Lifestyle

เล็บผิดปกติ อาจจะป่วย “โรคสะเก็ดเงินที่เล็บ” รักษายากโอกาสกลับเป็นซ้ำได้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

“โรคสะเก็ดเงินที่เล็บ” เป็นโรคที่รักษาค่อนข้างยาก อาจต้องใช้การรักษาร่วมกันหลายวิธี บางวิธีค่อนข้างเจ็บปวด และมีค่าใช้จ่ายสูง

โรคสะเก็ดเงินที่เล็บ (nail psoriasis)เป็นความผิดปกติของเล็บที่พบในโรคสะเก็ดเงิน อาจมีอาการเป็นเฉพาะที่เล็บหรือพบร่วมกับอาการอื่นของโรคสะเก็ดเงิน เช่น รอยโรคสะเก็ดเงินที่ผิวหนัง ขุยที่หนังศีรษะ หรืออาจมีข้ออักเสบร่วมด้วยได้สาเหตุเกิดจากการแบ่งตัวของเซลล์ผิวหนังที่ผิดปกติบริเวณใต้โคนเล็บ และบริเวณใต้แผ่นเล็บ ทำให้เกิดการอักเสบและมีรอยโรคเกิดขึ้นที่แผ่นเล็บ

อ.พญ.ชนิตว์วัณณ์ วิชญชาคร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย กล่าวว่า อาการแสดงของโรคสะเก็ดเงินมักเกิดขึ้นที่ใต้โคนเล็บ (nail matrix disease)เล็บที่งอกออกมาอาจพบรอยหลุม,ร่องขวาง,เล็บแยกชั้น,เล็บขรุขระไม่เรียบ,หรืออาจพบจุดขาวที่เล็บ หากรอยโรคสะเก็ดเงินเกิดขึ้นที่ใต้แผ่นเล็บที่งอกออกมา อาจมีลักษณะหนาและแข็ง,แผ่นเล็บไม่ติดกับฐานเล็บ,มีจุดเลือดออกใต้เล็บ,หรืออาจพบวงคราบสีเหลืองหรือสีส้มที่เล็บ

การวินิจฉัยโรคสามารถให้การวินิจฉัยจากลักษณะของเล็บที่ผิดปกติดังกล่าวข้างต้น ร่วมกับการมีรอยโรคสะเก็ดเงินที่อื่น ๆ ของร่างกาย หากรอยโรคไม่ชัดเจน สามารถยืนยันการวินิจฉัยด้วยการตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจทางพยาธิสภาพเพิ่มเติม

การวินิจฉัยแยกโรค ควรแยกออกจากโรคอื่น ๆ ที่เล็บ เช่น เชื้อราที่เล็บ,การอักเสบที่เล็บชนิดอื่น ๆ เช่น lichen planus

การรักษา โรคนี้เป็นโรคที่รักษาค่อนข้างยาก อาจต้องใช้การรักษาร่วมกันหลายวิธี ได้แก่

1.หลีกเลี่ยงการชนหรือการกระแทกซ้ำๆ ที่เล็บ

2.ใช้ยาทา ซึ่งมีอยู่สองกลุ่มคือ สเตียรอยด์ และCalciprotriene

3.ฉีดยาสเตียรอยด์ที่เล็บเป็นวิธีที่ได้ผลดี แต่มีข้อเสีย คือ จะเจ็บปวดมากขณะฉีดยา

4.ยากินมักใช้ในรายที่เป็นมาก หรือมีอาการทางระบบอื่นๆร่วมด้วย ยาที่นำมาใช้ ได้แก่acitretin, methotrexate, cyclosporineหรือยากลุ่มbiologicsซึ่งยากลุ่มเหล่านี้ มักมีผลข้างเคียงกับระบบอื่น ๆ จึงจำเป็นต้องมาพบแพทย์ เพื่อปรับยา และเฝ้าระวังอาการข้างเคียงอย่างสม่ำเสมอและ

5.เลเซอร์ชนิดpulsed dye laserจากการศึกษาพบว่าได้ผลค่อนข้างดี ต้องทำเดือนละครั้งติดต่อกัน3-5ครั้ง ข้อเสียคือค่อนข้างเจ็บปวด และมีค่าใช้จ่ายสูง

โรคสะเก็ดเงินที่เล็บเป็นโรคที่รักษาค่อนข้างยาก มีโอกาสกลับเป็นซ้ำได้ดังนั้น

คำแนะนำสำหรับการดูแลเบื้องต้นด้วยตนเองคือ

1.ควรหลีกเลี่ยงการชนหรือการกระแทกซ้ำ ๆ ที่เล็บเนื่องจากอาจกระตุ้นให้ตัวโรคเป็นมากขึ้น

2.ควรทาครีมให้ความชุ่มชื้นที่มือและเล็บบ่อย ๆ และสม่ำเสมอ

3.ควรหลีกเลี่ยงการทำเล็บ แต่งเล็บ

4.ควรตัดเล็บให้สั้น

5.ควรใส่ถุงมือ เมื่อต้องใช้มือทำงานบ้าน หรือทำงานที่มีคราบน้ำมันและ

6.หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมี และตัวทำละลายโดยตรง 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ