
2 บทบาทบนเส้นทางชีวิต "เกรซ" รัชย์ณมนทร์
ทั้ง 2 อย่างเป็นงานที่เรารัก และเมื่อตั้งใจจะทำให้ดีแล้วก็ต้องพยายามมากกว่าคนอื่น
สาวๆ ที่เกิดมาแล้วรูปร่างหน้าตาดี ถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง ยิ่งสาวคนไหนฉลาดและมีความสามารถรอบด้าน นั่นเรียกว่าสมบูรณ์แบบทีเดียว และทั้งหมดนี้น่าจะเป็นคำจำกัดความของเธอคนนี้ได้ดี เพราะนอกจาก “เกรซ” รัชย์ณมนทร์ รัชย์จิราธรรม หรือที่หลายคนรู้จักกันดีในนาม “เกรซ เดอะสตาร์ 6” จะพกพาความสวยสดใสจนคนมองต้องเหลียวหลังแล้ว เธอยังมีความสามารถด้านการแสดงและร้องเพลง ล่าสุดยังประสบความสำเร็จด้านการเรียน คว้ามหาบัณฑิต คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาเทคโนโลยีการผลิตทางอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มาครองได้สำเร็จ ด้วยคะแนนเฉลี่ยสูงถึง 3.94
สวยๆ ในลุคเวิร์กกิ้งวูแมน
“เกรซ” เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงและเป็นที่รู้จัก จากการเข้าประกวดเวทีค้นฟ้าคว้าดาว ครั้งที่ 6 หรือ เดอะสตาร์ 6 เมื่อปี 2553 ซึ่งปีนั้น “กัน” นภัทร อินทร์ใจเอื้อ ได้รางวัลชนะเลิศ ขณะที่ “เกรซ” รัชย์ณมนทร์ ได้รองชนะเลิศอันดับ 5 หลังจากนั้นเธอก็ก้าวเข้ามาโลดแล่นในวงการบันเทิงอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นงานละคร ซิตคอม และซีรีส์ ซึ่งสาวเกรซเล่าว่า ก่อนหน้าที่จะเข้ามาประกวดเวทีเดอะสตาร์ เคยแคสงานโฆษณา และประกวดร้องเพลงมาบ้าง รวมถึงประกวดมิสทีนไทยแลนด์ปีที่ “เซฟ” เซฟฟานี่ อาวะนิค ได้ตำแหน่ง ส่วนเกรซได้รางวัลป๊อปปูลาร์โหวต
“หลังจากเข้ามาประกวดเดอะสตาร์ 6 คนก็เริ่มรู้จักมากขึ้น งานแสดงจึงเข้ามาอย่างต่อเนื่องด้วย เรื่องที่ค่อนข้างเป็นที่รู้จักก็อย่างละครน้ำขึ้นให้รีบรัก, นางสาวจำแลง, น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์, ซิตคอมเป็นข่าว, คิวปิดซีรีส์ ฯลฯ” ดาราสาวแจกแจงถึงผลงานที่ผ่านมา
ร่วมงานคมชัดลึกอวอร์ด ครั้งที่ 15
จะเห็นได้ว่าแม้งานบันเทิงจะเข้ามาไม่ขาด แต่เธอไม่เคยทิ้งเรื่องการเรียน ตรงกันข้ามเธอเพียรพยายามร่ำเรียนในด้านที่เธอเลือกนั่นก็คือ “วิศวกรรมศาสตร์” ซึ่งเริ่มชี้ชัดตั้งแต่ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) จากโรงเรียนเตรียมวิศวกรรมศาสตร์ สาขาไฟฟ้า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ แล้วมาต่อระดับปริญญาตรีที่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาไฟฟ้าเครื่องกลการผลิต หลักสูตรนานาชาติ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และล่าสุดจบปริญญาโท คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งเพิ่งเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรไปเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา
“เกรซ” ย้อนเล่าให้ฟังว่า ตอนเด็กๆ ถูกปลูกฝังว่าต้องเรียนเก่ง ซึ่งก็ทำคะแนนได้ดีมาตลอด แต่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรจริงจัง แต่มองว่าเรียนสายวิทย์ค่อนข้างแฟร์ เพราะทุกอย่างมีคำตอบเดียว ต่างจากสายศิลป์ที่ให้คะแนนมาจากหลายมุมมอง และเมื่อเข้าไปเรียนด้านนี้จริงจังรู้สึกได้เลยว่าตัวเองคิดถูก การเรียนสนุกมาก วิชาพื้นฐานมีบ้างแต่ไม่มากนัก จะเน้นไปที่ภาคปฏิบัติเป็นหลัก ส่วนเพื่อนๆ ก็สนุกสนาน มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน ทำให้บรรยากาศการเรียนไม่เครียดเกินไป
"ตอนที่จะเริ่มเข้าเรียน ปวช. เลือกสอบไว้หลายแห่ง แต่เลือกเรียนที่เตรียมวิศวะ เพราะเกรซอยากเลือกสังคมที่ไม่เครียดเกินไป บางสังคมคนมองว่าเก่ง แต่ก็ต้องเหยียบกันขึ้นไป แต่สำหรับเกรซอยากอยู่ในสังคมที่สบายๆ ทุกคนเรียนเก่งได้แต่ต้องมีเพื่อน ต้องรักกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน พอเข้ามาเรียนที่นี่ทุกอย่างก็เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ ทำให้เราแฮปปี้มาก จากนั้นก็มุ่งมั่นเรียนทางนี้มาตลอด ทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโท" ดาราสาวเล่าอย่างออกรส
คุณแม่ร่วมแสดงความยินดี
จากแต่ก่อนหลายคนมองว่า “การเรียนวิศวะเหมาะกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง” กับคำถามนี้สาวขาลุยกลับมองว่า ปัจจุบันผู้หญิงเรียนด้านนี้เยอะมากจึงไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับผู้หญิงอีกต่อไป เพราะที่จริงการเรียนวิศวะไม่ได้เกี่ยวกับเพศแม้แต่น้อย ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นผู้ชายถึงจะเรียนได้ เพราะบริบทการเรียนและการปฏิบัติงานไม่จำเป็นต้องใช้แรงงาน และการที่เธอเป็นผู้หญิงก็ไม่ใช่อุปสรรคในการเรียนแม้แต่น้อย เพราะเธอสามารถทำทุกอย่างได้เหมือนกับผู้ชาย ดังนั้นอะไรที่ผู้ชายทำได้ผู้หญิงอย่างเธอก็ทำได้เช่นกัน และคิดว่าทำได้ดีไม่แพ้กันด้วย อย่างเรื่องการใช้สมองหลายครั้งผู้หญิงคิดอะไรได้ดีกว่า หรือในเรื่องการตัดสินใจหรือความละเอียดถี่ถ้วน ตรงนี้เธอมองว่าเป็นข้อได้เปรียบของผู้หญิงมากกว่าจะเป็นความเสียเปรียบ
น้องๆ ร่วมแสดงความยินดี
แม้ว่าการเรียนในระดับปริญญาตรี และปริญญาโทจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่งานด้านการแสดงก็มีเข้ามาต่อเนื่องเช่นกัน แต่สาวเกรซเชื่อมั่นมาตลอดว่าสามารถบริหารเวลาให้แก่สิ่งที่รักทั้ง 2 นี้ให้สามารถเดินหน้าควบคู่กันไปได้ เพราะทั้ง 2 สิ่งนี้ล้วนแล้วแต่เป็นตัวตนที่ทำให้เธอเป็นเธอในวันนี้ เพราะการแสดงเป็นสิ่งที่ชอบอยู่แล้ว ทำแล้วสนุก ทำแล้วมีความสุข ส่วนเรื่องเรียนก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่สามารถทิ้งได้เช่นกัน และจากความมุ่งมั่นจากวันนั้นมาถึงวันนี้คงเป็นเครื่องพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่า เธอสามารถทำได้อย่างที่ตั้งใจไว้จริงๆ โดยเธอแอบกระซิบเคล็ด(ไม่)ลับให้ฟังว่า ต้องแบ่งเวลาอย่างจริงจัง ปรับโหมดเหมือนกับลิ้นชัก พอเปิดลิ้นชักนี้ก็จะปิดลิ้นชักนั้นก่อน เช่นเดียวกับเวลาเรียนก็จะจริงจังกับการเรียน ส่วนเวลาทำงานบันเทิงก็จะพับเรื่องเรียนไว้ก่อน
ออกงานบันเทิงก็จะสวยประมาณนี้
"การที่จะทำสองอย่างควบคู่กันไปต้องบอกเลยว่าค่อนข้างหนักมาก แต่ก็พยายามทำให้ได้ดี เพราะทั้ง 2 อย่างเป็นงานที่เรารัก และเมื่อตั้งใจจะทำให้ดีแล้วก็ต้องพยายามมากกว่าคนอื่น อย่างเรื่องการเรียนทุกครั้งเกรซจะไม่ก้มหน้าจดที่อาจารย์สอน แต่จะตั้งใจฟังให้เข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจหรือมีคำถามจะยกมือถามอาจารย์ทันที ต้องทำให้เข้าใจตอนนั้นให้ได้ เพราะถ้าไม่เข้าใจอาจจะทำให้หลุดไปเลย และที่สำคัญคือเมื่อกลับถึงบ้านแล้วจะรีบทบทวนบทเรียนนั้นทันที ไม่สะสมไว้ตอนใกล้สอบทีเดียว เพราะเราเองต้องทำหลายอย่าง ถ้าคิดว่าจะอ่านหนังสือตอนใกล้สอบอย่างเดียวไม่ทันแน่ๆ ต้องอ่านไปเรื่อยๆ ส่วนใกล้สอบเป็นเวลาที่เราจะมาทบทวนอีกครั้ง" ดาราสาวแนะเทคนิคการเรียนตามแบบฉบับของเธอ
ถึงวันนี้คงต้องกล่าวแสดงความยินดีพร้อมปรบมือดังๆ ให้แก่เธอคนนี้อีกครั้ง เพราะทันทีที่เรียนจบเธอก็ได้เริ่มทำงานในสายงานที่ร่ำเรียนมาทันที ในตำแหน่ง โปรเจกต์ เอนจิเนียร์ ในแผนกวิจัยและพัฒนา บริษัท ซี.ไอ.กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ย่านบางคูวัด ซึ่งครั้งนี้ก็มุ่งมั่นตั้งใจว่าจะทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุดเช่นเดียวกับที่ผ่านมา และเมื่อถามว่า ก้าวมายืน ณ จุดนี้ถือว่าประสบความสำเร็จหรือยัง เธอยอมรับว่า ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งที่น่าพอใจ ทั้งนี้หลายคนมองว่าเธอโชคดี แต่ที่จริงแล้วเป็นสิ่งที่เธอเลือกจะทำ และเลือกที่จะเป็นด้วยการสนับสนุนของคนรอบข้าง ไม่ได้เป็นความโชคดีอย่างที่หลายคนบอก
"เกรซเพิ่งเริ่มทำงานเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมานี่เอง ตอนนี้กำลังสนุกกับงานมากๆ แต่ก็ยังต้องเรียนรู้อีกมาก อยากทำงานนี้ให้ดีที่สุด อยากเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ความสามารถด้านนี้อย่างจริงจัง ที่ผ่านมาเรียนมาตลอดก็จริงแต่พอลงมือทำจริงก็มีอะไรที่ต้องเรียนรู้อีกเยอะมากๆ แต่คิดว่าจะผ่านมันไปได้เหมือนกับทุกๆ ครั้ง เกรซเชื่อว่าถ้าเราตั้งใจจะทำอะไรจริงจังเราต้องทำได้ เกรซถือคติว่า ทำวันนี้ให้ดีที่สุด ซึ่งเกรซก็ทำอย่างนั้นมาตลอด มาถึงวันนี้เราสามารถดูแลตัวเองได้ ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน และทำหน้าที่ของเราให้ดีในทุกๆ บทบาทก็เป็นสิ่งที่ภาคภูมิใจในชีวิตแล้ว" ดาราสาวกล่าวทิ้งท้าย