Lifestyle

เช็คอาการลูกแค่เศร้าหรือเป็น "โรคซึมเศร้า" กันแน่ สาเหตุอาการวิธีรับมือ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รู้จัก "โรคซึมเศร้า" ในเด็กเป็นได้หรือไม่ พ่อแม่ผู้ปกครองควรเช็คอาการหรือลูกแค่เศร้า สาเหตุ อาการ วิธีรับมือ

ปัจจุบันถูกพูดถึงหลายต่อหลายครั้งทั้งในรายงานข่าว โซเซียลมีเดีย และสังคมโลกออนไลน์ เกี่ยวกับ โรคซึมเศร้า (depression) แต่ผู้คนจำนวนมากก็ยังไม่เข้าใจในอาการ สาเหตุ จึงทำให้ต่างไม่ตระหนักถึงความร้ายแรงที่อาจตามมา จนหลายชีวิตต้องจากไป จริง ๆ แล้วโรคซึมเศร้าคืออะไรกันแน่ แล้วโรคนี้เด็ก ๆ ล่ะจะเป็นได้มั้ย พ่อแม่ผู้ปกครองจะสังเกตอย่างไรถึงจะทราบว่าลูก ๆ ของเราเป็นโรคซึมเศร้า

โรคซึมเศร้า คืออะไร เด็กเป็นได้หรือไม่

เป็นโรคทางอารมณ์ชนิดหนึ่ง โดยผู้ป่วยมักจะมีอารมณ์เศร้าติดต่อกันเกือบทั้งวัน และเป็นติดต่อกันนานเกิน 2 สัปดาห์ขึ้นไป โรคนี้เกิดได้ในทุกเพศทุกวัย คนที่เป็นพ่อเป็นแม่ที่มีความเป็นห่วงลูกจึงอาจกังวลว่า เมื่อลูกโตขึ้นจนเริ่มเข้าสู่วัยเรียนจะต้องมีการปรับตัวเข้าสู่สังคมในโรงเรียน การใช้ชีวิตของลูกจะเป็นอย่างไร และเมื่อพบว่าลูกมีความเครียดสะสม เริ่มมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เริ่มเก็บตัว ไม่ค่อยพูด เริ่มไม่อยากไปโรงเรียน จะเป็นเพราะว่าเป็นโรคซึมเศร้าหรือเปล่า

 

 

อะไรเป็นสาเหตุของโรคซึมเศร้าในเด็ก

  • พันธุกรรม ถ้ามีประวัติมีผู้ป่วยโรคซึมเศร้าในครอบครัว ก็จะมีโอกาสป่วยด้วยโรคซึมเศร้ามากกว่าเด็กทั่วไป
  • การที่เด็กได้รับยาบางชนิด เช่น ยาเคมีบำบัด ยาลดความดัน สารเสพติดต่าง ๆ
  • โรคบางชนิด เช่น โรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง
  • สภาพแวดล้อมหรือความเครียด ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาในครอบครัว การทะเลาะกับแฟนกับเพื่อน ผลการเรียนตกต่ำ ถูกเพื่อนกลั่นแกล้งเสมอ ๆ หรือรู้สึกไม่ชอบ กลัว กังวลกับบุคคลรอบข้าง หรือเด็กขาดความมั่นใจในตนเอง กลัวการแข่งขัน

อาการแบบไหน ที่สงสัยได้ว่าลูกอาจเป็นโรคซึมเศร้า

  • มีอารมณ์ที่ซึมเศร้าลง เบื่อหน่ายมากขึ้น หรือบางรายอาจมีอารมณ์หงุดหงิด
  • เริ่มเก็บตัว ไม่ค่อยพูดเหมือนก่อน
  • ไม่มีความสุขความเพลิดเพลินเมื่อทำกิจกรรมที่ชอบ หรือไม่ชอบทำกิจกรรมที่เคยชอบทำมาก่อน เช่น เคยชอบวาดรูป แต่ตอนนี้ไม่ชอบแล้ว
  • ไม่อยากกินอาหาร น้ำหนักลดลง หรือในบางรายก็กินอาหารมากเกินไป
  • นอนไม่ค่อยหลับ หรือหลับ ๆ ตื่น ๆ หรือตื่นเร็วกว่าปกติ ในขณะที่บางรายก็นอนทั้งวัน
  • เศร้า เฉื่อยชา ไม่อยากทำอะไรเลย
  • ไม่มีสมาธิในการเรียน ความจำแย่ลง
  • รู้สึกผิด โทษตัวเอง รู้สึกไร้ค่า
  • แอบร้องไห้คนเดียว
  • ใครทำอะไรให้ ก็ผิดหูผิดตาไปซะหมด
  • อยากฆ่าตัวตาย หรือบ่นว่าอยากตาย

 

 

อย่างไรก็ตาม การมีอาการดังกล่าวก็ใช่ว่าลูกจะเป็น โรคซึมเศร้า เสมอไป ดังนั้น หากพ่อแม่ผู้ปกครองสงสัยก็ควรพาลูกไปปรึกษากับแพทย์เฉพาะทางเสียก่อน เพื่อการวินิจฉัยว่าเป็นอะไรกันแน่ และใช่เป็นโรคซึมเศร้าหรือไม่ จะได้ทำการรักษาให้ถูกจุดต่อไป

วิธีรับมือเมื่อลูกเป็นโรคซึมเศร้า

หากลูกได้รับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ว่าเป็นโรคซึมเศร้าแน่นอนแล้ว การดูแลเอาใจใส่จากผู้ปกครองก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้การรักษาด้วยการกินยาและการรับคำปรึกษาจากแพทย์ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครองควรปฏิบัติตัว ดังนี้

  • หมั่นพูดคุยกับลูก สังเกตพฤติกรรม สอบถามความรู้สึก ความสุขของลูก สารทุกข์สุกดิบต่าง ๆ
  • ทำกิจกรรมร่วมกับลูก สร้างบรรยากาศใหม่ ๆ กิจกรรมใหม่ ๆ เพื่อให้เด็กมีความสุขเพิ่มขึ้น และต้องไม่เป็นกิจกรรมที่เด็กไม่ชอบ เพราะจะทำให้อาการแย่ลงไปกว่าเดิมได้
  • พูดคุยกับลูกโดยใช้เหตุและผล ไม่ใช้อารมณ์ ให้ความเอาใจใส่และความอบอุ่นแก่ลูกอยู่เสมอ
  • เปิดโอกาสให้ลูกได้เล่าปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่เร่งรัด สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ไม่ตึงเครียด
  • คอยสำรวจพฤติกรรมหรือขอความช่วยเหลือจากคุณครูให้ช่วยสอดส่องพฤติกรรมของลูก
  • เปิดเผยพูดคุยกับคุณครูเพื่อแลกเปลี่ยนปัญหาของลูกที่พบที่บ้านและโรงเรียน เพื่อร่วมมือกันแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิด
  • ควรปรึกษาจิตแพทย์เป็นประจำ เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้องและต่อเนื่องต่อไป

 

ข้อมูล : โรงพยาบาลพญาไท

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ