แวะที่ลำพูนชมความอลังการ"ฟาแลนนอปซิส" | คมชัดลึก

ที่ อ.ไชยปราการ เมื่อวันวานกันแล้ว เราเตรียมสัมภาระขึ้นรถฝ่าลมหนาวมุ่งหน้าสู่ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดลำพูน (พันธุ์พืชเพาะเลี้ยง) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณป่าสงวนแห่งชาติแม่ธิ-แม่ตีบ-แม่สาร ต.ศรีบัวบาน อ.เมือง จ.ลำพูน ห่างจากจังหวัดลำพูนราว 18 กิโลเมตร เพื่อไปชมความอลังการของสวนกล้วยไม้พันธุ์ฟาแลนนอปซิส ในโครงการวิจัยพัฒนาการผลิตกล้วยไม้เชิงอุตสาหกรรมในพระดำริของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี

 ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดลำพูน (พันธุ์พืชเพาะเลี้ยง) เป็นส่วนหนึ่งของสำนักส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 6 จ.เชียงใหม่ ขึ้นกับกรมส่งเสริมการเกษตร เนื้อที่ 471 ไร่ บนเนินเขาสูงจากระดับพื้นน้ำทะเลปานกลางราว 400 เมตร ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2541 เดิมชื่อศูนย์พันธุ์พืชเพาะเลี้ยงจังหวัดลำพูน โดยมีสำนักงานชั่วคราวที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีจังหวัดลำพูน และย้ายมาอยู่ที่ปัจจุบันเมื่อปี 2544 ในพื้นที่ 471 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่พันธุ์แปลงพืช 180 ไร่, พื้นที่โรงเรือนอนุบาลพันธุ์พืช 50 ไร่, พื้นที่ป่าไม้ 220 ไร่ ที่เหลืออีก 21 ไร่ เป็นสถานที่ก่อสร้างอาคารต่างๆ

 ปัจจุบัน ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรลำพูน เปิดฝึกอบรมอาชีพการเกษตรเฉพาะด้านให้แก่ผู้ที่สนใจในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือ คือ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน พะเยา เชียงราย และแม่ฮ่องสอน อย่างในปี 2552 มี 4 หลักสูตร แบ่งเป็น 5 รุ่น รวม 320 ราย เน้นผู้ที่สมัครเข้ารับการอบรมจะต้องเป็นเกษตรกร หรือบุคคลทั่วไปที่สนใจนำความรู้ที่ได้รับไปปฏิบัติจริงด้วย

 การเข้าชมศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรลำพูนนั้น สิ่งที่น่าสนใจ คุณสุจินต์ สุขวิวัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดลำพูน แนะนำคือ กระบวนการผลิตกล้วยไม้พันธุ์ฟาแลนนอปซิสกว่า 130 สายพันธุ์ จำนวนนับแสนๆ ต้น ในโครงการวิจัยพัฒนาการผลิตกล้วยไม้เชิงอุตสาหกรรมในพระดำริของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ในจำนวนนี้มีกล้วยไม้พันธุ์ฟาแลนนอปซิสที่เป็นพันธุ์จากต่างประเทศ 64 สายพันธุ์ และผสมหรือพัฒนาสายพันธุ์มาเองกว่า 30 สายพันธุ์ มีกว่า 7.2 หมื่นต้น

 ฉะนั้นหลังจากได้ฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกิจกรรมภายในศูนย์ แล้วจะเข้าไปชมกระบวนการผลิตกล้วยไม้พันธุ์ฟาแลนนอปซิสตั้งแต่การเพาะเนื้อเยื่อในห้องแล็บ การอนุบาล และการเลี้ยงในโรงเรือนที่กำลังชูดอกงามรอรับคณะผู้มาเยือน และกระบวนการจัดเก็บและส่งตลาด นอกจากนี้จะเข้าชมแปลงดอกหน้าวัว ซึ่งบานสะพรั่งชูดอกสีแดงในโรงเรือนอันกว้างใหญ่

 ที่จริงในศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดลำพูนนั้น ได้รวบรวมพืชพันธุ์ดีเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ให้แก่เกษตรกรมากมายที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นแปลงไผ่ซางหวาน ไผ่หม่าจู ไผ่ตงศรีปราจีน ไผ่ตงไต้หวัน กล้วยน้ำว้า กล้วยหอมทอง ลำไย ลิ้นจี่ มะม่วง มะละกอ วนิลลา ผักพื้นบ้าน สตรอเบอร์รี่ และไม้ดอกไม้ประดับ รวมถึงพืชเศรษฐกิจ พืชพลังงาน อาทิ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน สบู่ดำ แต่จะเลือกเข้าชมเฉพาะพืชที่ศูนย์พัฒนาสายพันธุ์ที่เป็นผลงานเด่น เช่น หน้าวัว กล้วยไม้ฟาแลนอปซิส นอกจากจะไปดูจุดสุดท้ายหากมีเวลาคือ แปลงไผ่หม่าจู เป็นต้น

 เนื่องเพราะเห็นว่าไผ่หม่าจูเป็นไผ่ทางเลือกของเกษตรกรอีกชนิดหนึ่งที่ผู้ปลูกสร้างรายได้เป็นอย่าง ถือเป็นพืชเศรษฐกิจของไต้หวัน ที่มีคุณสมบัติที่ดีเด่นหลายประการ ที่สำคัญทุกส่วนของไผ่หม่าจูสามารถใช้ประโยชน์ได้แทบทุกส่วนคือ หน่อ มีรสหวาน เนื้อละเอียด ไม่มีเสี้ยน มีลำของหน่อขนาดใหญ่ มีเส้นผ่าศูนย์กลางราว 8-12 ซม. ลำต้นสูง 15-25 เมตร ไม่มีขนกาบห่อหุ้มลำต้น มีลำต้นขนาดใหญ่และเหนียวเหมาะกับการใช้ประโยชน์ในด้านการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ ที่สำคัญหากมีน้ำเพียงพอไผ่หม่าจูจะออกหน่อได้ตลอดทั้งปี ในก่อหนึ่งจะมีต้นไผ่ขึ้นถึง 20 ต้น

 ก่อนเที่ยงเราอำลา ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรลำพูน และเดินทางเข้ากรุงเทพฯ แวะรับประทานอาหารเที่ยงและแวะซื้อของที่ลำปาง ประมาณการจะถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพในเวลา 21.30 น.ของวันที่ 12 ธันวาคม 2552

 สนใจร่วมเดินทางไปกับโครงการเกษตรทัศนศึกษา หรือท่องโลกเกษตรกับ "คม ชัด ลึก" เพื่อตากลมหนาวบนดอยอ่างขาง ระหว่างวันที่ 10-12 ธันวาคม 2552 นี้ 3 วัน 2 คืน พร้อมอาหาร 9 มื้อ สอบถามได้ที่โทร.0-2338-3356-7 ค่าลงทะเบียน 6,848 บาท ฟรีสมาชิก "คม ชัด ลึก" 1 เดือน   

ดลมนัส  กาเจ 
        ...........................