ไลฟ์สไตล์

หมอบรรลุ-ประทินไปตรวจไทยเข้มแข็งราชบุรี

หมอบรรลุ-ประทินไปตรวจไทยเข้มแข็งราชบุรี

17 พ.ย. 2552

“หมอบรรลุ-ประทิน” ลงพื้นที่ราชบุรีตรวจโครงการไทยเข้มแข็ง หลังพบงบเทลงพื้นที่ผิดปกติ เฉพาะ รพ.ราชบุรี 800 ล้านบาท เผยพบพิรุธมีการดันก่อสร้างศูนย์โรคหัวใจและมะเร็ง 360 ล้านบาทก่อน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าเสนอขยายอาคารผู้ป่วยนอกและอาคารจอดรถ ขณะที่ “มานิต” รุด รพ.

 ที่โรงพยาบาลราชบุรี เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 พ.ย. นพ.บรรลุ ศิริพานิช ประธานคณะกรรมการกลางตรวจสอบโครงการไทยเข้มแข็ง กระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ รองประธาน และคณะกรรมการ ได้เดินทางมายังโรงพยาบาลราชบุรีเพื่อตรวจสอบปัญหาการจัดสรรงบประมาณในการก่อสร้างอาคาร ตามโครงการไทยเข้มแข็ง เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าได้รับการจัดสรรงบประมาณถึง 760 ล้านบาท ทั้งๆ ที่เป็นจังหวัดที่มีโรงพยาบาลศูนย์ 1 แห่ง และโรงพยาบาลทั่วไป 3 แห่ง โดยมี นพ.บุญเรียง ชูชัยแสงรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดราชบุรี และ นพ.จินดา แอกทอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจังหวัดราชบุรี เป็นผู้ชี้แจง

 นพ.บรรลุ กล่าวว่า สาเหตุที่ทางคณะกรรมการฯ มาที่โรงพยาบาลราชบุรีนี้ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องขอก่อสร้างอาคาร ซึ่งเดิมได้เคยเสนอขอก่อสร้างอาคาร คือ 1.อาคาร 5 ชั้น เพื่อขยายรองรับผู้ป่วยนอกและรับผู้ป่วยอุบัติ 2.อาคารจอดรถ 7 ชั้น 3.อาคารรักษาผู้ป่วยเฉพาะทางเพื่อเป็นศูนย์หัวใจและมะเร็ง และ 4.อาคารสงฆ์อาพาต แต่ต่อมาได้มีการปรับเปลี่ยน โดยเสนอให้มีการก่อสร้างอาคารรักษาผู้ป่วยเฉพาะทางและอาคารจอดรถ 7 ชั้นก่อน แล้วจึงก่อสร้างอาคารเพื่อขยายการรองรับผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยอุบัติเหตุ และอาคารสงฆ์อาพาต ซึ่งการเสนอขอเปลี่ยนแปลงเท่าที่ตรวจสอบการยังไม่มีลายเซ็นของผู้ว่าราชการจังหวัด อีกทั้งเท่าที่ดูโรงพยาบาล เห็นว่า การเสนอขอในครั้งแรกมีเหตุมีผลมากกว่า เนื่องจากผู้ป่วยนอกแน่มาก แต่ทำไมจึงให้ก่อสร้างอาคารผู้ป่วยเฉพาะทางก่อน

 นพ.บรรลุ กล่าวว่า ส่วนอาคารสงฆ์อาพาตนั้น มีการเสนอขยายจากเดิม 24 เตียง เป็น 114 เตียง ซึ่งการก่อสร้างต้องทุบอาคารสงฆ์เดิมและอาคารรักษาผู้ป่วยจิตเวช แต่จากตรวจเยี่ยมอาคารสงฆ์พบว่า มีพระสงฆ์ที่นอนรักษาเพียงแค่ 16 เตียงเท่านั้น ดังนั้นการขยายอาคารสงฆ์เป็นสิ่งที่สมควรหรือไม่

 “วันนี้คณะกรรมการฯ ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ส่วนการก่อสร้างจะเหมาะสมหรือไม่นั้น คงต้องนำข้อมูลดังกล่าวหารือในคณะกรรมการฯ อีกครั้งก่อน รวมทั้งการสลับก่อสร้างอาคารโดยเฉพาะการเร่งก่อสร้างอาคารรักษาผู้ป่วยเฉพาะโรค ทั้งๆ ที่ผู้ป่วยนอกแน่นมาก” นพ.บรรลุ กล่าว

 ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการลงพื้นที่ตรวจสอบในจังหวัดอื่นๆ เพิ่มเติมหรือไม่ นพ.บรรลุ กล่าวว่า หากให้ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการไทยเข้มแข็งทั้ง 76 จังหวัดคงเป็นไปไม่ได้ การลงพื้นที่จึงดูเฉพาะบางจังหวัดที่มีงบประมาณลงไปมากเมื่อเปรียบเทียบกับอัตราประชากร ซึ่งจังหวัดราชบุรีเป็นพื้นที่ได้รับงบสูงมาก แค่โรงพยาบาลราชบุรีได้งบประมาณสูงถึง 800 ล้านบาท อีกทั้งยังมีความสับสนในการเสนอก่อสร้างด้วย

 ส่วนที่นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข เดินทางมาเพื่อพบคณะกรรมการฯ ที่โรงพยาบาลราชบุรีนั้น นพ.บรรลุ กล่าวว่า การจะเชิญนายมานิตมาหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับประเด็น หากคณะกรรมการฯ มีข้อมูลการสอบถึงใครก็จะเรียกมา แต่ถ้าไม่ถึงก็ไม่เชิญมา ทั้งนี้ตนไม่ทราบที่นายมานิตเดินทางมาเพื่อเข้าพบและตนไม่ได้เชิญมา ส่วนที่มีชาวบ้านจังหวัดราชบุรีมายื่นหนังสือนั้น อยากเรียนว่า คณะกรรมการฯ มาแค่ดูข้อเท็จจริงเท่านั้น คงกดดันคณะกรรมการฯ ไม่ได้  อย่างไรก็ตามขอเรียนว่า ขณะนี้การพิจารณาของทางคณะกรรมการฯ คืบหน้าไปกว่า 80% แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ที่คณะกรรมการเคยระบุว่า จะใช้เวลา 1 เดือนในการตรวจสอบ ซึ่งจะครบในวันที่ 20 พ.ย.นี้ เป็นแค่การคาดการณ์เท่านั้น ซึ่งการพิจารณาของทางคณะกรรมการฯ ยืนยันว่าใกล้จะแล้วเสร็จแล้ว

 ด้าน พล.ต.อ.ประทิน  กล่าวว่า จากเอกสารพบว่า เมื่อวันที่ 13 พ.ค. ที่ผ่านมา ทาง สสจ.ราชบุรี ได้ทำหนังสือถึงอดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอปรับเปลี่ยนการก่อสร้างจากอาคารผู้ป่วยนอก อาคารจอดรถ รวมงบประมาณ 250 ล้านบาท เป็นอาคารศูนย์หัวใจและมะเร็ง 360 ล้านบาท และเมื่อสอบถามข้อมูลนี้จากผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชบุรีบอกว่า ยังไม่เห็นเอกสารฉบับดังกล่าว โดยเอกสารดังกล่าวลงนาม รักษาการ สสจ.ราชบุรี ขณะนั้น และจากการตรวจสอบเอกสารเสนอขอก่อสร้างจากโรงพยาบาล ไม่พบหนังสือขอก่อสร้างอาคารศูนย์หัวใจและมะเร็ง มีเพียงแค่หนังสือขอก่อสร้างอาคารผู้ป่วยนอก 5 ชั้น และอาคารจอดรถ 7 ชั้นเท่านั้น จึงต้องตรวจสอบว่ามาได้อย่างไร

 “โรงพยาบาลราชบุรีขอก่อสร้างอาคาร 5 ชั้นเพื่อขยายรองรับผู้ป่วยนอก ซึ่งถือเป็นเรื่องจำเป็น กลับไม่ได้ แต่กระทรวงกลับอนุมัติก่อสร้างอาคารผู้ป่วยเฉพาะทางให้แทน จึงต้องสอบข้อเท็จจริงจุดนี้” พล.ต.อ.ประทิน กล่าว

 ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 11.00 น. นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข ได้เดินทางมายังโรงพยาบาลราชบุรีภายหลังจากรับทราบว่า ทางคณะกรรมการกลางชุด นพ.บรรลุ ลงมาตรวจสอบการจัดสรรงบประมาณในพื้นที่ราชบุรี และกล่าวว่า การเดินทางมาในวันนี้ไม่ได้มากดดันคณะกรรมการ แต่มาเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจเพื่ออธิบายรายละเอียดการของบประมาณในพื้นที่นี้ในฐานะ สส.ราชบุรี ที่บังเอิญได้เป็น รมช.สาธารณสุข และเผื่อว่าคณะกรรมการฯ มีอะไรที่จะสอบถามตน โดยไม่ได้แจ้งให้คณะกรรมการทราบล่วงหน้าถึงการเดินทางมาในครั้งนี้ แต่เมื่อมีการตั้งข้อสังเกตว่า การเข้าพบคณะกรรมการฯ ครั้งนี้จะเป็นการกดดันการตรวจสอบหรือไม่ ตนก็ขอเดินทางกลับและไม่เข้าพบเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นในภายหลัง แต่ทั้งนี้หากคณะกรรมการฯ เรียกตนเข้าชี้แจงก็พร้อมที่จะเข้าให้ข้อมูลทันทีด้วยความสมัครใจ

 นายมานิต กล่าวว่า สำหรับโรงพยาบาลจังหวัดราชบุรีเป็นโรงพยาบาลที่มีการก่อสร้างมานาน อาคารต่างๆ มีอายุการใช้งาน 20-30 ปีแล้ว จำเป็นต้องมีการปรับปรุง ประกอบกับยังโรงพยาบาลศูนย์รองรับการส่งต่อผู้ป่วยจากจังหวัดพื้นที่ใกล้เคียง ทำให้มีผู้ป่วยเข้าใช้บริการจำนวนมากจนแออัด ทั้งนี้ที่โรงพยาบาลราชบุรีของบประมาณก่อสร้างตามโครงการไทยเข้มแข็ง คือ 1.ศูนย์หัวใจและมะเร็ง 10 ชั้น งบประมาณ 360 ล้านบาท 2.อาคารจอดรถยนต์ 7 ชั้น งบประมาณ 63 ล้านบาท 3.อาคารผู้ป่วย 114 เตียง 5 ชั้น งบประมาณ 75 ล้านบาท 4.อาคารผู้ป่วยนอกและอุบัติเหตุ 5 ชั้น งบประมาณ 190 ล้านบาท และ 5.หอพักพยาบาล งบประมาณ 32 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 720 ล้านบาท

 นายมานิต กล่าวว่า อาคารสงฆ์ที่เสนอขยายนั้น เนื่องจากทางรองเจ้าคณะจังหวัด หลวงพ่อวัดเขาวังได้ขอให้ปรับปรุง เนื่องจากอาคารปัจจุบันทรุดโทรม และมีน้ำรั่วไหลในช่วยที่ฝนตก ซึ่งพระสงฆ์ที่เข้ารักษาไม่ได้มีแต่เฉพาะพระที่ จ.ราชบุรีเท่านั้น แต่เป็นพระสงฆ์ในจังหวัดใกล้เคียงทั้งหมด โดยในช่วงที่มีพระสงฆ์อาพาตบางครั้งต้องออกมานอนภายนอก ส่วนหอพักพยาบาลนั้นก็จำเป็น เนื่องจากปัจจุบันเป็นทางโรงพยาบาลต้องเช่าพื้นที่ภายนอกให้พยาบาลพัก ซึ่งไม่สะดวก แถมบางครั้งมีเหตุฉุกเฉินก็เดินทางมาลำบาก

 “ไม่ใช่ผมเป็น รมช.สาธารณสุข จึงมาผลักดันการก่อสร้างและบอกให้ทำแบบนี้ แต่การก่อสร้างต่างๆ เป็นแผนที่ทางโรงพยาบาลเตรียมดำเนินการอยู่แล้ว อีกทั้งราคาการก่อสร้างต่างๆ ยังเป็นราคากลาง ซึ่งทุกอย่างตรวจสอบได้ โดย สสจ.ราชบุรีได้เสนอตามขั้นตอน และงบประมาณที่ลงมาพื้นที่ จ.ราชบุรี ก็ไม่ได้ลงเฉพาะโรงพยาบาลราชบุรีเท่านั้น แต่ลงไปที่โรงพยาบาลโพธาราม โรงพยาบาลบ้านโป่ง” นายมานิต กล่าว และว่า แต่ทางมีการทบทวนแล้ว โดยตัดงบประมาณลง ก็แล้วแต่คณะกรรมการชุดทบทวนจะพิจารณา

 ต่อข้อซักถามว่า มีความเห็นอย่างไรที่พื้นที่ จ. รัฐมนตรี มีการจับตาการให้งบประมาณในโครงการเป็นพิเศษ นายมานิต กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องปกติที่ต้องถูกจับตา แต่ทั้งนี้งบโครงการไม่ได้ลงเฉพาะจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง แต่ลงในทุกจังหวัด