
"กำปงเฌอเตียล"วิทยาลัยในพระเทพฯ
การเสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาหลายครั้งเพื่อทรงศึกษาโบราณคดีและประวัติศาสตร์ ของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพราะทรงถือว่าราชอาณาจักรกัมพูชาเป็นแหล่งเรียนรู้ทางด้านอารยธรรมของโลก จากความผูกพันและเพื่อเป็นการแสดงความมีน้ำใจไมตรี
พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงแสดงพระราชปณิธานไว้ว่า
"ข้าพเจ้าเห็นมาตั้งแต่เด็กว่า การพัฒนาการศึกษา การเผยแพร่ความรู้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ชาติจะได้ก้าวหน้าและคนที่แพร่ความรู้ก็ได้บุญด้วย"
พระองค์จึงได้ก่อตั้ง “วิทยาลัยกำปงเฌอเตียล” ตั้งอยู่ในเขต อ.ปราสาทซ็อมโบร์ จ.กำปงธม ประเทศกัมพูชา ขึ้น โดยพระราชทานค่าใช้จ่ายในก่อสร้าง มีคณะกรรมการฝ่ายก่อสร้างและอาคารสถานที่เป็นผู้รับผิดชอบในการก่อสร้างตามรูปแบบสถาปัตยกรรมของกัมพูชา ฝ่ายกัมพูชาได้อำนวยความสะดวกในการจัดหาพื้นที่เพื่อการก่อสร้าง และให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน และประสานงานด้านเทคนิคที่เกี่ยวกับการก่อสร้าง โดยในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2543 รัฐบาลกัมพูชาได้กำหนดพื้นที่ในการก่อสร้างขึ้นในพื้นที่ 60,000 ตารางเมตร
ต่อมาวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ 2544 กระทรวงศึกษาธิการ เยาวชน และการกีฬา ได้มีหนังสือแจ้งขยายพื้นที่ก่อสร้างจากเดิมมีความกว้าง 200 เมตร ลึก 400 เมตร หรือเท่ากับ 45 ไร่ (7.2 เฮกตาร์) ตามความตกลงโครงการระหว่างกรมราชองครักษ์กับกระทรวงศึกษาธิการ เยาวชน และการกีฬา ว่าด้วยความร่วมมือในการจัดตั้งวิทยาลัยกำปงเฌอเตียล
วิทยาลัยกำปงเฌอเตียล ในประเทศกัมพูชา จึงถือว่าได้กำเนิดขึ้นจากพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี หลังจากที่เสด็จฯเยือนกัมพูชาครั้งแรกเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2535 โดยทรงเป็นราชอาคันตุกะของพระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหนุ ทรงพระราชดำริพระราชทานความช่วยเหลือกัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการศึกษา รัฐบาลโดยสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรี จึงได้สนองแนวพระราชดำริ ขอพระราชทานระบบการศึกษา และน้อมเกล้าฯ ถวายที่ดินจำนวน 45 ไร่ ซึ่งต่อมาขยายเป็น 117 ไร่ ในเพื่อเป็นสถานที่ก่อสร้างวิทยาลัยฯ ซึ่งการก่อสร้างทั้งหมดเสร็จสิ้นในเดือนเมษายน พ.ศ. 2548 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จฯ ไปทรงเปิดวิทยาลัยกำปงเฌอเตียล เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548
ขณะเดียวกันเพื่อเป็นการสนับสนุนการศึกษาของวิทยาลัย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานทุนแก่นักเรียนเพื่อให้มาศึกษาต่อในประเทศไทยในหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิตและหลักสูตรอาชีวศึกษา เพื่อนำความรู้กลับไปสอนและพัฒนาการจัดการศึกษาของวิทยาลัย นอกจากนี้ ยังได้พระราชทานเครื่องดนตรีปี่พาทย์ครบชุด พระราชทานทรัพย์สำหรับจ้างครูท้องถิ่นผู้ชำนาญการสอนนาฏศิลป์และดนตรี สรุปการให้ความช่วยเหลือราชอาณาจักรกัมพูชาของวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีศรีสะเกษ
พ.ศ. 2545 ให้การอบรมครูจากโรงเรียนพระราชทานฯกำปงเฌอเตียลในราชอาณาจักรกัมพูชา จำนวน 2 คนเป็นเวลา 4 เดือน ในสาขาวิชาสัตว์ศาสตร์ เพื่อ กลับไปเป็นครูสอนสายอาชีวศึกษาที่โรงเรียน
พ.ศ. 2546 - ปัจจุบัน วิทยาลัยเกษตรฯศรีสะเกษ ได้ส่งบุคลากรของวิทยาลัย ไปราชอาณาจักรกัมพูชาเพื่อติดตามสนับสนุน ให้ความช่วยเหลือ กับโรงเรียนพระราชทานฯกำปงเฌอเตียล อย่างต่อเนื่องเฉลี่ยประมาณเดือนละ 1 ครั้ง ครั้งละประมาณ 7 วัน เสมอมา
พ.ศ. 2547 วิทยาลัยฯได้รับนักศึกษาจากราชอาณาจักรกัมพูชา จำนวน 36 คน เข้าเรียนที่วิทยาลัยฯ โดยดำเนินการภายใต้นโยบายการให้ความร่วมมือทางการค้า,การศึกษา, การสาธารณสุขกับประเทศเพื่อนบ้าน ของจังหวัด, อบรมครูจากโรงเรียนพระราชทานฯเพื่อเดิมอีก 4 คน
พ.ศ. 2548 วิทยาลัยเกษตรฯศรีสะเกษได้รับนักศึกษา ทุนพระราชทานฯจากโรงเรียน พระราชทานฯ กำปงเฌอเตียล จำนวน 4 คน (ปวช. 2 คน ปวส. 2 คน)
พ.ศ. 2549 รับนักศึกษา ทุนพระราชทานเพื่อเติมจากโรงเรียนพระราชทานฯ กำปงฌเอเตียล เพิ่มอีก 8 ราย (ปวช. 2 ราย ปวส. 8 ราย) และรับนักเรียนทุนส่วนตัวเพิ่มอีก 2 ราย
พ.ศ. 2550 รับนักศึกษา ทุนพระราชทานเพื่อเติมจากโรงเรียนพระราชทานฯ กำปงฌเอเตียล เพิ่มอีก 8 ราย (ปวช. 2 ราย ปวส. 10 ราย) และรับนักเรียนทุนส่วนตัวเพิ่มอีก 3 ราย
พ.ศ. 2551 จัดการฝึกอบรมเกษตรระยะสั้นให้เกษตรกรและครูกัมพูชา 3 รุ่น ๆ ละประมาณ 60 คน ครั้ง ละ 20 วัน โดยดำเนินการภายใต้นโยบายการให้ความร่วมมือทางการค้า,การศึกษา, การสาธารณสุขกับประเทศเพื่อนบ้าน ของจังหวัดศรีสะเกษ และรับนักเรียนทุนส่วนตัวอีก 2 ราย
พ.ศ. 2552 รับนักเรียนทุนส่วนตัว เข้าศึกษา ต่อ จำนวน 3 ราย
ข้อมูลจาก ฝ่ายนิเทศสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ ระบุว่า ปัจจุบันมีนักศึกษาจากวิทยาลัยกำปงเณอเตียล ที่ได้รับทุนต่อเนื่องเรียนต่อในระดับปริญาตรี จำนวน 10 คน นศ.หญิง 4 คน นศ.ชาย 6 คน เรียนระดับชั้นปีที่ 1 จำนวน 6 คน ชั้นปีที่ 2 จำนวน 2 คน และ ชั้นปีที่ 3 จำนวน 2 คน โดยจะแยกเรียนออกไปตามสาขาวิชาและคณะที่แต่ละคนสนใจพิเศษ