
คืนดวงใจให้แม่
ช่วยกันตามหาเด็กที่หายออกจากบ้านให้กลับคืนสู่อ้อมอกพ่อแม่และครอบครัวอีกครั้ง
ปัญหาเด็กหายออกจากบ้านเป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญที่นับว่าใหญ่และเป็นเรื่องใกล้ตัว จากสถิติที่ผ่านมาประเทศไทยมีคนหายกว่า 400 คนต่อปี โดยสาเหตุและปัจจัยหลักเกิดจากปัญหาครอบครัว ถูกล่อลวง หรือตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ ซึ่งนับเป็นเรื่องที่สร้างความทุกข์ทรมานใจแก่พ่อแม่อย่างยิ่ง ในโอกาสวันแม่ปีนี้ น้ำดื่มสิงห์ จึงร่วมมือกับ มูลนิธิกระจกเงา จัดทำโครงการ “คืนดวงใจให้แม่” เพื่อช่วยตามหาเด็กที่หายออกจากบ้านให้กลับคืนสู่อ้อมอกพ่อแม่และครอบครัวอีกครั้ง โดยจัดแถลงข่าวที่หอประชุม บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด เมื่อบ่ายวันก่อน
ภูริต ภิรมย์ภักดี
ภูริต ภิรมย์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า เข้าใจถึงความรู้สึกของคนเป็นพ่อเป็นแม่ของน้องๆ ที่หายไปว่าทุกข์ทรมานขนาดไหน เพราะปัญหานี้เคยเกิดขึ้นกับตัวเองมาก่อน คือไปเดินห้างฯ แล้วหาลูกไม่เจอ เพียงแค่ 5 นาทีแต่สำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่นั้นยาวนานมาก รู้สึกเหมือนหัวใจหายไป ทำให้เข้าใจปัญหานี้เป็นอย่างดี ทุกครั้งที่ได้ยินเรื่องนี้จะถามตัวเองว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง และวันหนึ่งคิดได้ว่าน่าจะใช้ฉลากน้ำดื่มสิงห์เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการช่วยติดตาม จึงได้ติดต่อไปทางมูลนิธิกระจกเงา และเกิดเป็นโครงการนี้ขึ้น และเชื่อว่าพื้นที่เล็กๆ บนขวดน้ำสิงห์นี้จะสามารถช่วยให้พบกับคนที่ตามหา
เอกลักษณ์ หลุ่มชมแข
ด้าน เอกลักษณ์ หลุ่มชมแข ประธานมูลนิธิกระจกเงา เผยว่า ปัจจุบันได้รับแจ้งทุกวัน ใน 1 วันจะมีเด็กอย่างน้อย 1 คนหายจากบ้าน ซึ่งหลายเคสที่ตามเจอเกิดจากคนในสังคมไม่นิ่งเฉยต่อเหตุการณ์ และช่วยกันแจ้งเบาะแสเมื่อพบสิ่งผิดปกติ ซึ่งโครงการที่สิงห์ทำในวันนี้เชื่อว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้องค์กรอื่นๆ ตระหนักถึงภัยใกล้ตัวนี้ และหันมาช่วยเหลือกันมากขึ้น และหวังว่าวันหนึ่งจะสามารถพาเด็กกลับมาได้ ซึ่งเด็กทั้ง 5 คนที่มูลนิธิเลือกมานี้ถือเป็นเคสที่ค่อนข้างยาก เพราะที่ผ่านมาใช้สื่อหลายประเภทในการตามหาแล้วแต่ยังไม่พบ ดังนั้นการใช้สื่อที่สามารถเข้าถึงคนหมู่มากและใกล้ชิดกับผู้บริโภคโดยตรงจึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญในการเพิ่มโอกาสตามหาเด็กให้เจอ
ภาพเด็กทั้ง 5 คนบนสลากน้ำสิงห์
สำหรับเด็กทั้ง 5 คน ที่มูลนิธิกระจกเงาเลือกนำมาพิมพ์บนฉลากพิเศษติดบนขวดน้ำดื่มสิงห์ขนาด 600 และ 750 มิลลิลิตร กว่า 20 ล้านขวด ได้แก่ “น้องเท็น” ชัยภาส ด้านเกื้อกูล หายไปขณะอายุ 11 ปี ปัจจุบันอายุ 24 ปี, “น้องโอ๊ต” นฤดล เยื้อนหนูวงศ์ หายไปขณะอายุ 8 ปี ปัจจุบันอายุ 25 ปี, “น้องจีจี้” จีรภัทร ทองชุม หายไปขณะอายุ 9 ปี ปัจจุบันอายุ 17 ปี, “น้องพลอย” เบญรัตน์ วงษ์ประจันต์ หายไปขณะอายุ 4 ปี ปัจจุบันอายุ 17 ปี และ “น้องเจต” เดชาวัต ยาต่อ หายไปขณะอายุ 12 ปี ปัจจุบันอายุ 17 ปี
แม่ของน้องๆ ร่วมแชร์ประสบการณ์
มณฑา ศิริทัย
ภายในงานแถลงข่าวยังได้เชิญคุญแม่ของน้องๆ เหล่านี้มาร่วมแชร์ประสบการณ์เพื่อเป็นอุทาหรณ์ โดย มณฑา ศิริทัย วัย 36 ปี คุณแม่ของ “น้องพลอย” เบญรัตน์ เล่าว่า ลูกสาวหายไปช่วงเย็นขณะที่ตัวเองกำลังยุ่งกับการขายของภายในตลาดนัด และปล่อยให้ลูกสาววิ่งเล่นกับเพื่อนๆ กระทั่งเพื่อนของลูกสาวมาถามหาว่าน้องพลอยหายไปไหน ตอนนั้นเริ่มใจไม่ดีและออกตามหาทันทีแต่ก็ไม่พบ จึงขอความช่วยเหลือจากหลายหน่วยงานรวมทั้งมูลนิธิกระจกเงาเข้ามาช่วย ทั้งออกรายการทีวี ออกข่าว และทุกช่องทางที่สามารถทำได้ ถึงแม้วันนี้จะผ่านมาถึง 13 ปีแล้วแต่ก็ยังพยายามตามหาต่อไป ยังมีความหวังจนกว่าจะหมดลมหายใจ