
4 อันดับ รถอเนกประสงค์ ปี 2563
แนะนำรถอเนกประสงค์ที่มีโอกาสไปร่วมขับขี่ในรอบปีที่ชื่นชอบและประทับใจ
ในช่วงนี้หลายๆ คนต้องการรถยนต์ที่สามารถตอบสนองทุกการใช้งาน ช่วงนี้คงไม่เกินรถยนต์ในรูปแบบ เอสยูวี หรือ รถยนต์รถอเนกประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นแบบสามแถว 7 ที่นั่ง หรือจะเป็นเพียงแค่ 5 ที่นั่งแต่มีพื้นที่บรรทุกของได้มากขึ้น โดยวันนี้ขอเรียบเรียงถึงรถอเนกประสงค์ที่มีโอกาสไปร่วมขับขี่ในรอบปีมาให้ท่านผู้อ่านได้ช่วยกันตัดสินใจ เช่นเดิม ข้อมูลและความน่าสนใจ 4 รถอเนกประสงค์นี้มาจากการที่ได้ขับทดสอบจริง และเป็นการจัดลำดับโดยไม่นับมูลค่าตัวรถ ขอเพียงแค่เป็นรถที่ตอบสนองความคุ้มค่า คุ้มราคา เป็นที่ตั้งเช่นเคย รถยนต์บางรุ่นที่ไม่ได้เอ่ยถึงก็ต้องขออภัยด้วยครับ ขอเล่าจากการที่เราได้ทดสอบจริงๆ เท่านั้น งั้นขอเริ่มเลยดีกว่าว่ามีรถรุ่นไหนกันบ้าง...
1 ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ Subaru Forester
ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าการที่ ซูบารุ ยกฐานมาประกอบ ฟอเรสเตอร์ ในประเทศไทย ทำให้ตัวรถมีราคาที่ถูกลงและความจริงใจที่ให้กับสาวก ทำให้ ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ ใหม่ มียอดจองที่ไม่ธรรมดา ยิ่งในรุ่นเริ่มต้น 2.0i-L มีวางราคาต่ำกว่าค่ายอื่น และเป็นแบรนด์เดียวที่ให้ระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ Asymetrical Full-Time AWD มาเลย
เครื่องยนต์ เบนซิน 4 สูบนอน BOXER DOHC รหัส FB20 16 วาล์ว 1,995 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 84.0 x 90.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 12.5 : 1 จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอีเล็กโทรนิคส์ เสื้อสูบแบบเดิม บล็อกเดิม แต่มีการปรับปรุงชิ้นส่วนไส้ในทั้งหลายให้แตกต่างจากเครื่องยนต์เดิมในรถรุ่นก่อน มากถึง 80% มีทั้งการปรับปรุงหลักๆ เช่น เปลี่ยนระบบหัวฉีดแบบปกติ (Port Injection) เป็นหัวฉีดตรงเข้าห้องเผาไหม้ (Direct Injection) และมี Camshaft แบบแปรผันองศาได้ทั้งฝั่งไอดีและไอเสีย (Dual AVCS)
เพิ่มขึ้นจาก 150 เป็น 156 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 196 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาทีปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพิ่มขึ้นจาก XV ซึ่งอยู่ที่ 162 กรัม/กิโลเมตร เป็น 179 กรัม/กิโลเมตร ระบบส่งกำลัง เป็นเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผัน Lineartronic CVT รหัส TR580GDJBA พัฒนาให้มีน้ำหนักเบาลงกว่ารุ่นเดิมถึง 7.8 กิโลกรัม
นอกจากนี้ ยังมีโหมด +/- เพื่อให้ผู้ขับขี่ เลือกเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ได้เอง พร้อม Paddle Shift ด้านหลังพวงมาลัย โดยเพิ่มการล็อกอัตราทดจาก 6 จังหวะ ในรุ่นเดิมเป็น 7 จังหวะ ที่สำคัญระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อฟลูไทม์ พร้อมระบบ X-MODE และที่สำคัญในรุ่น 2.0i-S EyeSight ให้ระบบความปลอดภัย EyeSight Driver Assist Technology มาด้วยซึ่ง ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ เน้นมาโดยเฉพาะที่หาจากค่ายจากแดนปลาดิบไม่ได้แล้ว
และนี่คือเหตุผลว่าทำไมต้องจับตา เพราะความเด่นในเรื่องความปลอดภัย การขับขี่ที่ทรงตัวดี เครื่องยนต์ออกแบบมาดีประหยัด แต่จะขัดใจจากขนาดเครื่องยนต์ที่ย่อลงจากรุ่นเดิมไปบ้าง ประเด็นนี้ก็ต้องแล้วแต่ลูกค้าเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะยอมแลกหรือจะหารุ่นอื่นเพื่อทดแทน...
ราคา All new Subaru Forester 2020
Forester 2.0i-L : 1,330,000 บาท
รุ่น Forester 2.0i-S :1,380,000 บาท
รุ่น Forester 2.0i-S ES : 1,450,000 บาท
2 เอ็มจี เอชเอส MG HS
หลังที่เราได้รับเชิญไปขับก่อนเปิดตัวและลองขัลจริงบนถนนกับระยะเวลาพอสมควรที่สามารถจับอาการและข้อดี ต้องบอกนี่คือรถเอสยูวี ที่ให้ความคุ้มค่าแบบสุดๆ กับราคาเริ่มต้นเพียง 8.85 แสนบาท และท๊อปสุดล้านนิดๆ เท่านั้น กับออฟชั่นที่เรียกได้ว่าจัดเต็มไม่ต้องร้องขอ....
สมรรถนะกับ เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ รหัสเครื่อง 15E4E 1,490 ซีซี DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว Turbo TGI อัตราส่วนกำลังอัด 10 : 1 กำลังสูงสุด 162 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,700 – 4,400 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Twin Clutch Sportronic 7 จังหวะ ขับเคลื่อน 2 ล้อ รองรับน้ำมันสูงสุด E85 แค่นี้ก็สุดๆ กับราคาที่จ่ายแล้วครับ ยังทำความเร็ว 0-100 ได้ในเวลาไม่ถึง 10 วินาที
ภายในห้องโดยสาร ออกแบบโค้งมน วัสดุภายในแบบ Soft Touch ทั้งบริเวณคอนโซลหน้า และแผงประตูทั้งด้านหน้าและด้านหลัง อีกจุดที่ว่าสุดกว่ารถทุกแบรนด์ในราคาเดียวกันคือการให้ เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า และยังมากับทรง Bucket Seat แบบสปอร์ตสีดำสลับแดงที่จะให้มาในรถระดับท็อปคลาส และเวลาใช้งานจริงก็เหลือเฟือมากๆ อัตราเร่งทำได้ดี ไม่แพ้เครื่องใหญ่ๆ การประหยัดก็อยู่ที่ปลายเท้าเราว่าจะสนุกกับอัตราเร่งและเพลินกับปุ่มกด Super Sport จากปุ่มกดบนพวงมาลัยหรือไม่
และข้อดีที่มีต่อเนื่องคือ ระบบ i-SMART ที่ให้มาพร้อมหน้าตาพัฒนาสวยงามขึ้น ข้อเสียมีอย่างเดียวคือตัวอักษรดูเล็กถ้าเทียบกับคู่แข่ง แต่ข้อดีของ i-SMART อย่างมากคือไม่ต้องกังวลเวลาคุณลืมใครสักคนในรถพร้อมกุญแจรถ เพราะคุณสามารถสั่งเปิดประตูเพียงปลายนิ้วจาก แอปบนมือถือ และนี่คือรถที่ต้องจับตาและเป็นรถที่อยากแนะนำให้ไปลองขับก่อนและคุณจะรู้ว่านี่จะเป็นรถที่ตอบโจทย์คุณเกือบทุกข้อ
ราคา MG HS ทั้ง 3 รุ่นย่อย
รุ่น C 919,000 บาท
รุ่น D 1,019,000 บาท
รุ่น X 1,119,000 บาท
3. เชฟโรเลต แคปติวา
อันดับที่ 3 ต้องยกให้กับ ดิ ออล นิว เชฟโรเลต แคปติวา เพราะด้วยราคาที่สูงกว่าทำให้ความคุ้มค่าด้านราคาจะสู้คู่แข่งไม่ได้เลย แต่ข้อดีของ แคปติวา มาจากความคุ้มค่าในเรื่องการตอบสนองการใช้งาน ที่ให้ขนาดที่ใหญ่พอๆ กับรถขนาด ซี-เซ็กเมนต์ พอได้ลองขับรถ เชฟโรเลต แคปติวา ถึงสองวันก็ได้คำตอบของรถคันนี้ ว่าเหมาะกับเป็นรถประจำครอบครัว ยิ่งมีเด็กๆ ไม่ว่าจะเด็กเล็กเด็กโต ด้วยแล้ว เชฟโรเลต แคปติวา จะเป็นรถที่ตอบสนองทุกข้อ แม้จะให้แม่บ้านเป็นผู้ขับก็เป็นรถที่ขับง่ายใครๆ ก็ขับได้ครับ
กำลังเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร เทอร์โบ กำลัง 143 แรงม้า (105 กิโลวัตต์) ที่ 5,000 รอบต่อนาที แรงบิด 250 นิวตันเมตร ที่ 2,400 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT พร้อมโหมด Shift Control + - 8 สปีด น่าเสียดายใช้น้ำมันเชื้อเพลิง E10 เท่านั้น!!กำลังพอเพียงให้เร่งแซงสบาย แค่เผื่อระยะทางแซงสักนิด ยางที่ให้มาขนาด 17 นิ้ว 215/ 60/17 เหมือนกันทั้ง สามรุ่น
จุดเด่นคือห้องโดยสารที่มีขนาดใหญ่ แบบ 7 ที่นั่ง เบาะนั่ง 3 แถว (ยกเว้นรุ่น LS) ตามมาด้วยจอภาพขนาดใหญ่ 10.4 นิ้ว สามารถสั่งการเครื่องเสียง, เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้, รองรับการเชื่อมต่อระบบ Bluetooth, USB, AUX และ Chevrolet Link และที่สำคัญ All-New Chevrolet Captiva นั้น จะไม่มีปุ่มปรับอุณหภูมิภายในห้องโดยสาร โดยจะสั่งการ และปรับอุณหภูมิได้ที่หน้าจออินโฟเทนเมนท์ หลังคาแบบพาโนรามิกซันรูฟขนาดใหญ่เกือบเต็มหลังคา แค่นี้พอชดเชยข้อเสียได้บ้าง ถ้าคุณเลือกรถเพราะอยากได้รถที่ประหยัดเชื่อเพลิงคงต้องทำใจกับ ดิ ออล นิว เชฟโรเลต แคปติวา สักหน่อยเพราะตัวเลขไม่หรูหรา
ราคา ดิ ออล นิว เชฟโรเลต แคปติวา ทั้ง 3 รุ่นย่อย
รุ่น LS ราคา 999,000 บาท
รุ่น LT ราคา 1,099,000 บาท
รุ่น Premier ราคา 1,199,000 บาท
4 บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์ 5 BMW X5 xDrive30d M Sport
อาจจะแปลกใจทำไมถึงรวมรุ่นนี้เข้ามาด้วย เพราะราคากระโดดขึ้นไปสูงมากแต่ที่หยิบยกมาเล่าเพราะจากการใช้งานที่อยู่กับ บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์ 5 นานพอจะรู้ว่านี่คือรถที่ดีมากๆ อยากแนะนำถ้าคุณมีกำลังทรัพย์แบบเหลือๆ เพราะการตอบสนองเรื่องของความงามความหรูหราระดับพรีเมี่ยมมีให้ชนิดที่คุณไม่ต้องร้องขอเช่นกัน!
ยิ่งเวลาขับเคลื่อนตัวฝ่าการจราจรติดขัดในเมือง ขับง่ายทักษะวิสัย ความคุ้มค่ามากๆ ต่อการใช้งาน ข้อเสียเพียงข้อเดียวคือ ราคา!! ถ้าผมมีเงินเดือนเป็นแสนๆ ผมจะคว้าบีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์ 5 คันนี้ไว้ประจำบ้านแน่นอนครับ
บีเอ็มดับเบิลยู นิยามรถของตัวเองว่า สปอร์ต แอ็คทีฟ วิฮิเกิล SAV แทนคำว่าเอสยูวีนะครับ และด้วยดีเอ็นเอของค่ายนี้ทำรถให้ขับสนุกใกล้เคียงรถแข่ง X5 เป็นรถที่ให้ครบทุกรสพร้อมขุมพลัง เครื่องยนต์ดีเซล BMW TwinPower Turbo ความจุ 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 265 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 620 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000-2,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Steptronic ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 6.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 230 กม./ชม. บวกกับช่วงล่าง Adaptive M และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อัจฉริยะ แบบ xDrive สเปคแค่นี้ก็เหลือๆ ครับ
ยิ่งปัจจุบัน แพ็คเกจ BSI ของ บีเอ็มดับเบิลยู ทำให้เราใช้รถไม่ต้องกังวล ยิ่งคนที่ต้องขับรถใช้เดินทางไกลๆ เป็นประจำการ การที่รถใช้น้ำมันดีเซลยิ่งตอบโจทย์ของความประหยัดและสะดวกหาเติมที่ไหนก็ได้ง่าย
BMW X5 xDrive30d M Sport เป็นเจเนอเรชั่นที่ 4 รหัสตัวถัง G05 จุดเด่นกว่าก็ตรงกระจังหน้าแบบ Kidney Grille เอกลักษณ์ของ บีเอ็ ดับเบิลยู สีโครเมียมรมดำมีครีบเปิด-ปิดแบบแอคทีฟขนาดใหญ่กว่ารุ่นก่อน พร้อมชุดแต่งแบบ M Sport ชุดเบรกและช่วงล่างแบบ M Sport และล้ออัลลอย M ขนาด 22 นิ้ว ลาย Double-spoke ล้อหน้ามากับขนาดยาง 275/35 R22 และ 315/30 R22 ในล้อหลัง ไฟหน้าแบบ Adaptive LED headlights และไฟท้าย LED
สรุป เอ็กซ์ 5 ใหม่เป็นรถที่ควบคุมง่ายตรงข้ามกับรูปร่างที่ใหญ่โต และเป็นรถที่เหมาะกับคนที่ชอบเป็นผู้ขับเองเท่านั้น! ระบบความปลอดภัยอาจมาให้ไม่ครบแบบบางเจ้าแต่ก็ให้พอการใช้งานที่จำเป็น แค่นี้คุณจะมองหารถคันไหนมาเปรียบเทียบคงไม่มี!!!
ราคา BMW X5 xDrive30d M Sport 2019
รุ่น BMW X5 xDrive30d M Sport 2019 ราคา 5,699,000 บาท
นำเข้าทั้งคัน CBU
นี่คือรถอเนกประสงค์ที่น่าใช้ในปี 2563 โดยทั้ง 4 คันมีราคาหลักแสนไปถึงหลายล้านบาทให้เลือก แล้วคุณจะรู้ว่ารถอเนกประสงค์ เป็นรถยนต์ที่สามารถขับขี่เดินทางไปได้ทุกที่ของประเทศไทย
เรื่อง: ธวัชชัย พิชิตรณชัย
E-mail : [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/AeyTawatKomchadluek