เปลี่ยนเมนูประจำวันเป็นงานศิลปะ

          บริษัท คราฟท์ ไฮนซ์ ประเทศไทย ผู้ผลิตซอสหอยนางรม ไฮนซ์ นำโดย กาเบรียล เมโล ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายบริหารการตลาด ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จับมือกับ “เชฟตาม” ชุดารี เทพาคำ ผู้ชนะคนแรกจากรายการ ท็อป เชฟ ไทยแลนด์ เชิญชวนผู้บริโภคจำนวน 15 คนร่วมเวิร์กช็อปการทำอาหารสุดพิเศษ สร้างสรรค์โดยซอสหอยนางรมไฮนซ์และเซเลบริตี้เชฟชื่อดัง ภายใต้ธีม ‘Transform Everyday Dish to Masterpiece’

บรรยากาศการเวิร์กช็อป

          กาเบรียล กล่าวว่า บริษัท คราฟท์ ไฮนซ์ ประเทศไทย มีความมุ่งมั่นในการสรรหาผลิตภัณฑ์คุณภาพเยี่ยมให้แก่ลูกค้าเพื่อเพิ่มความพึงพอใจให้แก่ประสบการณ์การทำอาหาร ซอสหอยนางรมไฮนซ์ ผลิตจากหอยนางรมแท้คุณภาพดี นับเป็นผลิตภัณฑ์แรกภายใต้แบรนด์ไฮนซ์ที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อลูกค้าชาวไทยโดยเฉพาะ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั้งในกลุ่มเชฟมืออาชีพและผู้ที่รักการทำอาหารมากมาย ในฐานะส่วนประกอบสำคัญในการช่วยเพิ่มรสชาติให้แก่เมนูอาหารต่างๆ เปรียบได้กับอาวุธลับที่ช่วยเปลี่ยนเมนูธรรมดาให้กลายเป็นอาหารระดับมาสเตอร์พีซ

บรรยากาศการเวิร์กช็อป

          “เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดตัวแคมเปญออนไลน์ ‘Artsy Dish Challenge’ ในเฟซบุ๊กเพจของคราฟท์ ไฮนซ์ โดยเชิญชวนให้ลูกค้าร่วมกิจกรรมประกอบอาหารพร้อมตกแต่งให้สวยงามโดยใช้ซอสหอยนางรมไฮนซ์ หลังจากทีมงานคัดเลือกโดยตัดสินจากการสร้างสรรค์ผลงานและคำบรรยายถึงแรงบันดาลใจ มีผู้ชนะกิจกรรมนี้จำนวนทั้งสิ้น 15 คน ได้รับเชิญให้เข้าร่วมกิจกรรมเวิร์กช็อปสุดพิเศษ โดย เชฟตาม ชุดารี” กาเบรียลกล่าว

“เชฟตาม” ชุดารี เทพาคำ โชว์เมนูคะน้าน้ำมันหอย

          ด้าน "เชฟตาม” ชุดารี กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับเชิญมาร่วมกิจกรรมที่สนุกสนานและเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ เป็นครั้งแรกที่ได้นำซอสหอยนางรมไฮนซ์มาประกอบการตกแต่งอาหารสไตล์สร้างสรรค์ ซอสหอยนางรมไฮนซ์คือตัวช่วยที่เพอร์เฟกต์สำหรับคนที่รักการทำอาหารและถูกปากสำหรับคนไทยแน่นอน นอกจากจะช่วยให้อาหารมีรสอร่อยขึ้นแล้ว เนื้อสัมผัสของซอสยังสามารถใช้ในการตกแต่งอาหาร เปลี่ยนให้เมนูประจำวันกลายเป็นเมนูระดับมาสเตอร์พีซได้อีกด้วย

          สำหรับกิจกรรมเวิร์กช็อปเริ่มต้นด้วยความตื่นเต้น เมื่อเชฟตามกล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมพร้อมโชว์ฝีมือการทำอาหารและการตกแต่งเมนูซิกเนเจอร์ทั้ง 3 จาน ประกอบด้วย คะน้าน้ำมันหอย กะเพราทะเลเดือด และไก่ผัดเม็ดมะม่วง จากนั้นผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้ง 15 คน แบ่งเป็น 3 กลุ่ม โดยเชฟตามจะเลือกเมนูให้แต่ละกลุ่ม ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการเปลี่ยนเมนูธรรมดาโดยใช้ศิลปะ ซึ่งเชฟตามจะเป็นคนให้คะแนนแต่ละกลุ่มด้วยตัวเองทั้งรสชาติ การตกแต่งอาหาร และแรงบันดาลใจจากผู้เข้าร่วมกิจกรรม โดยผู้ชนะทั้ง 3 จะได้รับการประกาศชื่อพร้อมรับของขวัญสุดพิเศษจากคราฟท์ ไฮนซ์