Lifestyle

“ผ้าย้อมคราม” ซอฟท์พาวเวอร์ ส่งออกจากไทย สู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ซอฟท์พาวเวอร์ (Soft Power) แปลว่า อำนาจนุ่มนวล หรือ อำนาจที่สามารถทำให้คนอื่นยินยอมโดยไม่ต้องใช้ความรุนแรง หรือ กดดัน แต่เป็นการใช้ความเป็นมิตร ความคิดสร้างสรรค์ และวัฒนธรรม ในการส่งเสริมสร้างอำนาจต่อรอง เช่นการชู "ผ้าย้อมคราม" เป็นสินค้าที่จะทำให้ต่างชาตินึกถึงไทย

"ผ้าย้อมคราม" จะเป็น ซอฟท์พาวเวอร์ ใหม่ของไทยได้หรือไม่?

ก่อนจะตอบคำถามข้างต้น เรามารู้จัก "ซอฟท์พาวเวอร์" กันก่อนดีกว่าค่ะ 

 

รู้จัก "ซอฟท์พาวเวอร์"

ซอฟท์พาวเวอร์ คือ การสร้าง หรือ การเพิ่ม อำนาจทางเมืองโลกของประเทศหนึ่งโดยใช้ 'วัฒนธรรม' เป็นตัวชูโรง ซึ่งประเทศที่โดดเด่นมากในการใช้ซอฟท์พาวเวอร์วันนี้คงไม่พ้นประเทศ เกาหลีใต้ ที่ได้สร้างกระแส เค-ป็อป ที่มาแรงและดังระบือไปทั่วโลกจนนำรายได้รวมถึงยกระดับการเมืองของเกาหลีใต้ได้อย่างมหาศาล

การที่พี่เกาหลีใต้สามารถพัฒนาประเทศจาก ซอฟท์พาวเวอร์ ได้ พี่ไทยเราน่าจะเก็บมาขบคิดต่อว่าเราจะสามารถสร้างอำนาจต่อรองทางการเมืองผ่าน ซอฟท์พาวเวอร์ ได้หรือไม่ แล้วเราจะใช้อะไรเป็นตัวชูโรงดี หากหนึ่งในนั้นเป็น "ผ้าย้อมคราม" เรียกอีกอย่างว่า "ผ้าครามสกล" ที่ชาวสกลนครมีความรู้ ความชำนาญเป็นอย่างดี ก็ถือเป็นภูมิปัญญาไทยควรค่าแก่การต่อยอดและส่งเสริมไปยังเวทีแฟชั่นโลกไม่น้อย

ผ้าพันคอย้อมคราม
 

ความเป็นมาของ "ผ้าย้อมคราม"

ผ้าย้อมคราม เป็นภูมิปัญญาที่ได้รับการถ่ายทอดกันมาแต่ครั้ง ปู ย่า ตา ยาย โดยการ ทอผ้าด้วยมือไว้ใช้เองและเป็นเอกลักษณ์ของชาวสกลนคร ซึ่งแต่เดิมจะเย็บด้วยมือเป็นเสื้อผ้าสวมใส่สำหรับผู้หญิง ส่วนผู้ชายจะทอเป็นผ้าขาวม้าใส่นุ่งแบบโจงกะเบน หรือผ้าเตี่ยว การทอผ้าฝ้ายได้จากนวลของดอกฝ้ายที่บานเต็มที่นำมากรอหือเข็นเป็น เส้นฝ้าย และย้อมน้ำคราม จากนั้น นำมาทอเป็นผ้า 

 

สืบทอดมาจากอดีตจนถึงปัจจุบันจึงเกิดการรวมกลุ่มทอผ้าย้อมสีธรรมชาติขึ้นเพื่อทอผ้า จำหน่ายเป็นรายได้เสริมจุนเจือครอบครัวอีกทางหนึ่ง เช่น ผ้าพื้นเมือง ผ้าคลุมไหล่ ผ้าปูโต๊ะ ผ้าพันคอ ผ้ามัดหมี่ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ

 

ต่อมาประมาณปี พ.ศ. 2535 ประเทศเราพบกับปัญหามลพิษจากสิ่งแวดล้อม สาเหตุหนึ่ง เกิดจากสารเคมีสังเคราะห์ซึ่งมีส่วนมาจาก สีย้อมผ้า ด้วยสีย้อมผ้าส่วนใหญ่เป็นออกไซด์ของโลหะหนัก ซึ่งโลหะหนักหลายชนิดเป็นสารก่อมะเร็ง เมื่อนำมาใส่แล้วรู้สึกร้อนจึงมีการคิดพลิกแพลงหันมานิยมสีย้อมธรรมชาติ จึงได้นำภูมิปัญญาเก่า ๆ ที่ได้สืบทอดกันมาแต่สมัยโบราณจากเดิมเกือบเลือนหายไปแล้วกลับมาพัฒนาเป็นอาชีพหลักของลูกหลานในทุกวันนี้ ทำให้ผ้า "ย้อมคราม" เป็นที่สนใจและต้องการมากขึ้นจนถึงทุกวันนี้ แต่ยังออกสู่ตลาดโลกนั้นยังน้อยจึงทำให้เรามีโอกาสที่จะนำภูมิปัญญาไปแบ่งปันให้ประชาคมโลกได้รู้จักในตัวแทนของ วัฒนธรรมไทย และ การส่งเสริม เศรษฐกิจสร้างสรรค์

 

ผ้าคุมไหล่ย้อมคราม

ผ้าซิ่นย้อมคราม
 

"ผ้าย้อมคราม" จะเป็น ซอฟท์พาวเวอร์ มิติใหม่ของไทยได้หรือไม่?

ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่จะมาเป็นซอฟท์พาวเวอร์ของไทยได้ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็น "ผ้าย้อมคราม" เพียงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการส่งออกงาน ศิลปะวัฒนธรรม อื่น ๆ อย่างดิจิทัลคอนเทนต์ มวยไทย ตะกร้อไทย จิตรกรรมไทย หรือแม้แต่เมนูอาหารไทยที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก อย่าง ไข่เจียวปูเจ๊ไฝที่ก็เพิ่งบูมในนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ไม่นานมานี้ 

 

งานศิลปะวัฒนธรรมเหล่านี้สามารถสร้างเม็ดเงิน การส่งออก ดึงดูดการท่องเที่ยว สร้างชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือให้คนไทยได้อีกมาก ทั้งนี้ก็อยู่ที่ว่าศิลปะวัฒนธรรมของไทยจะได้รับส่งเสริมจากหน่วยงานภาครัฐหรือไม่ เพราะหากเรียนรู้จากประเทศเกาหลีใต้ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่เกาหลีใต้ประสบความสำเร็จในการส่งออกวัฒนธรรมเกาหลีได้ก็เพราะรัฐบาลของประเทศเกาหลีได้ตั้งผูก "นโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์" ไว้เป็นหนึ่งในนโยบายหลักในการพัฒนาประเทศ

 

 

ที่มารูปภาพและข้อมูล:
https://www.youtube.com/watch?v=GL6gu6n73l0

https://www.komchadluek.net/scoop/192167

https://www.phakram.com/​​​​​​​


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ