ผักบ้าน ๆ อย่าง"แตงกวา" เปี่ยมด้วยคุณประโยชน์ที่รู้แล้วต้องทึ่ง

"แตงกวา"  ไม้เลื้อยที่หลากหลายพันธุ์แตกต่างกันตามถิ่นกำเนิด และไม่ได้มีเพียงรูปทรงยาว รี เปลือกสีขียว อย่างที่เราเห็นเท่านั้น แตงกวา บางสายพันธุ์ จะมีลักษณะกลม เปลือกหนา มีสีเหลือง สีส้ม ต่างกันไปตามแต่ละสายพันธุ์ ส่วนใหญ่แล้วเรานิยมทานแตงกวาแบบสด หรือจะอาจจะนำไปปรุงสุกเป็นอาหารก็ได้ ไม่เพียงเท่านั้น แตงกวา ยังมีประโยชน์ในด้านความงามอีกด้วย ข้อนี้เชื่อว่า สาว ๆ น่าจะรู้ดี ที่นี่เราลองมาดูกันว่า แตงกวา นั้นมีประโยชน์ ดีต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง

 

 

 

 

ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ 

ในแตงกวา นั้นมีสารที่ชื่อว่า ไฟเซติน (Fisetin) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยต้านการอักเสบ ดี ต่อสมองและระบบประสาท ช่วยในเรื่องความจำ ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ เป็นสารชนิดเดียวกับที่มีในสตรอเบอรี่ แอปเปิ้ล และลูกพลับ 

 

ป้องกันเกี่ยวกับโรคกระดูก 

แร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีในแตงกวา ไม่ว่าจะเป็น ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส แคลเซียม และวิตามินอีกหลายชนิด ล้วนแล้วแต่มีส่วนช่วยบำรุงกระดูก และฟันของเราให้แข็งแรง

 

 

 

ต้านสารอนุมูลอิสระ

แตงกวา เป็นผักที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระสำคัญ ๆ อย่างเช่น ฟลาโวนอยด์ และแทนนิน (Tannin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีคุณสมบัติในการยับยั้งเซลล์อันตรายต่าง ๆ ที่จะส่งผลให้เกิดโรคเรื้อรัง อย่าง โรคมะเร็ง โรคหัวใจ หรือเบาหวาน และยังมี ลิกแนน (Lignans) ที่ช่วยต้านการอักเสบต่าง ๆ ที่จะนำไปสู่โรคข้ออักเสบ หรือภาวะการอักเสบต่าง ๆ

 

ป้องกันภาวะขาดน้ำ 

สำหรับคนที่ชอบออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรม แตงกวา ช่วยทดแทนน้ำที่ร่างกายสูญเสียได้ อีกทั้ง แตงกวา มีฤทธิ์เย็น จึงช่วยให้ร่างกายเย็นเร็วขึ้นหลังการออกกำลังกาย และสำหรับผู้ต้องการควบคุมน้ำหนัก แตงกวา ช่วยให้เราอิ่มท้องได้นานขึ้น เนื่องจากในแตงกวา มีไฟเบอร์สูง แถมแคลลอรี่ต่ำ และยังช่วยในเรื่องของระบบขับถ่ายให้ทำงานได้ดีอีกด้วย

 

 

 

 

ในด้านความงาม แตงกวา ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินซี กรดคาเฟอิก ซึ่งสารที่มีช่วยลดอาการบวม อาการอักเสบระคายเคืองของผิวหน้า เช่นอาการบวมใต้ตา ก็สามารถฝานบาง ๆ แช่เย็น แล้วนำมาวางบริเวณรอยบวม จะช่วยลดอาการบวมลงได้ หรือ สาว ๆ บางคนที่ชอบการมาส์กหน้าด้วยแตงกวา น้ำจากแตงกวาจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นใกับผิวของเราได้  และในปัจจุบันก็มีการใช้น้ำแตงกวา ผสมกับเครื่องสำอางต่าง ๆ เช่น ครีมล้างหน้า เจลล้างหน้า สบู่ล้างหน้า ครีมบำรุงผิว โลชั่น เป็นต้น 

 

 

 

แต่ถึงแม้ว่า แตงกวา จะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีข้อควรระวัง เพราะในแตงกวานั้นมีกรดยูริก ถ้าเป็นการนำมาปั่นสด ๆ รับประทานทุกวัน ร่างกายก็อาจจะสะสมกรดยูริกเข้าไปทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนแคลเซียมในกระบวนการสร้างเซลล์กระดูก ความแข็งแรงของเม็ดเลือด ผลที่ตามมาอาจทำให้เกิดอาการอักเสบซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเกาต์ได้ และสำหรับผู้ที่ในอยู่ระหว่างการใช้ยารักษาโรคในกลุ่มยาวาร์ฟาริน ควรหลีกเลี่ยงเนื่องจากวิตามินเคในแตงกวาที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือดอาจส่งผลกับการยารักษาโรคที่ใช้อยู่  นอกจากนี้แล้วควรล้างแตงกวาให้สะอาด เพื่อป้องกันยาฆ่าแมลงที่อาจตกค้างอยู่บนผิวของแตงกวา

 

 

ขอบคุณภาพ https://www.pexels.com/