Lifestyle

"ลิ้นหัวใจรั่ว" รีบซ่อม...ก่อนสายเกินแก้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โรคลิ้นหัวใจรั่ว เมื่อเกิดกับใครแล้วจะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง รู้สึกเหนื่อยง่าย ไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพอย่างที่ควรจะเป็น

จากข่าวช็อควงการบันเทิงเมื่อหลายวันก่อน เมื่อพระเอกหนุ่ม "ฟิล์ม" รัฐภูมิ โตคงทรัพย์  ออกมาเปิดเผยว่า ตัวเองตรวจพบว่าเป็น "โรคลิ้นหัวใจรั่ว" ระยะที่ 4 ซึ่งเป็นระยะสุดท้าย และเป็นขั้นร้ายแรงที่สุด โดยตรวจพบมาตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และคาดว่าจะเข้ารับการผ่าตัดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2565 ซึ่งวันนี้ คมชัดลึกออนไลน์ จะพาไปรู้จักกับ "โรคลิ้นหัวใจรั่ว" กันค่ะ

สำหรับ "โรคลิ้นหัวใจรั่ว" เป็นโรคที่ไม่แสดงอาการในระยะเริ่มแรก แต่จะเริ่มแสดงอาการเมื่อเข้าสู่วัยรุ่นแต่มีอาการไม่รุนแรง เป็นสาเหตุหนึ่งที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้ตั้งแต่แรกเริ่ม โรคลิ้นหัวใจรั่วเมื่อเกิดกับใครแล้วจะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง หรือรบกวนชีวิตประจำวันของคนๆ นั้น เวลาทำอะไรก็จะรู้สึกเหนื่อยง่าย ไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพอย่างที่ควรจะเป็น

"โรคลิ้นหัวใจรั่ว" จะแสดงอาการรุนแรงเมื่ออายุประมาณ 40 – 50 ปี ขึ้นไป ทำให้ผู้ป่วยเหนื่อย และอ่อนเพลียมากขึ้นเกือบๆ จะทุกการเคลื่อนไหว ซึ่งบางรายก็อาจเสียชีวิตได้เนื่องจากการทำงานของหัวใจล้มเหลว “โรคลิ้นหัวใจรั่ว” มักมีสาเหตุจากความผิดปกติของเนื้อเยื่อลิ้นหัวใจมาแต่กำเนิด ส่งผลให้ลิ้นหัวใจเสื่อมไวกว่าคนทั่วไป โรคลิ้นหัวใจรั่วที่พบบ่อยในคนไทย คือ ลิ้นหัวใจที่กั้นระหว่างห้องบน และห้องล่างด้านซ้าย โรคลิ้นหัวใจรั่ว ที่เกิดจากความผิดปกติแต่กำเนิดมักไม่แสดงอาการในวัยเด็ก แต่จะเริ่มเหนื่อยง่าย ใจสั่น เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น มีผลให้ออกกำลังกายได้น้อย ทำงานได้น้อยลง หรือแม้กระทั่งบางคนเพียงเดินขึ้น เดินลงบันได 1-2 ชั้น ก็รู้สึกเหนื่อย นอนราบไม่ได้ หายใจไม่ออก เป็นต้น

\"ลิ้นหัวใจรั่ว\" รีบซ่อม...ก่อนสายเกินแก้

สาเหตุการเกิดลิ้นหัวใจรั่ว

มีความผิดปกติของลิ้นหัวใจที่เป็นมาแต่กำเนิด อาจไม่มีอาการใดๆ ในวัยเด็ก หรือ ตั้งแต่มารดาตั้งครรภ์ ลิ้นหัวใจเสื่อมตามอายุ เนื่องจากเป็นอวัยวะที่เคลื่อนไหว และรับแรงจากเลือดตลอดเวลา ดังนั้น จึงเกิดการเสื่อม ลิ้นหัวใจจะหนาตัวขึ้น และเริ่มมีหินปูน เข้าไปสะสมในเนื้อเยื่อทำให้ปิดไม่สนิท

ลักษณะอาการโรคลิ้นหัวใจรั่ว

อาการของโรคลิ้นหัวใจรั่วไม่รุนแรง แต่เป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป อาจยาวนานจนกระทั่ง 40 ปีผ่านไป จึงเริ่มแสดงอาการรุนแรง จากการที่ลิ้นหัวใจเสื่อมมากขึ้น จนทำให้ร่างกายเหนื่อย อ่อนเพลียง่ายกับทุกอิริยาบถของการเคลื่อนไหว บางรายที่เป็นมากอาจเสียชีวิต เนื่องจากการทำงานของหัวใจล้มเหลว

\"ลิ้นหัวใจรั่ว\" รีบซ่อม...ก่อนสายเกินแก้

การดูแลรักษาโรคลิ้นหัวใจรั่ว

สำหรับผู้ป่วยรายที่ลิ้นหัวใจรั่วมาก จนกระทั่งกล้ามเนื้อที่พยุงการปิด-เปิด ลิ้นหัวใจเกิดการหย่อนยาน ปูด หรือหนา แพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยว่าสมควรได้รับการผ่าตัดซ่อมแซมลิ้นหัวใจที่เกิดการชำรุด หรือไม่ ทั้งนี้ การผ่าตัดซ่อมแซมลิ้นหัวใจรั่ว ผลการรักษาในบางรายอาจดำรงชีวิตอย่างเป็นปกติ และบางรายอาจมีการซ่อมแซมซ้ำได้เช่นกัน โดยมากแพทย์จะผ่าตัดเฉพาะในรายที่ลิ้นหัวใจชำรุดมากเท่านั้น หากชำรุดเพียงเล็กน้อย หรือปานกลาง แพทย์มักจะแนะนำวิธีการปฏิบัติตัวและเฝ้าระวังติดตามอาการ เพราะการผ่าตัดซ่อมแซมลิ้นหัวใจมีค่าใช้จ่ายสูง และการผ่าตัดซ่อมแซมลิ้นหัวใจไม่สามารถรับประกันได้ทุกรายว่าจะหายเป็นปกติได้ตลอดชีวิตหลังการผ่าตัด บางรายอาจต้องมีการผ่าตัดซ่อมแซมซ้ำ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการตอบสนอง และการดูแลตัวเองของผู้ป่วยแต่ละราย นอกจากนี้ ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดซ่อมแซมบางราย หากเกิดภาวะเม็ดเลือดแดงแตกตัว หรือไตวาย ซึ่งพบได้น้อย แพทย์ก็จะแนะนำให้เปลี่ยนลิ้นหัวใจทันที การรักษาสำหรับผู้ป่วยลิ้นหัวใจเสื่อม หรือเสียมาก แพทย์จะแนะนำให้เปลี่ยนลิ้นหัวใจ ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบธรรมชาติที่ได้จากเนื้อเยื่อของหัวใจวัว หรือเนื้อเยื่อหัวใจหมู และลิ้นหัวใจเทียมจากสารสังเคราะห์ ทั้งนี้ การรักษาในช่วงที่ลิ้นหัวใจรั่วไม่รุนแรงมาก แพทย์มักจะแนะนำให้ป้องกันการติดเชื้อโรคเข้าสู่กระแสเลือด เช่น การหลีกเลี่ยงการทำฟันเมื่อมีแผลอักเสบในช่องปาก หรือควรแจ้งข้อมูลการเจาะตามร่างกาย เช่น ผู้ที่ชอบเจาะลิ้น อวัยวะเพศ เป็นต้น

 

การปฏิบัติตัวเมื่อพบว่าเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว

"โรคลิ้นหัวใจรั่ว" หากเป็นระยะไม่มาก อาการที่แสดงจะเป็นปกติ ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิต และมีกิจกรรมปกติของตัวเองได้เหมือนอย่างคนทั่วไป แต่ถ้าลิ้นหัวใจรั่วมาก เช่น หอบเหนื่อยมาก แม้จะทำงานเพียงเล็กน้อย ก็ต้องทำกิจกรรม หรือทำงานให้น้อยลง หรือหากเป็นมากควรงดกิจกรรม งด หรือลดการดื่มแอลกอฮอลล์ สูบบุหรี่ รวมทั้งอาหารที่มีรสเค็มจัด มันจัด เป็นต้น นอกจากนี้ การออกกำลังกายแบบหักโหม มักจะอันตรายต่อผู้ป่วยโรคลิ้นหัวใจรั่วที่มีอาการรุนแรง เพราะอาจทำให้หัวใจล้มเหลวได้ ส่วนผู้ป่วยที่ต้องการตรวจรักษาฟัน เช่น ถอนฟัน ขูดหินปูน ที่จะทำให้เกิดแผลในช่องปาก ก็ควรระมัดระวัง และควรต้องแจ้งแพทย์ให้ทราบ เพื่อวางแผนป้องกันการติดเชื้อ หรือแม้กระทั่งผู้ป่วยที่ต้องทำการผ่าตัดใดๆ ก็ควรปฏิบัติเช่นเดียวกัน

 

ข้อมูลจาก : ศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน  

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ