Lifestyle

4อันดับรถยนต์ไฟฟ้าน่าใช้ปี 2563

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

4อันดับรถยนต์ไฟฟ้าน่าใช้ปี 2563 คอลัมน์...  ยานยนต์

 

 


          ในช่วงน้ำมันทุกชนิดต่างทยอยปรับราคาจากเหตุการณ์ในตะวันออกกกลางทำให้หันมานึกถึงพลังงานทางเลือกเลยนึกถึงรถยนต์พลังงานไฟฟ้า งั้นวันนี้ต้องขออนุญาตนำเรื่องราวของรถยนต์ไฟฟ้า หรือยานยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicle รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ผู้เขียนได้สัมผัสจริงไม่ใช่แค่เห็นแต่เป็นการขับจริง ขอเริ่มคันที่ประทับใจมากสุดก็คือ จากัวร์ ที่นำจากัวร์ไอ-เพซอีวีเข้ามาขาย เรียกเสียงตอบรับจากแฟนๆ ของเสือจากัวร์ได้อย่างจังพร้อมยอดจองที่น่าชื่นใจถึงแม้ราคาจะโหดร้ายกับเงินในกระเป๋าแต่แฟนพันธุ์แท้ที่ชื่นชอบรุ่นนี้ก็พร้อมควักเงินรางวัลการันตีติดตัวมามากมายและยังถือเป็นผู้นำในการขับรถยนต์รักษ์โลกก่อนใคร ขอวกกลับมาค่ายญี่ปุ่นผู้ที่ถือว่าเป็นผู้พัฒนารถยนต์ไฟฟ้ามานานก่อนใครอย่างนิสสันก็นำนิสสันลีฟ เข้ามาจำหน่ายในราคาที่หลายคนสะดุ้งและค่ายรถที่เรียกกระแสยอดจองแบบถล่มทลายเมื่อปี 2562 ก็คือเอ็มจีที่นำ เอ็มจีแซดเอสอีวี รถยนต์ไฟฟ้ามาจำหน่ายพร้อมราคาที่จับต้องได้

 

 

          เกริ่นยาวขนาดนี้งั้นขอเล่าถึงรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าใช้ประจำปี 2563 นี้ กันเลยครับ

          1.จากัวร์ไอ-เพซอีวี
          รถยนต์แฮตช์แบ็ก 5 ประตู ออกแบบให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ พร้อมหลังแอโรไดนามิกส์ โดยมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานเพียง 0.29 ทำให้สามารถเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 4.8 วินาที ขุมพลังของ จากัวร์ไอ- เพซ 2019 ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 2 ตัวให้กำลังสูงสุด 400 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 696 นิวตัน-เมตร พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD ทุกรุ่นย่อยสามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 4.8 วินาที

 

 

 

4อันดับรถยนต์ไฟฟ้าน่าใช้ปี 2563

 


          ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 90 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง ติดตั้งอยู่ระหว่างเพลาขับหน้า–หลังโดยติดตั้งในตำแหน่งที่ต่ำที่สุดเพื่อให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำรองรับการขับขี่ระยะทางสูงสุด 470 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มแต่ละครั้ง การชาร์จไฟสามารถอัดไฟได้ 80 เปอร์เซ็นต์ ได้ในเวลา 20-40 นาที เมื่อชาร์จไฟแบบ DC Rapid Charging ขนาด 100 กิโลวัตต์ ส่วนการชาร์จด้วยไฟบ้านผ่าน AC Wall Box ขนาด 7 กิโลวัตต์ ต้องใช้เวลาราว 10 ชั่วโมงเพื่อให้ได้ระดับไฟเทียบเท่ากัน

 

 

4อันดับรถยนต์ไฟฟ้าน่าใช้ปี 2563

 

 


          และนี่คือรถยนต์ไฟฟ้าที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบมากที่สุดจากการได้ใช้ชีวิตในการขับด้วยกันถึง 48 ชั่วโมง จากราคาที่คิดว่าแพงมากๆ แต่พอขับจริงแล้วถ้ามีเงินในกระเป๋าผมจะควักซื้อจริงๆ เพราะผมไม่คิดเลยว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะตอบสนองได้เร็วทันใจ รถพร้อมจะทยานไปข้างหน้าทุกครั้งเพียงแตะคันเร่งไม่มีระบบเกียร์มาให้สับสนแค่ปุ่มกดเดินหน้าถอยหลังเท่านั้น! ไอ-เพซอีวี ต้องยกเป็นรถที่หนึ่งในดวงใจ

 


              JAGUAR I-PACE ELECTRIC AWD S ราคาจำหน่าย 5,499,000 บาท
          JAGUAR I-PACE ELECTRIC AWD SE ราคาจำหน่าย 6,299,000 บาท
          JAGUAR I-PACE ELECTRIC AWD HSEราคาจำหน่าย6,999,000บาท


          การรับประกันคุณภาพแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร และรับประกันคุณภาพรถอีก 5 ปี บริการซ่อมบำรุงรักษาฟรี 5 ปี พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงนาน 5 ปี อีกด้วย


          2.เอ็มจีเอ็มจีแซดเอสอีวี
          รถยนต์เอสยูวีพลังงานไฟฟ้า 100% คันแรกที่ยกให้ความคุ้มค่า คุ้มราคา การตอบสนองนี่ไม่แพ้เบอร์หนึ่ง แต่ด้วยที่กำลังมอเตอร์น้อยกว่า และมีเพียงมอเตอร์ตัวเดียว แต่การตอบสนองคันเร่งไม่ธรรมดา และเหนือกว่ารถยนต์ระบบสันดาปที่ไม่จำกัดซีซี ต้องหลบให้เมื่อมองกระจกหลังเห็น สีตัวถัง “สีฟ้า Copenhagen Blue” เอกลักษณ์รถแซดเอสอีวีเท่านั้น!

 

 

4อันดับรถยนต์ไฟฟ้าน่าใช้ปี 2563

 


          เอ็มจีแซดเอสอีวี สามารถ Quick Charge ที่ 80% ในเวลาเพียง 30 นาที ขุมพลังจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุ 44.5 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง วิ่งได้ระยะ 337 กิโลเมตร กระจังหน้าทันสมัยพร้อมจุดชาร์จไว้บริเวณหลังกระจังหน้าล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว

 

 

 

4อันดับรถยนต์ไฟฟ้าน่าใช้ปี 2563

 


          รถที่เชื่อมกับหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้วระบบปรับอากาศแบบดิจิทัลที่มาพร้อมระบบกรองอากาศที่สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็กพีเอ็ม 2.5 และโดดเด่นด้วยหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามาตามสไตล์เอ็มจีไปแล้ว

 

 

 

4อันดับรถยนต์ไฟฟ้าน่าใช้ปี 2563

 


          NEW MG ZS EV จำหน่าย ราคาเพียง 1,190,000 บาท พร้อมการรับประกันคุณภาพรถ 4 ปี หรือ 1.2 แสนกิโลเมตร และรับประกันคุณภาพแบตเตอรี่ 8 ปีหรือ 1.8 แสนกิโลเมตร


          3.นิสสันลีฟ
          นิสสัน ลีฟ เป็นรถที่ได้ทดสอบมากกว่าใครทั้งในเมืองนอกเมืองต้องบอกเลยว่าขับครั้งแรกๆ ไม่ค่อยรู้สึกตื่นเต้นเท่าไรนักเพราะเราไปสัมผัสความแรงจากรุ่นอื่นพอมาขับในเมืองธรรมดาเหมือนรถทั่วไปทำให้รู้สึกถึงราคาค่าตัวที่สูงเอาเรื่องแต่ความรู้สึกเปลี่ยนไปพอได้ลองขับทางไกลแล้วนำนิสสันลีฟไปปีนดอยถึงเห็นประสิทธิภาพของรถยนต์ไฟฟ้าคันนี้และเเทคโนโลยีที่นิสสันคิดค้นมาใส่ไว้ในรถบอกเลยว่านิสสันลีฟเป็นรถที่เป็นมิตรต่อผู้ขับจริงๆ

 

 

4อันดับรถยนต์ไฟฟ้าน่าใช้ปี 2563

 


          นิสสัน ลีฟ คันนี้เป็นเจเนอเรชั่นที่ 2 พร้อมระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า e-powertrain ส่งกำลังมากถึง 110 กิโลวัตต์ 150 แรงม้าที่ 3238-9795 รอบต่อนาที มีแรงบิดมากถึง 320 นิวตันเมตร มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลาเพียง 7.9 วินาที ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 40 กิโลวัตต์ชั่วโมง และหัวใจสำคัญคือเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะ อี-เพดัล  ราคาจำหน่าย 1,990,000 บาท


          การประกันคุณภาพรถยนต์เป็นเวลา 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร พร้อมการรับประกันระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และการรับประกันการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่เป็นเวลา 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร อีกด้วย


          4.FOMM One
          คันสุดท้ายที่เราได้ลองขับเป็นรถไฟฟ้าขนาดเล็กกะทัดรัดนั่งได้ถึง 4 ที่นั่งครั้งแรกที่ได้ขับต้องบอกเลยว่าต้องปรับตัวมากๆ เพราะคันเร่งมาอยู่ที่ปลายนิ้วทั้งสองข้างถือว่าแปลกแต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะปรับตัวไม่ได้ด้วยที่มีขนาดเล็กการตอบสนองถือว่าทันใจยิ่งช่วงจอดติดไฟแดงเป็นคันแรกออกตัวมีมอเตอร์ไซค์เคืองเป็นแถวเพราะรถอะไรออกตัวเหนือกว่าสองล้อทั่วไป

 

 

4อันดับรถยนต์ไฟฟ้าน่าใช้ปี 2563

 


          ขุมพลังมาจากมอเตอร์ไฟฟ้าในดุมล้อหน้าทั้ง 2 ข้าง ขนาด 5 กิโลวัตต์ชั่วโมง ให้กำลังสูงสุด 13 แรงม้า แรงบิดสูง 560 นิวตันเมตร ซึ่งถีบให้รถวิ่งได้เร็วสูงสุด 80 กม./ชม. สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 160 กิโลเมตร


          โดยทาง FOMM ประกาศว่าสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายด้วยอัตราสิ้นเปลืองเพียง 30 สตางค์ต่อกิโลเมตร ด้วยการชาร์จในระบบไฟฟ้าภายในบ้านเพียง 6–8 ชั่วโมงและสามารถวิ่งได้ไกลถึง 160 กิโลเมตร สุดท้าย FOMM One สามารถลอยน้ำได้เอาตัวรอดในเวลาที่มีน้ำท่วมสูงอย่างที่เกิดขึ้นที่ จ.อุบลราชธานี


          ราคาจำหน่าย 664,000บาท 


          และนี่คือ 4 คันของรถยนต์ไฟฟ้าที่ดีที่สุดในบ้านเราจาก ที่ได้ลองไปขับมา ทุกคันถ้าเพื่อนอยากสัมผัสรถยนต์ไฟฟ้าหรือยานยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicle ก็สามารถแวะไปทดลองกันดูนะครับ แล้วจะลืมรถในระบบสันดาปไปเลยแต่ก็ต้องฝากถึงภาครัฐให้พัฒนาต่อยอดทั้งระบบควรสนับสนุนให้เกิดสถานีชาร์จทั่วประเทศกระทรวงที่เกี่ยวข้องทั้งหลายร่วมมือกันบ้างก็ดีครับ ประชาชนคนไทยจะได้มีโอกาสเพราะนี่ก้าวต่อไปของยานยนต์ประเทศไทย


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ