ไลฟ์สไตล์

"หมุงหมิง" สุวรา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา 
หวดลูกยาง สมาธิเยี่ยม

"หมุงหมิง" สุวรา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา หวดลูกยาง สมาธิเยี่ยม

06 ก.พ. 2553

หน้าตาดีแล้วยังการันตีด้วยนามสกุลที่โด่งดัง แถมนานๆ จะออกงานสังคมปรากฏโฉมให้นักข่าวได้เห็นหน้าชัดๆ กันสักครั้ง ก็ไม่พลาดละที่ "คม ชัด ลึก" จะต้องตามจีบมาบอกเล่าความเป็นตัวตน แล้วยิ่งรู้ว่ากิจกรรมยามโปรดเป็นการเข้ายิมหวดลูกยาง (ตีสควอช) ก็รีบล่ะคะ...ที่จ

 ว่าแล้วก็นัดกันในช่วงสายเพื่อเข้ายิมที่โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส ใกล้ๆ มหาวิทยาลัยที่เธอเรียน ด้วยตอนนี้เธอเรียนคณะเภสัชศาสตร์ ปี 4 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย "หมุงหมิง" ปรากฏกายในชุดพร้อมลงสนามกับกระโปรงสั้นสีขาวเข้าชุดกับเสื้อกีฬาแขนสั้นสีขาวสวยใสสมวัย พร้อมด้วยแร็กเก็ตคู่ใจที่เธอกระซิบว่า ตั้งแต่เริ่มเล่นเมื่อ 4 ปีที่แล้วก็มีแร็กเก็ตอันนี้อยู่เคียงข้างกายมาตลอด

 อะอะ...ก่อนก้าวเข้าห้องหวดลูกยาง ก็ขอพูดคุยที่มาที่ไปก่อนจะปล่อยให้เธอไปออกแรงเรียกเหงื่อเพื่อสุขภาพ เอื้อนเอ่ยประโยคแรกเธอก็บอกว่า ตอนนี้เรียนอยู่ปี 4 ปีหน้าอีกปีก็จะจบแล้ว ช่วงนี้มีเรียนเกือบทุกวันใกล้จบแล้วก็ต้องขยันหน่อย มีการฝึกงานเป็นเภสัช สอนวิธีจ่ายยา แนะนำการใช้ยา ไปจนถึงการดูแลและวินิจฉัยโรคก่อนจ่ายยาด้วย

 "เรียนหนักก็มีเครียดบ้างเหมือนกัน ก็พยายามหาเวลาว่างมาออกกำลังกาย เพื่อเป็นการเรียกเหงื่อรวมทั้งยังได้คลายเครียดไปในตัวด้วยค่ะ หมิงว่าการตีสควอชเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยลดความเครียดได้มากนะคะ และนอกจากเล่นคนเดียวได้แล้ว เวลาหงุดหงิด อารมณ์เสีย เหมือนมันเป็นที่ระบายอารมณ์ได้อย่างดี ชนิดที่ไม่มีใครต้องเจ็บตัวเจ็บใจ มีแต่กำแพงเท่านั้นหวดมันเข้าไป และแน่นอนเลยคะ การตีสควอชได้สมาธิที่ดี เพราะการเล่นต้องจับจ้องที่ลูกยางตลอดเวลา ต้องวิ่งไล่ตีให้ได้ทุกครั้งหลังจากที่ลูกยางกระทบผนัง จึงต้องนิ่งถ้ามัวแต่คิดโน่นนี่เพลินไปลูกยางก็อาจจะมากระทบร่างกายหรือโดนหน้าก็ได้ ทุกครั้งที่ตีสมาธิจึงต้องดีมากๆ นิ่งได้เยอะค่ะหลังจากตีสควอชไม่กี่ครั้ง" ว่าที่เภสัชกรเล่าเสียงใส

 พร้อมกับกล่าวต่อว่า ส่วนการออกงานสังคมนั่นจะออกไปกับคุณแม่มากกว่า และเป็นงานการกุศลเสียเป็นส่วนใหญ่ อย่างล่าสุดกับการเดินแบบผ้าไทยจากศูนย์ศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ "แต่งานที่รู้สึกประทับใจที่สุดในชีวิต คือเมื่อปี 2549 ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ครั้งนั้นเธอโชคดีมากๆ เพราะได้รับคัดเลือกให้ไปช่วยต้อนรับพระราชอาคันตุกะจากนานาประเทศที่มาร่วมงาน ตอนนั้นรับหน้าที่ดูแลพระราชอาคันตุกะจากราชอาณาจักรตองกาและราชอาณาจักรสวีเดน ซึ่งทุกพระองค์ทรงให้ความเป็นกันเองอย่างมาก งานครั้งนั้นจึงถือเป็นความทรงจำที่ดีและเป็นงานที่ประทับใจที่สุดในชีวิตเลย" สาวหมิง กล่าวด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ 

 คุยกันได้เพียงเท่านั้นเธอจึงขอตัวไปออกกำลังและจัดการกับเจ้าลูกยางด้วยแร็กเก็ตประจำตัว ว่าแล้วเสียงหวดลูกยางกระทบผนังห้องก็ดังออกมาเป็นระยะ แต่ไม่ได้หวดรุนแรงเพราะวันนั้นเธอต้องเข้าไปเล่นคนเดียว ถ้าหวดลูกแรงเกินไปก็เหนื่อยเร็วกว่าปกติ แต่ลีลาท่าทางบอกให้รู้ได้ว่า "ไม่ธรรมดา" มองเธอเล่นสควอชเพลินๆ เผลอแป๊บเดียวเกือบ 30 นาที

 เธอก็เดินออกมาพร้อมใบหน้าที่แดงก่ำและชุ่มเหงื่อ ก็แหมผู้หญิงตัวบางร่างเล็ก แต่หวดสควอชได้เกือบครึ่งชั่วโมงได้ก็สุดยอดแล้ว ระหว่างที่เธอพักเหนื่อยก็เล่าให้ฟังว่า เริ่มเล่นสควอชเมื่อประมาณ 4 ปีที่ผ่านมา โดยการชักชวนของพี่สาว (สุภมาศ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา) ด้วยวัยที่ใกล้เคียงกันทำให้สนิทกันราวกับเพื่อนซี้ ไปไหนมาไหนและทำอะไรด้วยกันตลอด ไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่องของการเล่นกีฬา ที่มักจะนัดแนะหาเวลาว่างไปด้วยกันเสมอ แต่ตอนนี้พี่สาวไปเรียนต่างประเทศ เธอจึงมาออกกำลังกายคนเดียวบ้างเมื่อมีโอกาส

 "ปกติหมิงจะมาเล่นกับพี่สาว มีอยู่ครั้งหนึ่งไม่รู้หมิงกับพี่สาวนึกสนุกอะไรกันขึ้นมา ลองตีแบบปิดไฟกันค่ะ ครั้งนั้นต้องวิ่งวุ่นหาลูกกันยกใหญ่และยังวิ่งชนกันด้วย แต่มันก็สนุกไปอีกแบบ ก็แปลกๆ ดีค่ะ แต่พักหลังมานี้พี่สาวไปเรียนต่อที่อังกฤษแล้ว หมิงเลยต้องมาคนเดียวเป็นส่วนใหญ่ ตีประมาณครึ่งชั่วโมงก็เหนื่อยแล้วค่ะ หรือบางครั้งก็จะชวนเพื่อนที่มหาวิทยาลัยมาเล่นด้วยกันบ้าง แต่ก็ไม่บ่อยนัก อย่างตอนที่พี่สาวของหมิงกลับมาเยี่ยมบ้านเมื่อช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา หมิงกับพี่สาวก็มีโอกาสได้ไปตีด้วยกัน พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทีไรทำให้หมิงคิดถึงพี่สาวขึ้นมาทุกครั้งเลยค่ะ" สาวหมิงกล่าวปิดท้าย 

เรื่อง... "วันวิสา โรจน์แสงรัตน์"
ภาพ... "ศุภกฤต คุ้มกัน"