ไลฟ์สไตล์

"พ่อปู่ชูชกให้โชค"
 กับ...สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ๙ มหามงคล วัดสำปะซิว

"พ่อปู่ชูชกให้โชค" กับ...สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ๙ มหามงคล วัดสำปะซิว

12 ก.พ. 2553

วัดสำปะซิว ต.สนามชัย อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี สร้างเมื่อ พ.ศ.๑๘๕๗ ยุคสมัยประวัติศาสตร์ (อยุธยาตอนต้น) ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ.๑๘๖๐ ตามประวัติตำนานที่ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าขานต่อๆ กันมาว่า เดิมสถานที่แห่งนี้เป็นวัดร้าง ต่อมากองทัพไทยในองค์สมเด็จพระนเร

  เมื่อ พ.ศ.๒๓๗๙ ตามประวัติของท่านสุนทรภู่ ได้เดินทางสุพรรณบุรี โดยแจวเรือมากรุงเทพฯ ล่องมาตามลำน้ำสุพรรณบุรี  และได้จดบันทึกเป็นโครงสี่สุภาพ โครงนิราศเมืองสุพรรณบุรี มีตอนหนึ่งได้ประพันธ์ไว้ดังนี้
 “สำปะทิวงิ้วง้าวสะล้าง  กรางไกร
 ถิ่นท่าป่ารำไร   ไร่ฝ้าย
 เจ๊กอยู่หมู่ไทยมอญ   ทำถั่วรั้วเอย
 ปลูกผักฟักกล้วยกล้าย  เกลื่อนทั่วทางจร”

 จากโครงนิราศเมืองสุพรรณบุรีนี้เอง แปลความได้ว่า ครั้งหนึ่ง วัดแห่งนี้เคยถูกเรียกชื่อว่า “วัดสำปะทิว” แต่เนื่องจากสาเหตุอันใดไม่ทราบ ได้ทำให้การเรียกชื่อวัดแห่งนี้ผิดเพี้ยนไปจากเดิม จากชื่อว่า วัดสางบัญชี เป็นวัดสำปะทิว ก่อนที่จะเป็นวัดสำปะซิว มาจนถึงทุกวันนี้
 
 พระมหาอนันต์ กุสลาลงกาโร เจ้าอาวาสวัดสำปะซิว บอกว่า ปัจจุบันนี้วัดสำปะซิวเป็นอีกวัดหนึ่งในสุพรรณบุรีที่พุทธศาสนิกชนนิยมมาทำบุญและกราบไหว้ขอพร โดยที่วัดมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ๙ มหามงคล ประกอบด้วย

 ๑.หลวงพ่อทองสัมฤทธิ์ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ สมัยทวารวดีอายุกว่า ๑,๐๐๐ ปี ๒.พระบรมสารีริกธาตุ ที่อดีตเจ้าอาวาสเก็บรักษามากว่าครึ่งทศวรรษ ๓.หลวงพ่อสมปรารถนา พระประธานในอุโบสถอายุ ๖๙๖ ปี ซึ่งเป็นพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่มีผู้มาอธิษฐานจิต ขอในเรื่องหนี้สินทั้งที่เป็นลูกหนี้แล้วเจ้าหนี้มักจะสมปรารถนา จึงเรียกท่านว่า หลวงพ่อสมปรารถนา บางคนก็เรียกว่า หลวงพ่อสางบัญชี เพราะช่วยสางบัญชีนั้นเอง

 ๔.อุโบสถอายุ ๖๙๖ ปี ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง เวสสันดรชาดกที่งดงามยิ่ง โดยเฉพาะภาพฝีพระหัตถ์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ

 ๕.พระสิวลี อรหันต์สาวก ที่ขึ้นชื่อว่า เป็นผู้ที่มากด้วยลาภสักการะ
 ๖.น้ำมนต์นพเคราะห์ ซึ่งเป็นน้ำมนต์รวบรวมมาจากวัด และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ แล้วมาประกอบพิธีนพเคราะห์เพื่อความเป็นสิริมงคล และเพิ่มพลังให้เทวาประจำกาย

 ๗.วิหารฐานสำเภาสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา ฐานของวิหารโค้งเหมือนเรือ ภายในเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาท พระพุทธชินราช และพระพุทธรูปหินทราย เก่าแก่จำนวนมาก

 ๘.พระพิฆเณศ เทพแห่งศิลปะ ปางหมอยา อายุกว่า ๑๐๐ ปี ซึ่งญาติโยมผู้มีจิตศรัทธาถวายให้วัด

 และ ๙.พราหมณ์พ่อปู่ชูชก ผู้ที่เกิดมาเพื่อเป็นคู่บารมีของพระเวสสันดรโพธิสัตว์ ในฐานะผู้ขอกับผู้ให้

 นอกจากนี้แล้ว ยังมีศาลาเรือนแพในแม่น้ำสุพรรณบุรี เป็นสถานที่สร้างทานบารมี และอนุรักษ์พันธุ์ปลา ซึ่งมีปลาขนาดใหญ่หลากชนิด ที่มากินอาหาร

 สำหรับความเป็นมาของการจัดสร้าง "พราหมณ์พ่อปู่ชูชก" นั้น พระมหาอนันต์ บอกว่า เมื่อ พ.ศ.๒๕๕ ทางวัดได้จัดเทศน์มหาชาติ ระหว่างนั้นเกิดนิมิตว่า ท่านขอให้สร้างรูปปั้นในวัด เพื่อจะมาร่วมบารมีสร้างวัด ปรากฏว่าหลังจากสร้างเสร็จ มีประชาชนเดินทางมากราบไหว้ขอพรอย่างต่อเนื่อง โดยมีคติความเชื่อในทางไสยศาสตร์ยกย่องชูชกว่า เป็นคนมีเสน่ห์ มีลาภมาก ข้าวปลาอาหาร บ้านเรือน และบริวาร จะขออะไรใครเขาก็ให้ หลายคนมาขอพรแล้วสมความปรารถนา ก็นำปัจจัยที่ได้มาช่วยสร้าง และพัฒนาวัดอย่างที่เห็น

 อย่างไรก็ตาม ในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ หากใครเดินทางไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร สุพรรณบุรี อาคารทรงมังกร ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ก็ไม่ควรพลาดที่จะกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ๙ มหามงคลที่วัดสำปะซิว ซึ่งห่างกันประมาณ ๒ กิโลเมตร เท่านั้น โดยเปิดให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลทุกวัน ตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐-๑๗.๐๐ น.  พุทธศาสนิกชนสอบถามรายละเอียด และเส้นทางเพิ่มเติมได้ที่ โทร.๐-๓๕๕๔-๖๔๔๔, ๐๘-๖๓๓๘ - ๐๙๐๙ และ ๐๘-๗๔๐๑-๐๗๐๐

หลวงพ่อทองสัมฤทธิ์
 หลวงพ่อทองสัมฤทธิ์ ถือว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะปางพุทธรูปที่พิเศษแปลก อัศจรรย์กว่าพระพุทธรูปปางใดๆ ในสยามประเทศ ซึ่งมีให้เห็นไม่ปรากฏบ่อยนัก ที่จะมีพระพุทธรูปปางเช่นนี้ กล่าวคือ นั่งอย่างสง่างาม บนฐานแท่นบัลลังก์บัวคว่ำบัวหงาย ขัดสมาธิเพชร พระบาทซ้อนพระบาท ซึ่งหมายถึงลักษณะอันงดงาม มั่นคง แข็งแกร่ง ดุจดังเพชร ในขณะที่พระกรขวายกขึ้น พระหัตถ์ขวาแผ่ประทานพร พระกรซ้ายยกขึ้น พระหัตถ์ซ้ายแผ่ให้พรมงคล

 ทั้งนี้ เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๕ ปีมะโรง นายส่ง สุจินตวงษ์ ได้นำมาถวายวัดสำปะซิว โดยมี พระครูสุวรรณคุณสาร (หลวงพ่อเต๋ย) ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสในยุคนั้น

 ครั้งนั้น เป็นที่แตกตื่นฮือฮากันอย่างมาก แก่ผู้ที่รู้ข่าว และได้มาพบเห็น พากันมาบูชาสักการะจำนวนมาก คนเก่าคนแก่ในครั้งนั้นเล่าให้ฟังว่า

 "ใครมากราบไหว้บูชาขอปรารถนาในสิ่งใด สำเร็จในสิ่งนั้น สมดังชื่อหลวงพ่อทองสัมฤทธิ์ ซึ่งมีความหมายแปลว่า สำเร็จ สมหวัง สมปรารถนา"

 นักโบราณคดีสันนิษฐานว่า หลวงพ่อทองสัมฤทธิ์ อยู่ในสมัยทวารวดี อายุกว่า ๑,๐๐๐ ปี หล่อด้วยโลหะเนื้อทองสัมฤทธิ์โบราณ ด้วยพุทธลักษณะที่งดงาม และมีอายุเก่าแก่

 ในสมัยที่ หลวงพ่อเต๋ย มีชีวิตอยู่นั้น มีนักค้าวัตถุมงคลติดต่อขอเช่าในราคาสูงถึง ๑๖ ล้านบาท  แต่หลวงพ่อไม่ให้ จากนั้นอีกประมาณ ๑ สัปดาห์ ปรากฏว่า มีคนร้ายใช้ความพยายามมาโจรกรรม  โดยวางยานอนหลับพระทั้งวัด แต่ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อทองสัมฤทธิ์ ทำให้โจรไม่สามารถเคลื่อนย้ายพระได้ ในอดีตนั้น คณะกรรมการวัดได้สร้างกรงปิดไว้ และจะเปิดให้พุทธศาสนิกชนกราบไหว้ขอพรได้เฉพาะช่วงเทศกาลสำคัญๆ เท่านั้น แต่ปัจจุบันนี้ ทางวัดได้เปิดให้กราบไหว้ขอพรได้ทุกวัน

 “มีคติความเชื่อทางในทางไสยศาสตร์ยกย่องชูชกว่า เป็นคนมีเสน่ห์ มีลาภมาก ข้าวปลาอาหาร บ้านเรือน และบริวาร จะขออะไรใครเขาก็ให้”


เรื่อง - ภาพ... "ไตรเทพ ไกรงู"