Lifestyle

6ประเทศอาเซียนออกแบบติดตาม NCDs 

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย...  -ชุลีพร อร่ามเนตร [email protected] -

 


          NCDs หรือ Non-communicable diseases เป็นกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง นั่นคือไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคและไม่สามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนได้ อาทิ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคถุงลมโป่งพอง โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง โรคอ้วน ลงพุง และโรคมะเร็ง ซึ่งโรคในกลุ่มดังกล่าวเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศที่มีรายได้ต่ำถึงปานกลาง

 

 

          สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และองค์กรอนามัยโลก พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายในประเทศไทยและอาเซียน ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้บันทึกความเข้าใจในปี 2558 ร่วมมือกันพัฒนาโครงการสร้างเสริมสุขภาพใน 6 ด้านเพื่อจัดการปัญหา NCDs และตอบสนองต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ได้แก่ พัฒนานโยบายควบคุมการบริโภคแอลกอฮอล์ส่งเสริมกิจกรรมทางกายส่งเสริมสุขภาวะในโรงเรียน พัฒนาระบบการบริโภคเกลือ พัฒนาระบบเฝ้าระวังการป้องกันและการควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื้อรังและสาธารณสุขมูลฐานเพื่อการประกันสุขภาพถ้วนหน้า
  

          โครงการพัฒนาระบบเฝ้าระวังเพื่อการต้องการและควบคุมโรคไม่ติดต่อและสร้างเสริมสุขภาพในกลุ่มประเทศอาเซียนได้แก่ กัมพูชา ลาว มาเลเซีย เมียนมาร์ ไทย และเวียดนาม เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้จัดขึ้นเพื่อพัฒนาระบบเฝ้าระวังการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่ครอบคลุมและมีมาตรฐานเทียบเคียงกันได้ในภูมิภาคอาเซียนผ่านการพัฒนาแต่ละภาค นักวิชาการด้านระบบเฝ้าระวังโรคไม่ติดต่อและบุคลากรกระทรวงสาธารณสุข
  

          ณัฐพันธุ์ ศุภกา ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาภาคีสัมพันธ์และวิเทศสัมพันธ์ สสส. กล่าวว่าจากข้อมูลเมื่อปี 2559 พบว่าโรค NCDs เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของคนไทย หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 74 ของสาเหตุการตายทั้งหมด อีกทั้งโรค NCDs เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของโลกโดยเฉพาะ 4 กลุ่มโรคหลัก ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง โรคเบาหวานและโรคปอดเรื้อรัง พบว่ากว่าร้อยละ 85 ของกลุ่มที่เสียชีวิตก่อนวัยอันควรเกิดขึ้นในประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลางซึ่งรวมถึงประเทศในภูมิภาคอาเซียน 6 ประเทศได้แก่กัมพูชาลาว มาเลเซีย เมียนมาร์ ไทย และเวียดนาม
  

 

6ประเทศอาเซียนออกแบบติดตาม NCDs 

ณัฐพันธุ์ ศุภกา

 

          ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการรวมกลุ่มออกแบบระบบกำกับติดตามกลุ่มโรคดังกล่าวให้มีมาตรฐานเทียบเคียงกัน เพื่อประโยชน์ต่อการกำหนดนโยบายระดับชาติ กำหนดวิธีป้องกันดูแลสุขภาพประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพที่ผ่านมาและประเทศในอาเซียนใช้เครื่องมือ WHO-STEPs เก็บข้อมูลสถานการณ์โรค NCDs แต่สำหรับไทยมีความรุดหน้าไปมาก เพราะได้สำรวจสุขภาพประชาชน ทั้งยังจัดตั้งกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพเพื่อติดอาวุธให้คนไทยรู้จักดูแลตัวเองลดการป่วยโรค NCDs ทำให้คนไทยมีชีวิตที่ยืนยาวมากขึ้น
   

 

 

6ประเทศอาเซียนออกแบบติดตาม NCDs 

 


             “ถือเป็นครั้งแรกของ 6 ประเทศในกลุ่มอาเซียนที่ได้ร่วมกันออกแบบระบบกำกับติดตามที่มาจากความคิดเห็นของกลุ่มนักวิชาการในภาคส่วนต่างๆ ซึ่ง สสส.มีบทบาทในการสนับสนุนส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาระบบร่วมกันอันนำไปสู่การวางระบบ แลกเปลี่ยนและช่วยกันดูแลผู้ป่วย ลดอัตราผู้ป่วยโรค NCDs ในแต่ละประเทศ เนื่องจากโรคดังกล่าวแม้ไม่ได้ติดต่อจากคนสู่คนแต่เป็นโรคที่มีผู้ป่วยจำนวนมาก เพราะเกิดจากพฤติกรรม 5 ด้าน ได้แก่ การกิน การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ ความเครียด และการไม่ออกกำลังกาย เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้มีผู้ป่วยโรค NCDs จำนวนมาก ดังนั้นนอกจากการวางระบบดังกล่าวที่แต่ละประเทศร่วมมือกันนำไปสู่การสร้างมาตรฐานเดียวและขยายต่อไปในเชิงนโยบายแล้ว ทุกคนต้องดูแลตัวเอง และลดพฤติกรรมเสี่ยงเหล่านี้ด้วย” ณัฐพันธุ์ กล่าว

 

6ประเทศอาเซียนออกแบบติดตาม NCDs 

 


          ทุกประเทศในกลุ่มภูมิภาคอาเซียนต่างมีมาตรการในการควบคุมป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง วาระที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ นพ.วิศัลย์ มูลศาสตร์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ สถาบันบำรุงนราดูร กล่าวว่า การเฝ้าระวังและมาตรการควบคุมโรค NCDs นั้น จะดำเนินการตามบริบทของแต่ละประเทศเป็นหลัก เพราะโรคดังกล่าวขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิต การกิน การออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพของคนละประเทศ ดังนั้นการประชุมครั้งนี้จะเป็นการหามาตรการ เฝ้าระวัง ติดตามร่วมกัน โดยแลกเปลี่ยนเรียนรู้และนำไปสู่แนวทางในการปฏิบัติที่แต่ละประเทศจะนำไปใช้บูรณาการในประเทศของตนเอง และคำนึงถึงประเทศเพื่อนบ้าน เพราะด้วยเทคโนโลยี การเคลื่อนย้ายประชากรในกลุ่มประเทศดังกล่างมีมากขึ้น หากมีมาตรการการเฝ้าระวัง ติดตามในองค์รวม และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมกัน เชื่อว่าจะช่วยลดปัญหากลุ่มโรค NCDs ได้
  

 

6ประเทศอาเซียนออกแบบติดตาม NCDs 

นพ.วิศัลย์ มูลศาสตร์

 

 

 

          “สถานการณ์กลุ่มโรค NCDs ยังคงเป็นสาเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เพราะปัจจัยการเกิดโรคมีหลายมิติ โดยเฉพาะพฤติกรรมการใช้ชีวิต การกิน การสูบบุหรี่ การดื่มเหล้า การกินเกลือมากไป การออกกำลังกาย ล้วนเป็นผลให้เกิดโรคดังกล่าวได้ทั้งสิ้น รวมถึงยังทำให้การออกแบบชุดข้อมูลเพื่อติดตามสถานการณ์มีความยากซับซ้อน เป็นเหตุให้แต่ละประเทศมีตัวชี้วัดแตกต่างกันและร่วมและถูกรวบรวมวิเคราะห์อย่างไม่ต่อเนื่อง ซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่เพียงกระทบต่อระบบการติดตามประวัติอนัตตาโรคและปัจจัยเสี่ยงของโรคไม่ติดต่อในประเทศแต่ยังกระทบต่อการเปรียบเทียบสถานการณ์ระหว่างประเทศด้วย ฉะนั้นการประชุมดังกล่าวจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดการสร้างตัวชี้วัด การเฝ้าระวังติดตามในกลุ่มโรค NCDs ร่วมกัน เป็นรูปธรรม และมีเป้าหมายที่ชัดเจน” นพ.วิศัลย์ กล่าว
     

          สุภา เพ่งพิศ นักวิชาการจากสถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ประเทศไทยมีความพร้อมและมีมาตรการเฝ้าระวัง ติดตาม กำกับดูแลกลุ่มโรค NCDs มาตลอดและมีความรุดหน้ามากกว่าในหลายประเทศ เนื่องจากมีการดำเนินการในระดับนโยบาย แต่ยอมรับว่าโรคดังกล่าวเป็นสาเหตุหลักในการเสียชีวิตของคนไทยเพราะเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนไทย อีกทั้งประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมสูงวัย ดังนั้นจำนวนผู้ป่วยโรคนี้มีมากขึ้น
  

 

6ประเทศอาเซียนออกแบบติดตาม NCDs 

  สุภา เพ่งพิศ

 

 

          โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ ขณะเดียวกันด้วยการเปิดกว้างแต่ละประเทศ มีการเคลื่อนย้ายของผู้คน การขนส่งสินค้าต่างๆ ทำให้มีผู้ป่วยโรคกลุ่ม NCDs มากขึ้น ดังนั้นเมื่อทั้ง 6 ประเทศอาเซียนร่วมกันออกแบบระบบติดตาม กำกับดูแลผู้คนในโรคดังกล่าวย่อมเป็นมาตรการเทียบเคียงกัน และเกิดความร่วมมือกันเป็นระบบเครือข่าย ทำงานร่วมกัน ที่สำคัญยังนำเสนอในเชิงนโยบายที่แต่ละประเทศได้นำไปใช้ และเกิดมาตรฐานที่เป็นสากลได้
  

          อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการหารือร่วมกันในครั้งนี้และครั้งต่อๆ ไป จะได้แนวทาง และมาตรฐานช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรค NCDs ได้อย่างยั่งยืนในอนาคต

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ