
เปิดกุฏิหลวงปู่เจือเกจิดังพบเงินสดกว่า7ล้าน
เปิดกุฎิหลวงปู่เจือ เกจิชื่อดังลุ่มแม่น้ำท่าจีนเมืองนครปฐม พบเงินสดซุกห้องมากกว่า 7 ล้านบาท ไม่รวมพระเครื่องเหรียญเก่าหลวงปู่บุญอีกมูลค่านับล้าน ส่วนเบี้ยแก้ยังเหลือเก็บไว้อีกกว่า 6,000 ตัว
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้( 4 ม.ค.53 ) ที่วัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม พระครูสถิต บุญเขต เจ้าอาวาสวัดกลางบางแก้ว พร้อมด้วยเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม เจ้าคณะอำเภอนครชัยศรี เจ้าคณะตำบล พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุนทรลาภ ผกก.สภ.นครชัยศรี คณะกรรมการวัดฯ และเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทย สาขานครชัยศรี ได้เปิดกุฎิหลวงปู่เจือเป็นครั้งแรก หลังจากมรณภาพ เพื่อเข้าตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินในกุฏิ โดยเจ้าอาวาสและคณะกรรมการได้ให้เจ้าหน้าที่เปิดล็อคกุญแจและงัดไม้ที่ตอกปิดประตูหน้าต่างอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันคนร้ายเข้าไปขโมยทรัพย์สินของหลวงปู่
ท่ามกลางความสนใจของศิษย์ยานุศิษย์ และผู้นิยมพระเครื่อง โดยเฉพาะผู้ที่อ้างว่ามีวัตถุมงคลอีกจำนวนมาก ที่ฝากไว้กับหลวงปู่เจือเพื่อทำพิธีปลุกเสกและฝากไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งเจ้าหน้าที่ให้ทั้งหมดรออยู่ด้านในกุฎิเพื่อตรวจสอบทรัพย์สินนานกว่า 4 ชั่วโมง โดยไม่ยอมให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปบันทึกภาพแต่อย่างใด ก่อนจะนำเงินสดใส่กระเป๋าให้เจ้าหน้าที่ธนาคาร นำขึ้นรถสายตรวจ สภ.นครชัยศรี นำไปเข้าธนาคารเป็นจำนวนเงิน 7 ล้านบาทเศษ
พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุนทรลาภ ผกก.สภ.นครชัยศรี หนึ่งในคณะกรรมการ กล่าวว่า ในวันนี้ได้มีการเปิดกุฎิของหลวงปู่เจือซึ่งตรวจสอบภายในห้องพบว่า หลวงปู่ มีการเก็บเงินไว้หลายแห่งภายในห้อง เมื่อนำออกมานับรวมกันแล้วพบว่ามีเงินเหลืออยู่ที่เก็บไว้ในกุฏิทั้งหมดจำนวน 7,243,470 บาท และยังมีพระเครื่องสมัยหลวงปู่บุญ หลวงปู่เพิ่ม และ วัตถุมงคลอีกมากมาย รวมทั้งเบี้ยแก้อีกประมาณ 6,000 ตัว ทรัพย์สินทั้งหมดจะตกทอดเป็นทรัพย์สินของวัด ในส่วนวัตถุมงคลที่มีชื่อผู้ฝากไว้กับหลวงปู่ หากต้องการจะรับคืน ก็ต้องมีการนำหลักฐานมาแสดงต่อคณะกรรมการ ซึ่งถ้าไม่มีหลักฐานมายืนยันก็จะตกเป็นของวัดอีกเช่นกัน
นายศักดิ์ดา ตะโกพ่วง อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/1 ม. 1 ต.ศีรษะทอง อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม มีศักดิ์เป็นหลาน และเป็นคนใกล้ชิดที่คอยรับใช้หลวงปู่เจือ บอกว่า วัตถุมงคลของหลวงปู่เจือ ที่สร้างมีเพียงเบี้ยแก้ เพียงอย่างเดียว ส่วนอื่นๆเป็นของลูกศิษย์ และคนสนิทมาขออนุญาตสร้างทั้งนั้น
โดยแต่ละรุ่นที่สร้างจะมีหลวงปู่เจือเป็นเจ้าพิธี ซึ่งผู้ที่สร้างพระเครื่องส่วนหนึ่งก็จะฝากจำหน่ายไว้ที่กุฏิหลวงปู่ฯ และบางราย จะมีวัตถุมงคลฝากหลวงปู่ฯเพื่อปลุกเสก ที่ตนจำได้ชัดเจนว่า มีฝากไว้กับหลวงปู่ ก็จะมีของ นายวิศลย์ หรือ เสี่ย 7 ฉัตรเรืองชัย ที่สร้างท้าวเวสสุวรรณ รุ่นเจริญโชควัฒนา สร้างไว้กว่าหมื่นองค์ และนำมาให้หลวงปู่ทำพิธีและจานอักขระ ครั้งละ1,000 องค์ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในกุฎิหลวงปู่อีกจำนวน 1,150 องค์
นอกจากนี้ยังมีปลัดขลิกอีกประมาณ 900 ตัว ซึ่งพอหลวงปู่ทำพิธีเสร็จ ก็จะบอกให้ตนติดต่อเสี่ย 7 ให้มารับของเก่ากลับ และนำของใหม่มาทำพิธีต่อ ส่วนปัจจุบันนี้ ที่มีการสร้างอยู่ก็จะมีเบี้ยแก้บรรจุเกศาหลวงปู่ รุ่นมหาเฮง 9 วาระ หรือ สมเด็จที่ผสมโลหิตหลวงปู่ ซึ่งเป็นรุ่นสุดท้ายก่อนหลวงปู่มรณภาพ
นายฉัตรพิบูลย์ เทพประสิทธิ์ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46/69-70 ซอยนวลจันทร์ 31 ถนนนวลจันทร์ แขวงบึงกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม.ลูกศิษย์คนสนิทของหลวงปู่เจือ บอกว่า ตนเป็นลูกศิษย์หลวงปู่มากว่า 10 ปี ติดตามหลวงปู่มาตลอด แต่ระยะหลัง ๆ นี้ตนจะไม่ได้มาทุกวัน เพราะต้องดูแลกิจการธุรกิจของตน แต่ก็มาทุกเดือน
"ช่วงที่ตนเข้านอกออกในกุฏิหลวงปู่ทุกวันนั้น เป็นช่วงที่ถือว่าดีมาก การสร้างวัตถุมงคลแต่ระรุ่น ก็จะเป็นการสร้างสำหรับแจก แต่พอมาระยะหลัง ๆ ก็จะเป็นพุทธพาณิชย์เสียมากกว่า"นายฉัตรพิบูลย์ กล่าวและว่า
ตอนเข้ามาหาหลวงปู่ก็บอกว่าจะสร้างเอาไว้เพื่อแจก แต่พอสร้างเสร็จทำพิธีเสร็จนำกลับไป เหลือไว้ให้หลวงปู่แจกเพียงเล็กๆน้อยๆเท่านั้น แล้วบางรายที่มาขอสร้างก็เพื่อไว้จำหน่าย พอได้เงินแล้วค่อยกลับมาทำบุญกับหลวงปู่ ก็ทำบุญนิดหน่อยเท่านั้น ส่วนใหญ่ที่สร้างไว้แจกนั้นจะมีไม่กี่คนแต่ที่สร้างแล้วนำมาให้หลวงปู่ปลุกเสก นั้นมีมากกว่า 500 รุ่นเสียอีก
นายฉัตรพิบูลย์ บอกต่ออีกว่า วัตถุมงคลที่หลวงปู่สร้างมีเพียงอย่างเดียวก็คือเบี้ยแก้ ส่วนเหรียญที่หลวงปู่สร้างนั้นคือเหรียญหลวงปู่เพิ่ม ที่สร้างขึ้นในปี 2524 ข้างหลัง ลงยันต์นะโมพุธธายะ ซึ่งหลวงปู่สร้างขึ้นเอง เพื่อนำไปแจกในพิธีงานฌาปณกิจศพของคุณแม่หลวงปู่เอง โดยสร้างเพียง 6,000 องค์ เป็นเนื้อกระหลั่ยทอง 2,000 องค์ และกระหลั่ยไฟ อีก 4,000 องค์ ส่วนเหรียญรูปหลวงปู่เจือรุ่นแรก เป็นพิมพ์เสมาเล็กที่สร้างขึ้นในปี 2534 นั้น เป็นเหรียญรุ่นแรกที่ลูกศิษย์สร้างขึ้นมา มีเนื้อเงิน 99 องค์ ,เหรียญทองคำ 13 องค์ ,กระหลั่ยทอง 999 องค์ , ทองแดง 999 องค์ และเนื้อผงอีกประมาณ 999 องค์ เท่านั้น
นายวิศลย์ หรือเสี่ยเจ็ด ฉัตรเรืองชัย บอกว่า ที่ตนเดินทางมาในวันนี้ก็เพื่อมาดูว่าวัตถุมงคลที่ตนสร้างไว้และฝากหลวงปู่ปลุกเสกและจานอักขระนั้นยังอยู่หรือไม่ เพราะไม่ทราบว่าพอหลวงปู่มรณภาพแล้ว จะมีการจัดการอย่างไรบ้าง พอได้รับการติดต่อว่าวันนี้จะมีการเปิดกุฎิหลวงปู่ ตนก็รีบมาทันที อยากมาดูว่าของ ๆ ตนนั้นยังอยู่หรือไม่