
วีโก้ 2.5 VN Turboแรงได้ประหยัดดี
โตโยต้า แนะนำ ไฮลักซ์ วีโก้ 2.5 VN Turbo มาสักพัก ซึ่งในไลน์การประกอบรถใหม่อัพเดทสุดของโตโยต้า ประกอบไปด้วย ตัวดับเบิลแค็บ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคา 781,000 บาท รุ่นดับเบิลแค็บ พรีรันเนอร์ 755,000 บาท รุ่นสมาร์ทแค็บ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคา 706,000 บาท และรุ
เมื่อเร็วๆ นี้ ผมได้สัมผัสกับตัวท็อปของวีเอ็นใหม่ คือ ตัวดับเบิลแค็บ ขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับการเดินทางไกล ระดับ 400 กิโลเมตรในครึ่งวัน
ก่อนอื่นต้องบอกว่า พื้นฐานของรถวีโก้ ค่อนข้างสมบูรณ์ในแง่ของขนาด น้ำหนัก หน้าตา และการใช้งาน ภายในห้องโดยสารเป็นสีครีม นุ่มนวล แผงหน้าปัดและมาตรวัดระยะทางแบบดิจิทัล พื้นที่ช่องเก็บของอเนกประสงค์ มาพร้อมกับช่องเก็บของด้านบนและล่าง-ข้างแผงประตูและแค็บ-ที่วางแก้วน้ำตรงคอนโซลหน้าและด้านหลัง
เครื่องเสียงเป็นแบบ 4 ลำโพง 2 Din 1CD รองรับ MP 3 และ WMA กระจกหน้าต่างไฟฟ้าปรับขึ้น-ลงอัตโนมัติ พร้อมระบบ jam-protection
กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อน ช่วยเหลือในการมอง มีวิสัยทัศน์ชัดเจน ยิ่งขึ้น กระจกมองข้างแบบปรับอัตโนมัติ... (electrical retraction) ปรับและพับเก็บด้วยระบบไฟฟ้า ระบบปรับอากาศ พร้อมสวิตช์ควบคุมแบบหมุน ไฟส่องแผนที่พร้อมที่เก็บแว่นกันแดด สะดวกสบายต่อการหยิบใช้กุญแจรีโมทพร้อมระบบหน่วงการโจรกรรม TDS (Theft Deterrent System)
ที่สำคัญคือมีการอัพเกรดเครื่องยนต์ เป็นการลบจุดอ่อนของรถเดิมเครื่องยนต์ตัวใหม่นี้มีจุดเด่นสำคัญคือ การเป็นดีเซลคอมมอนเรล ไดเร็กอินเจ็กชั่น 16 วาล์ว ที่มีระบบเทอร์โบแปรผันอินเตอร์คูลเลอร์เพิ่มขึ้น ทำให้ได้แรงม้าสูงสุด 144 แรงม้า ที่ 3,400
ระบบเทอร์โบแปรผัน (Variable Nozzle Turbo) ซึ่งตัวครีบของเทอร์โบจะปรับเปลี่ยนองศาการเปิด/ปิดได้ ควบคุมการทำงานด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ECU 32 บิต ช่วยให้กังหันลมของเทอร์โบชาร์เจอร์สามารถปั๊มอากาศส่งไปยังเครื่องยนต์ได้ตลอดเวลา แก้ปัญหากำลังเครื่องยนต์หายในช่วงรอบต่ำ ทำให้การวิ่งไหลลื่นขึ้น
เมื่อมันทำงานร่วมกับ ปั๊มน้ำมันแรงดันสูง (higher pressure supply pump) และ ระบบ อินเตอร์คูลเลอร์ (I/C) ถือว่าได้ประสิทธิภาพมากทีเดียว ซึ่งนอกเหนือจากกำลังต่อเนื่องแล้วความประหยัดเป็นอีกส่วนหนึ่งที่เกิดขึ้นจากการทำงานที่สมบูรณ์ของเครื่องยนต์
ผมใช้ วีโก้ 2.5 VN Turbo ไปตามเส้นทาง กรุงเทพฯ พนมสารคาม ทับลาน และวกกลับมาที่เขาแผงม้า จนถึงเขาใหญ่ ผ่านเส้นผ่านศึก กลับเข้ามิตรภาพ เรียกว่าได้ใช้ประสิทธภาพของรถ ทั้งอัตราเร่ง เบรก ซึ่งเป็นดิสก์เบรกหน้าพร้อมครีบระบายความร้อน/ดรัมเบรกช่วงล่างที่ด้านหน้า ด้านหน้าเป็นแบบอิสระ ปีกนกคู่ดับเบิลวิชโบนและคอยล์สปริง
ระบบกันสะเทือนหลังแบบแหนบ
เนื่องจากเส้นทางขับมีความหลากหลาย โดยเฉพาะทางโค้งและชัน หรือบางช่วงมีทางตรงยาวๆ ทำความเร็วได้ นอกจากนี้ในเส้นทาง ยังได้มีโอกาสแวะไปสัมผัสทางออฟโรด ยืดเส้นยืดสายให้เจ้ายักษ์ใหญ่สีฟ้าเข้ม หลังจากใช้งานเกิน 400 กม. สรุปว่าในด้านของการใช้งานที่ย่านความเร็วต่ำและปานกลาง เป็นย่านที่ดีเยี่ยม ส่วนการใช้รถมีโหลด แบบเต็มๆ อาจจะทำให้ต้องใช้จังหวะเพื่อเร่งแซงบ้าง วีโก้ 2.5 VN Turbo จัดว่า ทำมาพอดีๆ ไม่มากหรือน้อยเกินไปในแง่ของคนที่ต้องการความแรงด้วยและประหยัดด้วย