ไลฟ์สไตล์

โลกใบนี้ดนตรีไทย - นักสู้ภูธร

โลกใบนี้ดนตรีไทย - นักสู้ภูธร

09 ก.พ. 2553

เมื่อวันเสาร์ที่ 6 ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสเข้าชมเดี่ยวไมโครโฟน 8 หรือเดี่ยว 8 ของ คุณโน้ส อุดม แต้พานิช ก็ยอมรับว่าเป็นครั้งแรกที่มีโอกาสชมแบบสดๆ เพราะที่ผ่านมาก็ได้แต่ดูทางแผ่น ซีดี แต่ความจริงแล้วเดี่ยวไมโครโฟนของคุณโน้สที่ผ่านๆ มาผมเองก็อยากไปชมสดๆ เพียง

 และทุกอย่างก็สมใจนึกเมื่อวันเสาร์ที่แล้วนี่เอง ต้องยอมรับว่าสนุกกว่าดูจากแผ่นซีดีหลายเท่า ส่วนการทอล์กโชว์ในเดี่ยว 8 ก็เป็นไปตามสไตล์ของเขา คือ สนุก เฮฮา ขำๆ คลายเครียด และมีมุกที่ทันยุคสมัยต่อเหตุการณ์ปัจจุบันอย่างมากมาย  โดยเฉพาะ  เพลงฉ่อย ที่ผมชื่นชอบมากที่สุด และถือว่าเป็นจุดสุดยอดของงานนี้  ผมคิดว่าเดี่ยว 8  สนุกกว่า เดี่ยวไมโครโฟนในครั้งก่อนๆ ที่ผ่านมาของคุณโน้ส อย่างแน่นอน แต่มีข้อแม้ว่า ต้องไปชมสดๆ นะครับ

 เอาล่ะครับ ตอนนี้ผมก็จะกลับเข้าไปตอบคำถามที่เข้ามาทาง www.khun-in.net ซึ่งมีเข้ามาหลายคำถาม และส่วนใหญ่ก็เป็นคำถามที่ดี แต่ผมก็จะขอตอบไปตามคิวที่เข้ามาก่อนละหลัง โดยผมจะเริ่มจากคำถามของคุณที่ใช้นามแฝงว่า พญาครุฑสีทอง ซึ่งถามว่า ทำไมปี่พาทย์มอญถึงใช้แสดงแต่งานศพ

 ข้อนี้ผมต้องขอย้อนไปถึงคำว่า ปี่พาทย์มอญ ก่อน โดยวงปี่พาทย์มอญที่เราเห็นกันตามงานศพนั้น แต่เดิมเริ่มแรกดนตรีของประเทศมอญ ได้เข้ามาในเมืองไทยในยุคแรกก็คือ ตระกูลดนตรีเจริญ หากผมจำไม่ผิดก็น่าจะเป็น ครูสุ่ม ที่นำฆ้องมอญวงแรกเข้ามาในเมืองไทย ซึ่งดนตรีของมอญที่เข้ามาเมืองไทย นอกจากฆ้องมอญแล้วก็ยังมีตะโพนมอญ เปิงมาง ปี่มอญ และโหม่ง 3 ใบ ที่เขาเรียกว่า "กระจังโหม่ง" รวมกันเป็น 5 อย่าง หรือ 5 ชิ้น เดิมเครื่องดนตรีมอญเหล่านี้ เขาก็ใช้แสดงตามงานต่างๆ ทุกงาน ไม่ว่าจะเป็นงานรื่นเริงหรือแม้กระทั่งงานศพ แต่หลังจากที่เครื่องดนตรีเหล่านี้ตกมาอยู่ในเมืองไทย บรมครูดนตรีไทย ซึ่งผมคิดว่าน่าจะเป็น   คุณครูหลวงประดิษฐ์ไพเราะ  ได้คิดเอาระนาดเอกของไทยใส่เข้าไปและได้คิดทำฆ้องมอญวงเล็กให้เข้าคู่กับฆ้องมอญของเดิม รวมถึงได้นำระนาดทุ้มเข้ามาคู่กับระนาดเอก ซึ่งเป็นลักษณะคล้ายกับปี่พาทย์ของไทย และเมื่อผสมวงด้วยเครื่องดนตรีไทยต่างๆ ที่ว่ามาเข้าไปในวงดนตรีของมอญ ก็เลยกลายมาเป็นปี่พาทย์มอญนั่นเอง ส่วนที่ว่าทำไมใช้เล่นแต่งานศพนั้น ตามจริงแล้ววงปี่พาทย์มอญใช้เล่นหรือแสดงในงานทั่วๆ ไป แต่หลังจากที่ได้เข้าไปแสดงในงานพระบรมศพของ   สมเด็จพระเทพศิรินทรามาตย์ พระราชินีในรัชการที่ 4 ก็เลยมีความเชื่อว่า วงปี่พาทย์มอญ จะใช้แต่ในงานศพตั้งแต่ครั้งนั้นเป็นต้นมา ก็จะเป็นอันว่า จบคำถามของคุณพญาครุฑสีทอง

 คำถามข้อต่อไปจากคุณที่ใช้นามแฝงว่า เถ้าแก่ใหญ่ ซึ่งถามว่า มือระนาดเอกในต่างจังหวัด ใครเก่งและมีชื่อเสียงมากที่สุด

 คำถามข้อนี้ต้องบอกว่า ตอบยากมาก เนื่องจากเป็นคำถามที่กว้าง ซึ่งมือระนาดเอกที่เก่งๆ ถ้านับเริ่มตั้งแต่สมัยก่อนจนถึงปัจจุบัน คงจะมีถึงหลักร้อย ดังนั้นผมคิดว่าควรจะตัดคำตอบให้แคบลงมา ก็คือเอาแต่มือระนาดต่างจังหวัดาไปตอบคำถาม่างแน่นอนครับหรือภูธรที่เก่งๆ ที่ตัวผมได้เคยเห็น หรือเกิดทันเท่านั้น ก็คงจะพอ รวมถึงเป็นภูธรแท้ก็คือ เขาเกิดต่างจังหวัดและก็หัดเล่นระนาดที่ต่างจังหวัด และเก่งตั้งแต่อยู่ในต่างจังหวัดก็เท่ากับว่า ไม่นับมือระนาดที่เกิดต่างจังหวัด แต่มาเก่งในกรุงเทพฯ

 ถ้าย้อนไปเมื่อสี่สิบปีที่ผ่านมาจะมีระนาดเอกต่างจังหวัดหรือภูธรที่เก่งและมีชื่อเสียงมากที่สุดในยุคนั้นก็คือ ผู้ใหญ่ประเสริฐ สดแสงจันทร์ ซึ่งมีฉายาว่าสิงห์ 3 จังหวัด ก็คือในย่าน อยุธยา อ่างทอง สุพรรณบุรี ในยุคนั้นไม่มีใครจะต่อกรด้วย เพราะมีลีลาการตีที่เหนียวแน่นและชัดเจน ถัดมาอีก 10 ปีกว่าๆ ก็จะมีนักระนาดเอกที่ชื่อว่า สมนึก ศรประพันธ์ ซึ่งคนนี้ก็คล้ายๆ กับผู้ใหญ่ประเสริฐ สดแสงจันทร์ ก็คือไม่มีคู่ต่อกรในแถบภูธรด้วยกัน จุดเด่นของคุณสมนึก ศรประพันธ์ ก็คือความไหว และที่สำคัญการบรรเลงเพลงเดี่ยวระนาด เขาจะตีไม่ผิดลูกแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งภาษาระนาดเขาจะเรียกว่า ตีสะอาด โดยท่านนี้ถ้าผมจำไม่ผิดจะเป็นชาวนครสวรรค์และมาเติบโตที่อ่างทอง ซึ่งทั้ง 2 ท่านนี้เสียชีวิตไปนานแล้ว

 ส่วนมือระนาดเอกภูธรแท้ๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน เท่าที่ผมนึกออกก็มี คุณประสิทธิ์ อินทรพิพัฒน์ หรือนิคเนมว่า อาจารย์เบี้ยว คนนี้เป็นลูกศิษย์ของผู้ใหญ่ประเสริฐ สดแสงจันทร์ โดยรายนี้เป็นชาวสุพรรณบุรี ฝีไม้ลายมือก็จะคล้ายกับครูของเขาเอง และมีจุดเด่นอยู่ที่ความมาตรฐานก็ คือคงเส้นคงวา ซ้อมมายังไงก็จะตีได้ยังนั้น ถือว่าเป็นข้อดี เพราะนักระนาดเอกสมัยนี้หลายคน เวลาซ้อมจะตีได้ดีมาก แต่เวลาขึ้นเวทีจริงกลับตีได้ไม่ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ของตัวเอง  

 คุณประสิทธิ์  อินทรพิพิฒน์ ถือว่าเป็นนักระนาดเอกที่ใจสู้ และก็ควรเอาเป็นแบบอย่าง ก็คือครั้งหนึ่งเขาเคยป่วยเป็น โรคอัมพฤก แต่ในปัจจุบันอายุเกือบ 60 ปี สามารถกลับมาประชันกับนักระนาดรุ่นน้องอายุน้อยกว่าเกือบ 20 ปี ได้แบบสูสี ซึ่งทั้งหมดนั้นก็เป็นเพราะหัวจิตหัวใจของเขาเองนั่นแหละครับ  

 ต้องบอกว่าเขาคือ นักสู้ภูธร ของจริงครับ
         
"ขุนอิน"