"ขิง" สารพัดประโยชน์สามารถใช้เป็นอาหาร หรือ ทำเป็นยาก็ได้ โดยเฉพาะ น้ำขิง ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ ซึ่งมีขั้นตอนในการทำไม่ยาก ทุกคนสามารถทำได้จากครัวของตัวเอง
"ขิง" สมุนไพร ที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ ไม่แพ้สมุนไพรไทยตัวอื่น อย่าง กระชาย ข่า ตะไคร้ ที่คนมักจะนำมาต้มเอาน้ำที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ต่าง ๆ ไปดื่มกินเพื่อสุขภาพ ยิ่งยามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสอย่างนี้
"ขิง" เป็นพืชอยู่ในวงศ์ "Zingiberaceae" โดยเป็นพืชล้มลุก มีเหง้าอยู่ใต้ดิน ลักษณะภายนอกมีเปลือกสีน้ำตาล ด้านในมีเนื้อสีนวล และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว "ขิง" ยังเป็นพืชที่ขยายพันธุ์ได้ง่าย ด้วยวิธีการ นำเหง้า มาลูกในดินร่วนซุย ใส่ปุ๋ยหมัก หรือ อาจจะปลูกในดินเหนียวปนทรายก็ได้
"ขิง" มีประโยชน์และคุณค่าทางอาหารมากมาย เช่น วิตามินเอ ไขมัน คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม โปรตีน
อีกทั้ง "ขิง" ยังช่วยเรื่องการขับเหงื่อ ขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ทำให้ร่างกายอบอุ่น ไล่ความเย็น
สำหรับคุณประโยชน์ของขิงนั้นมีอยู่ในเกือบทุกส่วนของ "ขิง" ก็ว่าได้ คือ
- เหง้า ช่วยเรื่อง ขับลม แก้ท้องอืด ขับเสมหะ แก้บิด เป็นต้น
- ต้น แก้จุกเสียด แก้ท้องร่วง เป็นต้น
- ใบ แก้ฟกช้ำ แก้นิ่ว แก้ขัดปัสสาวะ แก้โรคตา ฆ่าพยาธิ
- ดอก ช่วยย่อยอาหาร
- ราก ช่วยเรื่องเสมหะ แก้บิด
- ผล บำรุงน้ำนม แก้ไข้ เจ็บคอ
- แก่น นำเป็นไปทำทำยาแก้คัน
ในปัจจุบันนิยมนำ "ขิง" มาต้มเพื่อเอา "น้ำขิง" มารับประทาน ไม่ว่าจะเป็นการต้ม "น้ำขิง" ใช้จิบดื่ม หรือ จะนำไปเป็นส่วนประกอบของอาหารคาว อย่างเช่น ผัดขิงใส่ไก่ ต้มจืดผักกาดดองใส่ขิง ขิงดองกินแกล้มกับอาหารต่าง ๆ
ทั้งนี้หากจะนำ ขิง มาต้มเพื่อเอาไว้รับประทานในครอบครัว ก็มีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ทดลองทำดูได้ตามวิธี ดังนี้
สิ่งที่ต้องเตรียม คือ ขิงสด นำตาลทราย น้ำสะอาด
วิธีขั้นตอนทำ
- ปอกเปลือกขิง ล้างน้ำ ก่อนที่จะหั่นเป็นแว่น
- ตั้งน้ำในหม้อ รอให้น้ำเดือด แล้วใส่ขิงลงไป
- หลังจากน้ำเริ่มเดือดอีกรอบ ให้ใส่น้ำตาลตามลงไปได้เลย ความหวานแล้วแต่ความชอบ
- คนให้น้ำตาลละลายกับน้ำขิง จากนั้นยกขึ้นได้
เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จน้ำขิง ใช้อุปกรณ์และขั้นตอนที่ง่าย แต่สิ่งที่ได้กลับมาในน้ำขิงนั้นมากมาย
ทั้งนี้ในน้ำขิงสามารถใส่น้ำผึ้ง หรือ น้ำมะนาว ลงไปผสมได้ จะทำให้รสชาติดีขึ้นและยังช่วยแก้อาการเจ็บคอได้อีกด้วย
เครดิตภาพ ภาพ ศุภกฤต คุ้มกัน NationPhoto
ข่าวที่เกี่ยวข้อง