ไลฟ์สไตล์

หลอกถามข้อมูลธนาคาร

หลอกถามข้อมูลธนาคาร

11 ม.ค. 2553

มีระบบอัตโนมัติจากธนาคารกสิกรไทย เมื่อประมาณเที่ยงวันที่ 14 ธันวาคม 2552 แจ้งว่า ผมใช้บัตรเครดิตที่เซ็นทรัลลาดพร้าว ยอด 3,600 บาท ถ้าต้องการติดต่อเจ้าหน้าที่ให้กด 9 ผมก็กดไป เจ้าหน้าที่ถามชื่อและนามสกุล พร้อม วัน เดือน ปีเกิด

โดยให้เหตุผลว่า สงสัยเป็นพวกมิจฉาชีพแอบนำไปใช้ ทางธนาคารจะส่งเรื่องให้ตำรวจ โดยที่ผมยังไม่ต้องทำอะไร
 ผ่านไป 10 นาที มีตำรวจชื่อ ร.ต.ท.วันชัย โทรมาแจ้งว่า ได้รับแจ้งจากธนาคารกสิกรไทย จึงขอสอบปากคำ และขออนุญาตบันทึกเสียง ผมก็ให้ข้อมูลไปว่า ตอนที่มีการใช้บัตรผมทำอะไร อยู่ที่ไหน แต่ผมเริ่มเอะใจ ตรงที่ตำรวจถามว่า มีบัญชีธนาคารอื่นอีกหรือไม่ ใช้บัตรเครดิตกี่ใบ เนื่องจากข้อมูลทุกธนาคารใช้ฐานข้อมูลร่วมกัน และจะอายัดบัญชีอื่นๆ ให้ผมด้วย เพื่อไม่ให้มิจฉาชีพแอบอ้างไปเปิดบัญชีอื่นได้อีก
 จากนั้น ก็สอบถามอาชีพผม แต่ละธนาคารมีเงินเท่าไร ผมจำไม่ได้ เขาบอกขอแค่คร่าวๆ เพื่อทำรายการได้ถูกบัญชี และกำชับว่า อย่าเพิ่งบอกใคร เพราะกำลังตามสืบพฤติกรรมเจ้าหน้าที่ธนาคารที่ต้องสงสัยอยู่ แล้วตำรวจ(ปลอม) ก็แจ้งว่า จะให้สารวัตรโทรมาอีกครั้ง เพื่อยืนยันและลงนามในเอกสารทำเรื่องตรวจสอบ
 พอ 4 โมงเย็น มีโทรศัพท์แบบไม่โชว์เบอร์ แจ้งชื่อ พันตำรวจโท ปฏิภาคย์ ก้อนนาค แจ้งว่า ได้คุยกับ ร.ต.ท.วันชัยแล้ว ระบบของธนาคารทุกแห่งเชื่อมต่อถึงกันหมด ดังนั้น ตำรวจจะช่วยล้างข้อมูลของผมที่มิจฉาชีพได้ไป แล้วก็ถามว่า ตอนนี้ผมอยู่ที่ไหน ให้รีบไปที่ตู้เอทีเอ็มที่ใกล้ที่สุด แล้วกดตามที่บอก เพราะจะเอาระบบ G32 ของตำรวจเชื่อมต่อเข้ากับระบบธนาคาร ให้ผมกดเลข 10 หลักตามที่บอก ผมแกล้งบอกว่า หาตู้เอทีเอ็มไม่ได้ ขอเบอร์โทรกลับ เขาวางสายไป
 ผมรู้สึกผิดสังเกตมาก จึงโทรกลับไปที่ธนาคารกสิกรไทย เจ้าหน้าที่ธนาคารกสิกรไทย แจ้งว่า ธนาคารไม่มีระบบอัตโนมัติโทรออก แต่ถ้าจะโทรออกจะใช้หมายเลข 9 หลัก ในกรณีที่ธนาคารเป็นผู้ติดต่อไปหาลูกค้า จะไม่สอบถามข้อมูลลูกค้าทางโทรศัพท์ เมื่อผมบอกว่า ยังไม่ได้บอกเลขที่บัญชี หมายเลขบัตรเครดิต หรือรหัสใดๆ ไป เจ้าหน้าที่บอกว่า ปลอดภัย และตรวจสอบยอดใช้จ่ายที่กลุ่มมิจฉาชีพกล่าวอ้าง ปรากฏว่า ไม่มี เจ้าหน้าที่ธนาคารบอกด้วยว่า ถ้ามีรายการใช้จ่ายที่เจ้าของบัตรไม่ได้ใช้ เจ้าของบัตรจะต้องเป็นผู้ไปแจ้งความ แล้วธนาคารจะดำเนินเรื่องต่อให้
 ผ่านไปประมาณ 40 นาที สารวัตรปลอมก็โทรมาอีก ผมตัดบทไปว่า ผมไม่แน่ใจ เพราะข้อมูลที่ตำรวจกับธนาคารให้ ไม่ตรงกัน เขายังบอกว่า ตอนนี้กล้องจับภาพของคนร้ายที่มาแอบใชับัตรผมไว้ได้ คิดว่า เป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร ผมบอกจะจัดการกับบัญชีของผมเอง ผมรับผิดชอบเองได้ ผมขอเบอร์โทรกลับไว้ เขาให้เบอร์ 0-2272-3000 เป็นไปตามคาด เมื่อผมลองโทรกลับไป ไม่มีคนรับจริงๆ ด้วย
 ข้อสังเกตที่ทำให้ผมเกือบเชื่อว่า เป็นตำรวจจริงคือ เขาพูดแบบไม่ค่อยให้เกียรติประชาชน พูดไม่มีหางเสียง แต่ที่ผิดสังเกตมาก คือ ตำรวจปลอมคนนี้ดูจะใส่ใจในทุกข์สุขของประชาชนเกินกว่าเหตุ คุยกับผม 3 รอบ น่าจะประมาณ 45 นาที ซึ่งถ้าเป็นตำรวจจริงคงไม่ทำถึงขนาดนี้
 อยากเตือนว่า อย่าบอก วัน เดือน ปีเกิด เลขที่บัตรประชาชน เลขที่บัญชีธนาคาร เลขที่บัตรเครดิต และตัวเลขอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตเราให้กับคนอื่นที่โทรมา เพราะเราไม่รู้แน่ว่า เขาเป็นใคร เป็นคนดีหรือคนร้ายกันแน่
วินัย
 เมื่อ 26 ธันวาคม 2552 พิมก็เจอเหมือนกัน บอกว่า โทรมาจากธนาคารกสิกรไทย เป็นสายอัตโนมัติ มียอดใช้บัตรเครดิตอยู่ 3 หมื่นกว่าบาท ติดต่อเจ้าหน้าที่กด 9
 ด้วยความที่อยากรู้ พิมก็กด 9 แต่เป็นสัญญาณไม่ว่าง พิมงงมาก เพราะพิมไม่เคยมีบัตรเครดิตเลย
พิม
ตอบ
 ธนาคารกสิกรไทย สำนักงานใหญ่ ชี้แจงว่า ธนาคารไม่มีนโยบายใช้โทรศัพท์อัตโนมัติติดต่อกับลูกค้า หรือให้พนักงานธนาคารโทรไปสอบถามข้อมูลของลูกค้า ถ้าได้รับโทรศัพท์ที่ป้อนคำถามเพื่อให้ตอบ หรือพูดชักชวนชักนำต่างๆ นานาในลักษณะนี้ ให้ตั้งข้อสังเกตไว้ก่อนว่า น่าจะเป็นกลุ่มมิจฉาชีพที่ต้องการล้วงข้อมูลของลูกค้าไปใช้ในทางไม่ดี
 ห้ามบอกข้อมูลส่วนตัวทุกเรื่อง กับคนที่โทรมาโดยเด็ดขาด
 ธนาคารกสิกรไทย แจ้งเตือนลูกค้า ผ่านทุกสื่อ ทั้งโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และวิทยุ และทุกช่องทางที่ธนาคารจะทำได้ เพื่อให้ระวังแก๊งมิจฉาชีพที่หลอกสอบถามข้อมูลทางโทรศัพท์สารพัดรูปแบบ รวมทั้งประสานกับตำรวจ เพื่อหาทางหยุดการหลอกลวงลักษณะนี้ด้วย
ลุงแจ่ม