เทคนิคกำจัดกลิ่นอึฉี่แมว สุดเหม็นฉุน

ทาสแมวทั้งหลายลองใช้เทคนิคเหล่านี้ ช่วยกำจัดกลิ่นยี้ของอึน้องเหมียวกัน

*ใช้สเปรย์กำจัดกลิ่นหรือสเปรย์ฆ่าเชื้อ ถือเป็นตัวช่วยอำนวยความสะดวกที่เดี๋ยวนี้มีขายกันค่อนข้างมาก ทำให้ทาสแมวสบายขึ้นเยอะ เพราะมีทั้งแบบที่ช่วยกำจัดกลิ่นอย่างเดียว และแบบที่กำจัดกลิ่นพร้อมทั้งฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสไปพร้อมกัน ซึ่งปัจจุบันมีทั้งผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและดับกลิ่นแมวชนิด Enzymatic Cleaner และ Odour/Smell Remover รวมถึงสเปรย์สูตรที่สกัดจากสมุนไพรต่างๆ เช่น ชาเขียว ตะไคร้ ที่ปลอดภัยต่อสุขภาพน้องเหมียวของเรา

 

 

 

 

*ผงโรยทรายแมว  ใช้สะดวกสุดๆ เพราะผงโรยทรายแมว จะช่วยกำจัดกลิ่นฉี่และกลิ่นอึแมวโดยตรง แค่โรยผงลงในกระบะทรายแมว ห้องน้ำแมว หรือถาดรองกรงสัตว์เลี้ยง จะช่วยลดกลิ่นแอมโมเนียจากกลิ่นฉี่และกลิ่นอึ ขจัดกลิ่นเหม็นกวนใจในห้อง(และข้างห้อง) เรียกว่ามีประสิทธิภาพเพื่อการควบคุมกลิ่นโดยเฉพาะ แถมยังช่วยให้ทาสทั้งหลาย ประหยัดไม่ต้องซื้อทรายแมวหรือเปลี่ยนบ่อยๆ อีกด้วย เพราะช่วยยืดอายุการใช้ทรายแมวให้ได้นานขึ้น

 

*น้ำส้มสายชู โดยขั้นแรกต้องเก็บอึและก้อนฉี่น้องแมวก่อน แล้วแค่เอาน้ำส้มสายชูมาผสมกับน้ำให้เท่าๆ กัน หรือจะผสมกับน้ำร้อนก็ได้แล้วฉีดหรือค่อยๆ ราดไปบนกระบะทรายแมว ก็จะขจัดกลิ่นอึและฉี่น้องแมวได้ เพราะกรดในน้ำส้มสายชูจะทำปฏิกิริยากับปัสสาวะแมวทำให้กลิ่นต่างๆ จางหายไป

 

 

 

 

 

 

*ใช้น้ำหมักชีวภาพหรือน้ำ EM  มีข้อมูลบอกว่าน้ำหมักชีวภาพหรือน้ำ EM เป็นหนึ่งในวิธีกำจัดกลิ่นต่างๆ ได้ ดังนั้น ก็สามารถนำมาใช้กำจัดกลิ่นอึของเหมียวได้เช่นกัน วิธีใช้คือต้องเก็บอึและฉี่ของแมวออกก่อน จากนั้นใช้ EM ล้วนๆ ใส่กระบอกฉีดพ่นทิ้งไว้ รอให้แห้งหรือซับน้ำออกก่อนนำให้แมวใช้ หรือเวลาที่เราทำความสะอาดกระบะทรายแล้ว กำลังจะเปลี่ยนหรือเททรายใหม่ ให้ใช้น้ำหมักเทลงไปที่กระบะทรายทิ้งไว้สักพัก แล้วนำมาล้างออกให้สะอาด ก่อนจะเททรายของใหม่ เพื่อช่วยกำจัดกลิ่นตกค้าง ทั้งกลิ่นสาปและกลิ่นอึกลิ่นฉี่น้องแมวได้    

 

 

*ลูกเหม็น อีกวิธีบอกต่อกันมาว่าให้นำลูกเหม็นมาบดละเอียดแล้วผสมกับน้ำเปล่าราดที่กระบะทรายทิ้งไว้ แล้วมาล้างทำความสะอาดซ้ำ หรือนำมาราดบริเวณที่แมวชอบมาอึหรือฉี่ (กรณีที่น้องทิ้งระเบิดไม่เป็นที่) เรียกว่ากลบกลิ่นเหม็นฉุนด้วยลูกเหม็น พร้อมกับไล่ไม่ให้บรรดาแมวทั้งหลายมาขับถ่ายบริเวณที่ไม่อนุญาตได้อ้วย แต่มีข้อควรระวังคือต้องเศษของลูกเหม็น ล้างทำความสะอาดไม่ให้แมวมากินหรือเลีย และอย่าผสมให้มีกลิ่นลูกเหม็นจนฉุนเพราะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ     

เห็นไหมว่าแม้จะมีอุปสรรคจากการเลี้ยงน้องแมวอยู่บ้าง แต่ก็สามารถจัดการได้ไม่ยาก ทำให้ทาสทั้งหลายอยู่ร่วมกับน้องแมวสุดที่รักได้อย่างสบายตัว ไม่มีกลิ่นฉุนๆ มากวนใจ แฮปปี้กันไปทุกบ้าน