ไขเคล็ด (ไม่) ลับสู่ประตูการศึกษาดูไบ

 

 

          พูดถึงผู้มีประสบการณ์มากมายในการเรียนและใช้ชีวิตที่ออสเตรเลีย เดินทางต่างประเทศทั้งท่องเที่ยว ทำงาน และเยี่ยมเยียนสถาบันการศึกษาในต่างประเทศอย่างสม่ำเสมอ เชื่อว่าต้องนึกถึง "อาจารย์โอ๋ ดร.วิไลภรณ์  จิรวัฒนเศรษฐ์" อาจารย์ประจำและพิเศษระดับมหาวิทยาลัยในประเทศไทยหลายแห่งมาก นอกจากนี้ยังเป็นผู้บริหารฝ่ายการตลาดต่างประเทศของ "ไทคูนอินเตอร์เนชั่นแนล เอ๊ดดูเคชั่น" บริษัทแนะแนวเรียนต่อต่างประเทศ มีสำหนักงานทั้งกรุงเทพฯและเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย

 

 

          "อาจารย์โอ๋" เล่าว่า จะมาตอบข้อสงสัยของหลายๆ คนเกี่ยวกับการเรียนที่ดูไบ ประเทศสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์เพราะเมื่อพูดถึงดูไบ ประโยคที่อาจารย์โอ๋ได้ยินเสมอคือ ไปทำอะไรคะที่ดูไบ? ดูไบนี่เราไปเรียนภาษาอังกฤษได้เหรอ? เขาพูดภาษาอังกฤษกันเหรอ? ปลอดภัยเหรอ? ไม่ต้องใช่แบงก์สเตทเมนท์จริงๆ เหรอคะ? และอีกหลากหลายคำถามที่ตอบคำถามซ้ำ ๆ  อย่างนี้อยู่ตลอด เนื่องด้วยตัวเองมีโอกาสได้เดินทางไปดูไบ ทั้งการเดินทางเพื่อเปลี่ยนเครื่องบินและกิจกรรม FAM Tour ซึ่งทางโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ ES Dubai จัดขึ้น เพื่อให้บริษัทแนะแนวด้านการศึกษาจากประเทศต่างๆ ได้รู้จักดูไบกันมากขึ้น จึงอยากเล่าประสบการณ์จริงของตัวเอง

 

 

 

          ก่อนอื่นอยากให้ทำความรู้จักเมืองดูไบกันก่อน เพราะในความเป็นจริงคือ ดูไบเป็นเมืองหนึ่งของประเทศอาหรับเอมิเรตส์ และไม่ใช่เมืองหลวงของประเทศ เมืองหลวงของประเทศคือ เมืองอบูดาบี แต่ความสำคัญของดูไบคือ เป็นศูนย์ของเศรษฐกิจของตะวันออกกลาง เป็นเมืองที่มีความเสรีและพหุวัฒนธรรมมาก ๆ ที่สุดในตะวันออกกลาง มีบริษัทอินเตอร์จากหลากหลายประเทศทั่วโลก ขยายธุรกิจของตัวเองและมีออฟฟิศที่เมืองดูไบ

          ดูไบมีประชากรจากทั่วทุกมุมโลกมาอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ทั้งจากอังกฤษ ยุโรปชาติต่างๆ อเมริกา หรือแม้แต่เอเชียด้วยกัน ดังนั้นนอกจากสังคมแบบพหุวัฒนธรรมแล้ว ภาษาอังกฤษจึงเป็นภาษาที่คนในดูไบทั้งประชากรของดูไบเองและชาติต่างๆ ที่อาศัยอยู่ที่นี่ใช้เป็นภาษาหลักในการสื่อสาร ผู้คนมากกว่า 90% พูดภาษาอังกฤษ ส่วนในเรื่องของความปลอดภัยนั้นด้วยหลักของศาสนาและกฎหมายของประเทศ ดูไบเป็นเมืองที่สถิติความปลอดภัยสูงมากอาชญากรรมเป็นศูนย์ และสำหรับผู้หญิงที่กลัวว่าดูไบจะไม่ปลอดภัย อาจารย์โอ๋ขอบอกว่า อย่าได้กังวลค่ะ แม้ว่าจะมีต่างชาติมาอยู่ในเมืองนี้เยอะมาก แต่สังคมและวัฒธรรมหลักของประเทศที่ยึดตามหลักของศาสนาประจำประเทศ รถโดยสารสาธารณะเช่น รถไฟ จะมีโบกี้สำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ สำหรับผู้หญิงที่เคร่งศาสนาหรือต้องการมั่นใจในความปลอดภัย สามารถเลือกขึ้นในโบกี้เฉพาะผู้หญิงได้ ส่วนความปลอดภัยในเรื่องอื่น ๆ เช่น การลักขโมย เป็นประสบการณ์ตรงเลยค่ะที่อาจารย์โอ๋กล้าบอกว่าประเทศนี้ปลอดภัยมากประเทศหนึ่งของโลก เพราะอาจารย์โอ๋เห็นโทรศัพท์เครื่องหนึ่ง ที่มีคนลืมเอาไว้ในพื้นที่สาธารณะ เมื่อสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนเขาบอกว่าที่ไปเที่ยวด้วยกัน เขาก็บอกว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวเจ้าของนึกได้ว่าลืม เดี๋ยวก็กลับมาเอา อุ้ย!!! มีอย่างนี้ด้วย

 

 

 

          การใช้ชีวิตในดูไบก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลย ใครที่คิดว่าจะต้องทำตามธรรมเนียมหรือหลักศาสนาทุกอย่าง ให้เลิกกังวลได้เลยค่ะ เพราะด้วยการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของตะวันออกกลาง ทำให้ดูไบไม่เคร่งครัด เราสามารถแต่งตัวด้วยกระโปรงสั้นได้ ใส่กางเกงขาสั้นได้ แต่อย่าสั้นเกินไป ใส่เสื้อแขนกุดได้ เพียงแต่ไม่ใช่สายเดี่ยวหรือเกาะอก นั่นคือการแต่งตัวโดยทั่วไป แต่เมื่อเราไปทะเล ดูไบมีชายหาดที่อนุญาตให้ใส่ชุดว่ายน้ำทั้งวันพีชและทูพีชได้  

          อาหารการกินที่ดูไบ ก็มีทั้งอาหารแบบอาหรับ อาหารเอเชียทั่วไปและอาหารฝรั่ง หลากหลายสัญชาติให้เลือกรับประทาน ฟาดฟู้ดชื่อดังมีครบทุกร้าน ซูเปอร์มาร์เก็ตที่ดูไบมีสินค้าจากทุกมุมโลกให้เลือกซื้อ แล้วเรื่องการศึกษาล่ะ  นี่ยิ่งเป็นประเด็นที่น่าสนใจว่าทำไมเราควรเลือกที่จะไปเรียนที่ดูไบค่ะ เพราะที่นี่มีทั้งโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษมหาวิทยาลัยชื่อดังทั้งจากอังกฤษ รัสเซีย ออสเตรเลีย ที่มีแคมปัสที่ดูไบ ทั้งที่อยู่ในส่วนของ Knowledge Village และพื้นที่อื่น ๆ ของเมือง

          หลังจากมีโอกาสไปดูการเรียนการสอนหลายสถาบันมาก ที่แรกคือ โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ ES Dubai ซึ่งมีคนไทยที่เป็นอดีตนักเรียนของโรงเรียน ES Dubai ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่การตลาด และดูแลนักเรียนไทยโดยเฉพาะ ข้อดีของการมาเรียนภาษาอังกฤษที่ ES Dubai คือ ทั้งการสมัครเรียนและยื่นวีซ่า ใช้เพียงรูปถ่ายและพาสปอร์ตเท่านั้น แค่นี้จริงๆ ค่ะ ซึ่งต่างจากการขอวีซ่าเพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวที่ดูไบ หรือไปเรียนในประเทศอื่น ๆ มาก ๆ ที่สำคัญคือ แบงก์เสเตทเมนท์ก็ไม่ต้อง  เนื่องจากเมื่อเราขอวีซ่าเพื่อไปเรียน ทางโรงเรียนจะเป็นผู้ดำเนินการเรื่องวีซ่าให้กับเราและการันตีให้เรา จึงทำให้การไปเรียนภาษาอังกฤษที่ดูไบ เป็นเรื่องที่ง่ายมากสำหรับนักเรียนไทย ทำให้น้อง ๆ นักเรียนที่อาจจะมีเงินจำนวนหนึ่งที่พร้อมจะจ่ายค่าเล่าเรียน แต่ขาดเงินที่แสดงในแบงก์สเตทเมนท์หลายๆ แสนหรือหลักล้านหากจะไปเรียนในประเทศอื่นๆ ก็ไม่ต้องตัดโอกาสทางการศึกษาของตัวเองอีกต่อไป เพียงเลือกการสมัครเรียนและยื่นวีซ่าใช้เวลาไม่เกิน 3 สัปดาห์ก็สามารถเดินทางมาเรียนได้ และยังมีโปรโมชั่นที่คุ้มค่ามาก จ่ายค่าเรียนแล้ว ไม่ต้องจ่ายค่าวีซ่า มีพนักงานไปรับที่สนามบิน รวมที่พักในช่วง 2-3 สัปดาห์แรกที่มาถึง

          คำถามอีกข้อที่นักเรียนไทยถามกันเป็นประจำคือ แล้วครูเป็นชาติไหนคะ?  เป็นครูฝรั่งค่ะ ไม่ใช่ครูอาหรับ เป็นครูฝรั่งที่เป็นชาติที่ใช้ภาษาอังกฤษ หรือที่เรียกว่า Native Speaker ตัวจริง เช่น จากอังกฤษ อเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์เป็นต้น

          ข้อแตกต่างที่เป็นข้อดีมาก ๆ  คือสังคมของเพื่อนร่วมชั้น ร่วมโรงเรียน ที่นี่มีคนเอเชียน้อยมากค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียนจากยุโรปและอเมริกาใต้ ที่เขาไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก

          นอกจากนี้ที่ ES Dubai น้อง ๆ ยังสามารถทำงานระหว่างเรียนได้ด้วย  อีกข้อดีของการเรียนภาษาอังกฤษที่ ES Dubai ก็คือ มีคอร์สที่เรียกว่า University Pathway เพื่อเข้าเรียนระดับปริญญาตรีหรือโท ที่มหาวิทยาลัย Middlesex ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังของอังกฤษ ที่มีแคมปัสที่ดูไบด้วย

          พูดถึงการเรียนระดับมหาวิทยาลัย นี่ก็เป็นอีกหนึ่งโอกาสทางการศึกษาดี ๆ ของนักเรียนไทยค่ะ เพราะที่ดูไบมีมหาวิทยาลัยของอังกฤษที่สามารถเรียนทั้งหลักสูตรปริญญาตรี- โท คือ Middlesex University,  Heriot- Watt University ซึ่งเปิดโอกาสให้น้อง ๆ ได้เรียนจบมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงจากอังกฤษ แต่ยื่นสมัครวีซ่าได้ง่ายกว่าการไปเรียนที่อังกฤษ รวมทั้ง Synergy University มหาวิทยาลัยชื่อดังจากมอสโค รัสเซีย  ที่ไม่ต้องยื่นผลสอบ IELTS เพียงทดสอบภาษาอังกฤษด้วยการสอบสัมภาษณ์เท่านั้น

          นอกจากนี้ยังมีสถาบันการสอนด้านการโรงแรมและอาหารที่มาตราฐานโรงแรม 6 ดาวของดูไบ‍ก็คือ Emirates Academy of Hospitality Management สถาบันการศึกษาสุดเลิศในเครือโรงเรม Jumeirah เครือโรงแรมที่ใหญ่มากของดูไบและมีสาขาทั่วโลก และนักเรียนสามารถเลือกฝึกงานในโรงแรมต่าง ๆ ได้ทั่วโลก จากสถิตินักเรียนที่เรียนจบจากที่นี่ได้งานทำในโรงแรมระดับ 5 ดาวขึ้นไป ถึง 90 กว่าเปอร์เซ็นต์

          เชื่อเถอะค่ะว่าถ้าเรามุ่งมั่นที่จะหาโอกาสให้กับตัวเองในการศึกษาในต่างประเทศ โอกาสดี ๆ มีอยู่เอยะมาก ขอเพียงแต่เรามีจุดยืนที่แน่นอนในการมุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพของตัวเอง เลือกประเทศที่เราเลือกได้และพร้อมเปิดประตูให้เราก้าวไปหาโอกาสดี ๆ ไม่ปิดกั้นตัวเอง ไม่เลือกแค่ประเทศที่คนอื่นนิยมกัน แต่กำลังเงินเราไม่ถึงหรือคุณสมบัติของเราไม่ตรงตามสิ่งที่ประเทศเขากำหนด โลกนี้มีโอกาสดีๆ อยู่มากมาย และดูไบคือหนึ่งประตูของโอกาส

          รู้แบบนี้แล้ว น้อง ๆ หรือผู้ปกครองท่านใดอยากปรึกษา อ.โอ๋ และทีมงานไทคูน เรื่องศึกษาต่อต่างประเทศทั่วโลกสามารถติดต่อได้ที่ โทร. 02-1687588 หรือ LINE: @tycoonedu หรือ www.tycooneducation.com