คอลลาเจนและสารไฮยาลูโรนิค เอซิด ซึ่งมีอยู่ในผิวธรรมชาติจะลดน้อยลง ส่งผลให้ปากบางลง ปากมีริ้วรอย ไม่อวบอิ่ม เต่งตึง เหมือนตอนอายุยังน้อย การฉีดปากจะช่วยให้ปากดูเต็มอิ่มเอิบ ลดริ้วรอย ดูชุ่มชื้นขึ้น และยังฉีดเพื่อยกมุมปากขึ้นได้ด้วย ช่วยให้หน้าแลดูอ่อนเยาว์ขึ้น
- ปัญหาปากบางเกินไป หลังจากไปทำศัลยกรรมปากกระจับมา คนไข้กลุ่มนี้มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ปากให้หนาขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์แล้ว ริมฝีปากจะเข้ารูปหน้าไหม
ก่อนฉีดฟิลเลอร์แพทย์ผู้ฉีดจะวิเคราะห์โครงหน้า และดีไซน์รูปทรงปากให้มีความเหมาะสมกับใบหน้า โดยปากบนจะบางกว่าปากล่างเล็กน้อย ถ้าคนไข้ต้องการให้หน้าดูหวาน แพทย์จะฉีดปากเป็นรูปกระจับ โดยปรับรูปปากให้ละมุนเข้ากับโครงหน้าของคนเอเชียมากขึ้น แต่หากต้องการความเช็กซี่แบบสาย ฝ. แพทย์จะฉีดให้เนื้อปากดูเต็มหนา โดยเลือกความหนาพอประมาณ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูเซ็กซี่แบบเป็นธรรมชาติ ไม่ดูเป็นปากเป็ด (Duck Lips) ทั้งนี้ จึงควรเลือกแพทย์ที่มีเทคนิคที่ดี และมีความชำนาญ เพราะการฉีดปากให้สวยรับกับรูปหน้า ต้องอาศัยทั้งศาสตร์และศิลป์ของแพทย์ผู้ฉีด
ข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก
- ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ฟิลเลอร์ของแท้ที่มี อย. และเป็นชนิดไม่ถาวร สารฟิลเลอร์จะค่อยๆ ย่อยสลายหมดไปเองตามธรรมชาติ จึงไม่ต้องกังวลเรื่องสารตกค้าง ผลข้างเคียง หรือการไหล - การเคลื่อนที่ของฟิลเลอร์ แต่หากไม่ชอบ ก็สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้
- เทคนิคและความชำนาญของแพทย์มีส่วนสำคัญ เพราะการจับทรงปากให้มีขนาดเท่ากัน ซ้าย - ขวา ขึ้นอยู่กับเทคนิคและฝีมือแพทย์ นอกจากนี้ ถ้าแพทย์เลือกใช้ชนิดของฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้ริมฝีปากเป็นก้อนแข็งได้
- ควรฉีดทีละน้อย และใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่พอดี การฉีดเยอะเกินไป จะทำให้ปากเจ่อ คล้ายปากเป็ด หรือทำให้ปากผิดรูป มีผลต่อการขยับปากเวลาพูดได้ ทำให้ดูไม่ธรรมชาติ
ฟิลเลอร์เหมาะกับการฉีดที่ปากไหม / อันตรายหรือไม่
- ฟิลเลอร์ที่แพทย์ผิวหนังนิยมใช้ฉีดปาก คือ กลุ่มไฮยาลูโรนิค เอซิด มีความปลอดภัย เพราะเป็นสารสังเคราะห์เลียนแบบสารธรรมชาติที่มีอยู่ในผิวของคนเราอยู่แล้ว สามารถใช้ฉีดเพื่อปรับรูปปากได้
- คุณสมบัติของสารไฮยาลูโรนิค เอซิด คือ มีความสามารถในการอุ้มน้ำสูง เมื่อฉีดบริเวณปาก สารนี้จะดูดซับน้ำมาไว้รอบๆ ตัว ทำให้ปากดูเต็มอิ่ม และริมฝีปากดูชุ่มชื้นขึ้น
- ปัจจุบันมีฟิลเลอร์ที่พัฒนาออกมา เพื่อใช้ฉีดริมฝีปากโดยเฉพาะ เป็นชนิดที่มีเนื้อนุ่ม ละเอียดเบา เมื่อฉีดแล้วจะดูอ่อนนุ่ม เป็นธรรมชาติ ไม่ทำให้ริมฝีปากแข็งเป็นก้อนหรือตะปุ่มตะป่ำ
ต้องฉีดฟิลเลอร์กี่ครั้ง และการดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์
- การฉีดฟิลเลอร์เพียงครั้งเดียว ก็สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงของรูปปากได้เลย
- หลังการฉีด 12 ชั่วโมง ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มร้อนๆ ตลอดจนแอลกอฮอล์ งดการเชาว์น่า อบไอน้ำ
- 2 - 3 วันแรก อาจมีอาการบวมบ้างภายใน 3 - 4 วัน เมื่อฟิลเลอร์เริ่มเซ็ตตัว ริมฝีปากจะเข้ารูปสวยงาม และผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 6 - 12 เดือน