Lifestyle

เผยเคล็ดลับปล่อยวางสำหรับคนเครียดสะสม "ปล่อยวางไม่ได้"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หลายคนเมื่อเจอกับความล้มเหลว และ ความผิดพลาดต่าง ๆ แล้วไม่ สามารถทำใจยอมรับความผิดพลาดได้นำไปสู่การคิดสั้นฆ่าตัวตายไปเลยก็มี ยิ่งในประเทศที่มีการแข่งขันสูงกว่าไทยอย่างเกาหลีใต้ และ ญี่ปุ่น ก็ยิ่งมีอัตราการฆ่าตัวตายที่สูงตามไปด้วย

ถ้าหากเราอยากเพิ่มความสุขให้กับชีวิต มอบมุมมองใหม่ ๆ ให้กับตัวเองนอกจากการแข่งขัน สิ่งสำคัญคือการรู้เท่าทันสิ่งที่เกิดขึ้นกับความรู้สึกตัวเอง เมื่อรู้แล้วจึงฝึกทำใจวางเฉยกับเรื่องต่าง ๆ รอบตัวซึ่งก็คือการปล่อยวางนั่นเอง

"ปล่อยวาง" เป็นคำที่ได้บินบ่อย ใคร ๆ ก็พูดกัน แต่ในการจะปล่อยวางให้ได้จริง ๆ จะต้องใช้ความพยายาม ความอดทน การฝึกฝน จนวันหนึ่งเราสามารถปล่อยวางกับสิ่งที่รบกวนจิตใจเราได้จริง ๆ บทความนี้เลยนำ 5 เทคนิคฝึก "ปล่อยวาง" ที่ทำได้จริงสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ทันทีที่อ่านจบ


 


 

1.ให้อภัยอดีต

หลายคนมีอดีตที่น่าจดจำและเรื่องเหล่านั้นมักจะคอยตามหลอกหลอนอยู่เสมอ  ไม่ว่าจะดำเนินชีวิตไปทางไหนอดีตก็จะมาทักทายให้ได้เจ็บปวดอยู่เรื่อย ๆ จนดูเหมือนว่าไม่สามารถพบความสุขได้เลย

อดีต แท้จริงแล้วเป็นความทรงจำที่เกิดขึ้นมาจากใจของเราที่ไม่ยอมปล่อยวางจากเรื่องนั้น ๆ ทำให้ความคิดยังคงสร้างภาพอดีตที่แสนเจ็บปวดมาคอยทิ่มแทงตัวเองอยู่ตลอดเวลา ทั้งที่จริง ๆ มันผ่านไปนานแล้ว

 

เทคนิคการปล่อยวาง : การปล่อยวางอดีต คือ การให้อภัยคนที่ทำให้เราเจ็บปวด และ ตัวเราเองที่อาจทำพลาดไปเพราะความไม่รู้ในวันนั้น 

หากเรามองเห็นได้ว่าเหตุการณ์นั้นเป็นสิ่งที่ผ่านเลยไปแล้วไม่อาจหวน กลับมาแก้ไขได้ การให้อภัยคือการปลดปล่อยตัวเราจากความทุกข์ ที่เกาะกินใจอยู่ และนั่นจะทำให้เรามีโอกาสได้เริ่มต้นใหม่และทำให้เราสัมผัส กับความสุขในปัจจุบันได้อย่างเต็มเปี่ยมมากขึ้น

 

2. หยุดกังวลเรื่องอนาคต

หลายคนมีชีวิตที่ดี แต่ไม่อาจมีความสุขได้เต็มที่เพราะมีความกังวลกับอนาคตมาก เช่น ถ้ามีลูกก็กังวลกับอนาคตของลูกจนไม่อาจสงบจิตใจได้ หรือ บางคนกังวลว่าหน้าที่การงาน ของตัวเองยังไม่ดีพอกับที่คาดหวังจึงไม่อาจสงบจิตใจได้เช่นกัน

แต่ในความเป็นจริง เราเองไม่อาจรู้ว่าจะมีชีวิตต่อไปยาวนานแค่ไหน เราอาจจะตายเมื่อไหร่ก็ได้ การทำวันนี้ให้ดีที่สุดและกลับมามีความสุขอยู่กับปัจจุบันจึงเป็นสิ่งที่ดีกว่า

 

เทคนิคการปล่อยวาง : ฝึกการ "ตระหนักรู้" อยู่กับปัจจุบัน

หากต้องการปล่อยวางอนาคตให้นึงถึงความตายบ่อย ๆ และเมื่อเข้าใจว่าชีวิตของเราไม่แน่นอน เราจะสามารถอยู่กับปัจจุบันและมีความสุขกับสิ่งที่ทำอยู่ได้ดีขึ้นและรู้สึกเต็มเปี่ยมกับชีวิตมากขึ้น มากกว่าไปฝากความสุขไว้กับวันข้างหน้าที่ไม่อาจรู้ได้เลยว่าคือเมื่อใด

3. ฝึกบริจาคของในบ้าน

เพื่อความสะดวกสบายหลายคนจึงใช้ชีวิตเพื่อสะสมสิ่งของ ซื้อ เก็บ สะสมไว้ เป็นปริมาณมากจนบางครั้งก็มีเยอะเกินพอดี เยอะจนไม่รู้ว่าเก็บอะไรไว้ที่ไหนบ้าง

ในความเป็นจริงทุกอย่างสิ่งต่าง ๆ ที่สะสมคือของที่เราไม่สามารถเอาไปได้เมื่อตายไปแล้ว แต่เรากลับยึดติดวัตถุเหล่านั้นเป็นอย่างมาก และหลายคนแม้ป่วยหนักก็ยังหวงแหนสิ่งของจนไม่ยอมปล่อยวางทิ้งสิ่งต่าง ๆ ไป

 

เทคนิคการปล่อยวาง : หาเวลาประมาณสัปดาห์ละครั้ง จัดตู้เสื้อผ้า ห้องเก็บของ ลิ้นชักตู้ต่าง ๆ ดูว่ามีอะไรบ้างที่เราไม่เคยหยิบใช้เลยมากกว่า 1 ปี  จากนั้นให้ทยอย บริจาคสิ่งเหล่านั้นโดยไม่จำเป็นต้องเสียดาย เพราะที่ผ่านมาเราเองยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า มีของชิ้น นั้นอยู่ ถ้าหากเราบริจาค มันจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นมากกว่า ถ้าค่อย ๆ สละสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เรื่อย ๆ จนเราสามารถปล่อยวาง เรื่อง ใหญ่ต่าง ๆ ได้มากขึ้น

 

 

4.มองเห็นทุกสิ่งเป็นสิ่งชั่วคราว

สถานะต่าง ๆในสังคมไม่ว่าจะเป็น ตำแหน่งหน้าที่ ลูกน้อง หัวหน้า ทรัพย์สิน หรือ แม้กระทั่ง ความสัมพันธ์ ล้วนเป็นสิ่งที่สมมติขึ้นมาทั้งนั้น มันจึงเป็นเพียงแค่สิ่งชั่วคราวที่บอกอย่างนี้เพราะไม่มีใครที่จะรักษาตำแหน่งหรือบทบาทเหล่านี้ไปจนตายได้ 

เมื่อตายร่างกายเราจะกลับคืนสู่ธรรมชาติทั้งหมดเราจะไปยึดติดกับสิ่งที่คนอื่นสมมติให้ เราทำไม ดังนั้นปล่อยวางแล้วหันมาสร้างสิ่งดี ๆ ให้คนรุ่นหลังได้จดจำเราในแบบที่น่าจด จำจะดีกว่า

เทคนิคการปล่อยวาง : หากเรารู้สึกว่าใจไปยึดติดกับอะไร ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของ หน้าที่ ตำแหน่ง สถานะทางสังคม ให้ลองจินตนาการว่า อีกร้อยปีข้างหน้าสิ่งที่เรายึดถืออยู่นี้จะเป็นอย่างไร เราจะพบว่า เรามองเห็นจุดจบของสิ่งต่าง ๆ มองเห็นความเป็นสถานะชั่วคราวและไม่จีรังของสรรพสิ่ง ดังนั้นเรื่องราวที่เรายึดไว้วันนี้วันหนึ่งก็จะผ่านไป 

 

5. ปล่อยให้มันเป็นไป

ที่สุดของการปล่อยวาง คือ หยุดคาดการณ์ และ บังคับควบคุมอนาคต เพราะไม่มีใครที่จะสามารถรู้หรือจัดการกับอนาคตได้ 100%

สิ่งเดียวที่ทำได้ คือทำวันนี้ให้ดีที่สุดเพราะไม่มีวิธีใดที่จะทำให้อนาคตเราให้ดีได้ เท่ากับการทำวันนี้ให้เต็มที่ที่สุด หากเราลงมือทำอย่างเต็มที่แล้วไม่ว่าผลอย่างไรเราจะไม่เสียใจภายหลังเพราะเรารู้ว่าเราได้พยายามเต็มที่แล้ว

 

เทคนิคการปล่อยวาง : เราสามารถวางแผน และสร้างเป้าหมายได้ แต่ไม่ ต้องยึดติดว่าทุกสิ่งจะต้องดำเนินไปตามแผนที่วางไว้เสมอไป แผนมีเพื่อ เป็นแผนที่บอกทางแต่การออกเดินทางจะบอกถึงการใช้ชีวิตที่แท้จริง ฉะนั้นเมื่อวางแผนแล้วก็จงทำให้เต็มที่ แล้วปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปโดยไม่ต้องกังวลหรือคาดหวังผลลัพธ์ วิธีนี้จะทำให้เรามีความสุขในทุกย่างก้าวของชีวิตอย่างแน่นอน 

logoline