ไลฟ์สไตล์

"ชัยวุฒิ" ยันไม่รื้อแอดมิชชั่นส์ปี 53

"ชัยวุฒิ" ยันไม่รื้อแอดมิชชั่นส์ปี 53

10 มี.ค. 2552

นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) กล่าวถึงการทดสอบความถนัดทั่วไปหรือจีเอที และทดสอบความถนัดทางวิชาการและวิชาชีพ หรือพีเอที เพื่อนำไปใช้ในระบบแอดมิชชั่นส์ในปีการศึกษา 2553 ในวันที่ 7-15 มีนาคม

จัดโดยสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ว่า  การจัดสอบจีเอที, พีเอทีใน 2 วันนี้ไม่มีทุจริต แต่มีครูในสถาบันกวดวิชาเข้าสอบจีเอที, พีเอที  เพื่อดูแนวทางข้อสอบ รวมทั้งผู้ปกครองมาสอบเพื่อนำไปบอกลูกหลาน
 "ไม่อยากให้ผู้ปกครอง หรือสถาบันกวดวิชาลงทุนมาสอบจีเอที, พีเอที เพื่อนำแนวข้อสอบไปบอกต่อ เพราะเสียเงินเปล่า เมื่อสอบเสร็จ สทศ.จะเปิดเผยข้อสอบทุกวิชาผ่านเว็บไซต์ www.niets.or.th  ส่วนการกำหนดช่วงอายุผู้สอบจีเอที, พีเอที  เพื่อป้องกันไม่ให้สถาบันกวดวิชานำไปเปิดติว คงไม่สามารถทำได้เพราะจำกัดสิทธิ์“ นายชัยวุฒิ กล่าว
 รมช.ศธ. กล่าวอีกว่า ส่วนการทบทวนจำนวนครั้งสอบจีเอที, พีเอทีว่า ควรลดเหลือ 2 ครั้ง หรือยังคงเดิม 3 ครั้ง  สทศ. และผู้เกี่ยวข้อง กำลังพิจารณาข้อดีข้อเสีย ทั้งนี้ ได้เสนอว่าถ้าสอบ 2 ครั้งจะพอหรือไม่ คาดว่าได้ข้อสรุปร่วมเร็วๆ นี้ ส่วนแบบทดสอบความถนัดทางวิทยาศาสตร์ (PAT2) ที่มีวิชาฟิสิกส์  เคมี  ชีววิทยา ให้น้ำหนักวิชาฟิสิกส์น้อยไป คือ 28 ข้อ เคมี 32 ข้อ ชีววิทยา 40 ข้อ เป็นหน้าที่ของที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) กำหนดสัดส่วน ทั้งนี้ ในการประชุมคณะทำงานแอดมิชชั่นส์ฟอรั่ม ในวันที่ 13 มีนาคมนี้ ยังไม่ได้รับเชิญจาก ทปอ. หาก ทปอ. เชิญก็ยินดีเข้าร่วม จะเสนอให้ปรับปรุงระบบให้มีคุณภาพและเอื้อประโยชน์แก่นักเรียน และมหาวิทยาลัยมากที่สุด แต่คงไม่ปรับใหม่ทั้งระบบ เพราะแอดมิชชั่นส์ช่วยลดภาระผู้ปกครองและนักเรียนไม่ต้องวิ่งรอกสอบ
 “คณะทำงานฯ ทปอ. และผู้เกี่ยวข้อง ต้องกำหนดสัดส่วนให้ชัดเจนและคำนึงถึงประโยชน์ 2 ประเด็นหลักคือ  1.ระบบต้องคัดเลือกเด็กมีคุณภาพ เหมาะสมที่จะเรียนสาขาวิชานั้นๆ และ 2.ระบบต้องเอื้ออำนวยความสะดวกให้นักเรียน ไม่ต้องวิ่งรอกสอบ หากผมได้เข้าร่วมประชุมด้วย จะเสนอนโยบายหลักการคงไม่กำหนดสัดส่วนแอดมิชชั่นส์” รมช.ศธ.กล่าว