
อู่ทอง 9พันธุ์ใหม่เพื่อชาวไร่อ้อยให้ผลผลิตสูง-ต้านโรค-ศัตรูพืช
อ้อย เป็นพืชอุตสาหกรรมสำคัญของไทย โดยเฉพาะใช้เป็นวัตถุดิบผลิตน้ำตาลซึ่งทำรายได้เข้าประเทศปีละหลายหมื่นล้านบาท แต่ที่ผ่านมาผลผลิตอ้อยของเกษตรกรยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ เฉลี่ย 11-12 ตัน/ไร่ เนื่องจากมีการใช้พันธุ์อ้อยแต่ละพันธุ์ค่อนข้างนาน
ขณะเดียวกันก็ประสบปัญหาเรื่องโรคแมลงศัตรูพืช ทั้งขาดแคลนพันธุ์ที่เหมาะสมในแต่ละท้องถิ่น และขาดการจัดการไร่อ้อยที่ดี ตลอดจนมีปัญหาสภาพดินน้ำแต่ละแหล่งปลูกแตกต่างกัน
นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมวิชาการเกษตร แจงว่า กรมจึงได้วิจัยและพัฒนาพันธุ์อ้อยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้พันธุ์ที่เหมาะสมในแต่ละแหล่งปลูก เพิ่มทางเลือกให้แก่เกษตรกร เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้สูงขึ้น โดยมีพันธุ์อ้อยที่เป็นที่นิยมของเกษตรกรหลายพันธุ์ อาทิ อ้อยพันธุ์อู่ทอง 3 และ อู่ทอง 5 ซึ่งมีพื้นที่ปลูกรวมปีละ 2-3 แสนไร่ ปัจจุบันกรมได้ปรับปรุงพัฒนาพันธุ์อ้อยประสบความสำเร็จอีกหนึ่งพันธุ์ คือพันธุ์ “อู่ทอง 9”
อ้อยพันธุ์อู่ทอง 9 นี้ เป็นลูกผสมระหว่าง พันธุ์แม่ 94-2-128 กับ พันธุ์พ่อ 94-2-270 โดยนักวิจัยของ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรสุพรรณบุรี ได้เริ่มปรับปรุงพัฒนาสายพันธุ์มาตั้งแต่ปี 2542 มีอ้อย พันธุ์ K84-200 และ อู่ทอง 3 เป็นพันธุ์เปรียบเทียบ ช่วงปี 2547-2549 ได้ปลูกทดสอบพันธุ์ในไร่เกษตรกร อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี, อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี, อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และอ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร พบว่า เกษตรกรพอใจในอ้อยพันธุ์อู่ทอง 9 เนื่องจากให้ผลผลิตต่อไร่และผลผลิตน้ำตาลสูงกว่าพันธุ์เปรียบเทียบ
ด้าน อุดม เลียบวัน นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรสุพรรณบุรี หัวหน้าทีมนักวิจัยและพัฒนาพันธุ์อ้อยอู่ทอง 9 กล่าวว่า อ้อยพันธุ์นี้มีลักษณะเด่นที่ให้ผลผลิตน้ำหนักสูง เฉลี่ย 17.50 ตัน/ไร่ ซึ่งสูงกว่าพันธุ์ K84-200 ที่ให้ผลผลิต 11.19 ตัน/ และยังสูงกว่าพันธุ์อู่ทอง 3 ที่ให้ผลผลิตเฉลี่ย 14.25 ตัน/ไร่ นอกจากนั้นอ้อยอู่ทอง 9 ยังให้ผลผลิตน้ำตาลเฉลี่ยถึง 2.45 ตันซีซีเอส/ไร่ สูงกว่าพันธุ์ K84-200 ที่ให้ผลผลิตน้ำตาล 1.56 ตันซีซีเอส/ไร่ และสูงกว่าพันธุ์อู่ทอง 3 ที่ให้ผลผลิตน้ำตาล 2.04 ตันซีซีเอส/ไร่ ที่สำคัญ อ้อยอู่ทอง 9 ยังต้านทานโรคเหี่ยวเน่าแดงดีกว่าพันธุ์อู่ทอง 3 ด้วย
เมื่อโตเต็มที่อ้อยอู่ทอง 9 มีความสูงเฉลี่ย 226 เซนติเมตร ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางลำ 2.76 เซนติเมตร ได้จำนวนลำเฉลี่ย 11,762 ลำ/ไร่ จำนวนปล้องเฉลี่ย 21 ปล้อง/ลำ มีอายุเก็บเกี่ยวประมาณ 11-12 เดือน และมีความหวาน 14 ซีซีเอส ขณะที่พันธุ์ K84-200 มีจำนวนลำเฉลี่ย 8,663 ลำ/ไร่ และพันธุ์อู่ทอง 3 มีจำนวนลำเฉลี่ย 9,034 ลำ/ไร่
ล่าสุด กรมวิชาการเกษตรได้ประกาศให้พันธุ์อ้อยอู่ทอง 9 (U-Thong 9) เป็น พันธุ์รับรอง แล้ว สำหรับพื้นที่แนะนำที่มีความเหมาะจะปลูกนั้น ควรเป็นพื้นที่ในเขตชลประทาน อาทิ จ.สุพรรณบุรี กาญจนบุรี เพชรบุรี และกำแพงเพชร อีกทั้งยังมี ข้อควรระวัง คือ เกษตรกรควรลอกกาบอ้อยออกก่อนปลูก เพราะอ้อยพันธุ์นี้มีกาบแน่น ยอดอ้อยจะงอกผ่านกาบใบยาก ซึ่งถ้าไม่ลอกกาบก่อนปลูกจะทำให้งอกช้า
ขณะนี้ศูนย์วิจัยได้เร่งขยายพันธุ์อ้อยอู่ทอง 9 เพื่อเพิ่มปริมาณท่อนพันธุ์เตรียมพร้อมรองรับความต้องการของเกษตรกรชาวไร่อ้อยทั่วประเทศ ซึ่งในลอตแรกนี้คาดจะผลิตได้ไม่น้อยกว่า 2.2 หมื่นลำ ขณะเดียวกันยังส่งเสริมให้มีการสร้างเครือข่ายเกษตรกรผู้ผลิตท่อนพันธุ์อ้อยอู่ทอง 9 ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และกำแพงเพชร ประมาณ 40-50 ไร่ ซึ่งคาดจะช่วยเพิ่มจำนวนท่อนพันธุ์อ้อยพันธุ์ดังกล่าวได้ทันตามความต้องการของเกษตรกร
อย่างไรก็ตาม หากเกษตรกรสนใจข้อมูลเกี่ยวกับอ้อยพันธุ์ “อู่ทอง 9” สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรสุพรรณบุรี โทร.0-3555-1433