Lifestyle

"คีโต" สูตรอาหารที่เน้นกินไขมัน แล้วทำไมถึงควบคุมน้ำหนักได้ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ไขข้อข้องใจ อาหาร "คีโต" สูตรอาหารที่เน้นกินไขมัน แล้วทำไมถึงควบคุมน้ำหนักได้ และ ไม่เหมาะกับใคร หาคำตอบได้ที่นี่

หากพูดถึงอาหาร "คีโต" หรือ Ketogenic Diet  เชื่อว่าคุณผู้หญิง หรือแม้แต่ตัวคุณผู้ชายเอง ที่สรรหาวิธีการควบคุมอาหาร เพื่อลดน้ำหนัก ต้องรู้จักดี "คีโต" เป็นการรับประทานอาหาร แล้วทำให้ร่างกายมีการสลายไขมัน คือ รับประทานอาหารที่มีข้าว แป้ง น้ำตาล หรือคาร์โบไฮเดรตที่มันต่ำมาก ๆ สิ่งที่เกิดขึ้น ร่างกายก็จะรู้สึกว่า ตอนนี้เราไม่มีน้ำตาลเข้าไป ร่างกายก็จะรู้สึกเหมือนกับ อดอาหาร เขาก็จะไปสลายไขมันในร่างกายขึ้นมา แล้วทำให้เกิดสารตัวหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นมาจากการสลายไขมัน เรียกว่า คีโตน (Ketone) ก็เลยเรียกอาหารพวกนี้ว่า Ketogenic Diet เพราะฉะนั้น อาหารคีโตก็คือ กินอาหารเข้าไป แล้วร่างกายรับรู้ว่า เหมือนเราไม่ได้กินอาหาร แล้วไปสลายไขมันในร่างกาย

 

 

"คีโต" สูตรอาหารที่เน้นกินไขมัน แล้วทำไมถึงควบคุมน้ำหนักได้ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

 

ทำไมกินไขมัน ถึงทำให้ลดน้ำหนักได้

- ข้อแรก เมื่อเรารับประทานอาหารเข้าไป ร่างกายมีการสลายไขมัน เนื่องจากว่าร่างกายรู้สึกเหมือนกับว่าไม่ได้รับประทานอาหาร

- ข้อที่สอง เวลาที่มีการสลายไขมันขึ้นมา สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ร่างกายก็จะมีการเสียน้ำไปด้วย ในขณะที่มีการสลายไขมัน เพราะฉะนั้น ช่วงแรก น้ำหนักจะลดลงมาก เนื่องจากการเสียน้ำ

- ข้อที่สาม เวลาที่เราไม่รับประทานอาหารพวกนี้ แล้วมีของเสียซึ่งชื่อว่า คีโตน เกิดขึ้น มันจะทำให้เราเบื่ออาหาร เพราะฉะนั้น จริง ๆ แล้ว เวลาที่เรารับประทานอาหารที่ชื่อว่า Ketogenic มันไม่จำเป็นต้องนับแคลอรี แต่รับประทานไปแล้ว เราจะรับประทานอาหารได้น้อยลงเอง ด้วยความเบื่ออาหาร

 

ระยะยาวน้ำหนักยังจะลงไหม

Ketogenic Diet มีผลในแง่ของการลดน้ำหนัก เมื่อเทียบกับเรารับประทานอาหารไขมันต่ำ หรือว่าอาหารทั่วไป มันดีกว่าจริง ๆ แต่ว่าผลที่เห็นชัดเจน มักจะเป็นในระยะสั้น โดยทั่วไปภายใน 6 เดือนแรก จะดีกว่าการรับประทานอาหารชนิดอื่น แต่ระยะยาว ส่วนใหญ่จะไม่แตกต่างกัน เหตุผลส่วนหนึ่งก็เพราะ เราไม่สามารถทนการรับประทานอาหารแบบนี้ไปได้ตลอด

 

 

"คีโต" สูตรอาหารที่เน้นกินไขมัน แล้วทำไมถึงควบคุมน้ำหนักได้ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

 

ระยะยาวมีผลเสียหรือไม่

ต้องบอกว่ามันเป็นอาหารที่ไม่ครบถ้วน เพราะเรากินบางส่วน เราไม่กินบางอย่าง กินบางส่วนคืออะไร กินไขมันได้ กินโปรตีนได้ ห้ามกินผักที่มันเป็นหัว กินได้แต่ผักใบ ห้ามกินผลไม้ ห้ามกินข้าว แป้ง น้ำตาล น้ำหวานทุกชนิด เพราะฉะนั้น สารอาหารได้ไม่ครบถ้วนแน่นอน ถ้าจะกินระยะยาว ต้องเสริมสารอาหารที่ขาดไป เสริมวิตามิน และเกลือแร่ ในขณะเดียวกัน สิ่งที่ต้องทราบคือ เมื่อไรก็ตามที่เรามากินพวกข้าว แป้ง น้ำตาล น้ำหนักมันจะกลับมาอย่างรวดเร็ว หรือที่เราเรียกว่าโยโย่

ใครบ้างที่ไม่ควรกิน “คีโต” 

- ถ้าคน ๆ นั้นตับไม่ดี อันนี้เดือดร้อนแน่นอน เพราะฉะนั้น ห้ามใช้ในคนไข้ที่มีปัญหาโรคตับ

- กลุ่มที่สองเรื่องไต เพราะว่า ถ้าใครที่ไตเสื่อม กลุ่มนี้จะกินโปรตีนค่อนข้างเยอะ ก็อาจจะมีปัญหาได้เหมือนกัน

- กลุ่มที่สาม คนที่มีปัญหาในเรื่องของการเผาผลาญไขมัน อันนี้ก็จะมีปัญหาในการใช้อาหารพวกคีโตเจนิค แล้วจะรู้ได้อย่างไร พวกกรรมพันธุ์ทั้งหลาย แต่ถ้าไม่รู้จริง ๆ ใครที่มีคอเลสเตอรอลในเลือดสูงมาก ๆ ไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงมาก ๆ ไม่แนะนำให้กินคีโต ข้อเสียอีกอย่างหนึ่งสำหรับกลุ่มนี้ก็คือ จะต้องใช้ไขมันค่อนข้างสูง เพราะฉะนั้น คนที่มีปัญหาเรื่องการบีบตัวของลำไส้ ท้องอืดง่าย ๆ มีกรดไหลย้อน อันนี้ต้องระวัง เพราะว่าอาจจะทำให้อาการกำเริบได้

 

ข้อแนะนำสำหรับคนที่เลือกใช้วิธี"คีโต"

สำหรับคนที่อยากจะใช้ Ketogenic Diet ในการลดน้ำหนัก สิ่งที่จะต้องบอกก็คือ Ketogenic Diet ไม่ใช่แค่อดข้าว เคยมีคนไข้บอกว่าไม่กินข้าว แต่ยังคงกินน้ำหวาน กินไอศกรีม และผลไม้ แบบนี้ไม่ช่วยเลย สิ่งที่จะต้องลดคือ ต้องลดกลุ่มที่เป็นคาร์โบไฮเดรตทั้งหมดให้ลดลง ซึ่งจริง ๆ แล้วจะต้องกินน้อยกว่าประมาณ 20-50 กรัมต่อวัน แต่สามารถจะกินไขมันเพิ่มขึ้นได้ และสิ่งที่จะต้องระวังก็คือ จะต้องกินไขมันที่ดี ไม่ใช่กินไขมันอะไรก็ได้

อย่างไรก็ตาม หากกลุ่มคนที่อาจจะมีปัญหา เช่น คนไข้โรคตับ โรคไต มีไขมันในเลือดผิดปกติ หรือเป็น เบาหวาน แล้วอยากจะใช้ Ketogenic Diet แนะนำให้ปรึกษาแพทย์จะดีที่สุด

 

ที่มา : โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ