ไทยเตรียมค้างูเหลือม-หลามส่งออก | คมชัดลึก

 นายชวาล ทัฬหิกรณ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรชีวภาพ สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ(สพภ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ประเทศไทยมีศักยภาพเรื่องการเพาะและขยายพันธุ์สัตว์ โดยเฉพาะสัตว์ป่า และสัตว์ต่างประเทศหลายชนิด ซึ่งจากการเก็บข้อมูลเชิงลึกพบว่า   นอกจากสัตว์ป่า และสัตว์ป่าคุ้มครอง 59 ชนิดที่กฏหมายอนุญาตให้เพาะขยาย พันธุ์ขายได้แล้ว ยังมีสัตว์แปลกๆจากต่างประเทศอีกหลายชนิดที่เดิมถูกสั่งซื้อเข้ามา ผู้สั่งซื้อหลายคนมีความสามารถในการเพาะขยายพันธุ์   แต่ยังติดขัดตรงที่กฏหมายไทยยังไม่อนุญาตให้มีการเพาะขยายพันธุ์ รวมถึงส่งขายต่างประเทศได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมติคณะรัฐมนตรี (ครม.)     2534     ที่ห้ามส่งงูเป็นๆออกนอกประเทศ เพราะตอนนั้นกลัวกันว่า ถ้าส่งงูเป็นออกนอกประเทศ จะไม่มีสัตว์ที่คอยกินหนู

 นายชวาล   กล่าวอีกว่า   แม้ว่างูเหลือม และงูหลาม จะอยู่ในชนิดที่สามารถเลี้ยงเพาะขยายพันธุ์ได้ แต่ขณะนี้ทำได้แค่การเอาหนังไปขายเท่านั้น   เพราะไม่สามารถส่งงูเป็น ออกนอกประเทศได้   เพราะติดมติครม.ดังกล่าว ทั้งๆที่ขณะนี้มีหลายคนสามารถเพาะพันธุ์งูหลามลวดลายสวยงาม เป็นที่ต้องตาต้องใจนักเลี้ยงสัตว์แปลกในต่างประเทศ   ทั้งนี้หนังงูเหลือม หรืองูหลาม ขนาด 3 เมตร ราคาผืนละ 7,000-10,000 บาทเท่านั้น ขณะที่งูหลามทองตัวเป็นๆ ขนาดเล็กประมาณ นิ้วโป้ง ที่คนไทยสามารถเพาะออกมาเป็นลายที่แปลกสวยงาม เป็นที่ต้องการของตลาดสัตว์แปลกในต่างประเทศอย่างมาก ราคาตัวละ 7,000 บาท แต่หากเป็นตัวใหญ่ ราคาก็จะสูงตั้งแต่ 30,000-50,000 บาททีเดียว

   “ เรื่องการอนุรักษ์เป็นเรื่องสำคัญในขณะที่เศรษฐกิจก็สำคัญไม่หย่อนไปกว่ากัน แต่หากทำให้ทั้งสองอย่างไปกันได้ก็น่าจะดีที่สุด   ในแต่ละปีนั้นมีพ่อค้าสั่งสัตว์แปลกเข้ามาขายในประเทศไทยปีละไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท แบบที่ถูกกฏหมาย   แต่ยังไม่รวมที่มีปัญหาลักลอบนำเข้ามา และแอบขายไม่รู้อีกจำนวนเท่าไหร่   ขณะที่สัตว์เหล่านี้ คนไทยมีความสามารถเพาะขยาย และพัฒนาสายพันธุ์ให้ดีกว่าพันธุ์ดั้งเดิมได้ดีมาก ” นายชวาล กล่าว

  ผู้สื่อข่าวถามว่าทางสำนักงานฯ จะผลักดันให้แก้มติครม.เ พื่อให้ส่งงูเป็นออกนอกประเทศได้หรือไม่ นายชวาล   กล่าวว่า   อยู่ระหว่างการหารือกับเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช   คิดว่าเรื่องนี้สามารถทำได้ไม่ยุ่งยาก เพราะเป็นเพียงการแก้มติครม.เท่านั้นไม่ใช่การแก้กฏหมาย และปัจจุบันสถานการณ์การระบาดของหนูก็ไม่มากแล้ว

 ด้าน นายวัฒนา เวทยประสิทธิ์   ผู้อำนวยกองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญาไซเตส กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช   กล่าวว่า     กรมอุทยานฯ ได้เตรียมข้อมูลรายละเอียดเรื่องการเสนอทบทวน มติคณะรัฐมนตรีเรื่องการห้ามส่งงูเออกนอกประเทศไว้แล้ว   คาดว่าอีกไม่นานจะเสนอให้กับทส.   ทั้งนี้การขอทบ ทวนมติดังกล่าว เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการให้สามารถนำงูที่ได้จากการเพาะพันธุ์ส่งออกไปขายในต่างประเทศได้ เพราะที่ผ่านมา ประสบปัญหาว่าสามารถเพาะขยายพันธุ์งูสวยงาม ทังพันธุ์ไทย เช่น งูเหลือม งูหลาม ได้ รวมทั้งงูสวยงามที่นำเข้ามาจากต่างประเทศได้แล้ว  แต่ไม่สามารถส่งออกได้ ซึ่งกรมอุทยานฯเป็นห่วงว่าถ้ามีงูทีได้จากการเพาะเลี้ยงจำนวนมากๆโดยเฉพาะงูต่างประเทศ และไม่มีที่ระบาย หาก มีการเล็ดลอดออกสู่ธรรมชาติ จะกระทบต่อระบบนิเวศน์ได้  อย่างไรก็ตาม ถึงจะอนุญาตส่งงูได้ แต่จะให้แค่บางรายการเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับงูเห่า งูจงอาง และอีกหลายชนิดที่อยู่ในบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง