
"โรคหลังแข็ง"
โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด (Ankylosing Spondylitis) หรือ "โรคหลังแข็ง" เป็นโรคที่พบได้บ่อยพอสมควร ประมาณว่าคน 100 คน จะเป็นโรคหลังแข็ง 1 คน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งมักจะเป็นคนอายุประมาณ 15-40 ปี นอกจากจะทำให้เกิดอาการปวดข้อ ปวดหลัง มีข้ออักเสบเรื้อรัง เป็นๆ หายๆ ถ้าไม่ได้รับการรักษา และปฏิบัติตัวให้ถูกต้อง ผู้ป่วยโรคนี้มักจะมีกระดูกสันหลังเชื่อมติดกัน ทำให้ก้มตัว ก้มหลังไม่ได้ หลังยังงองุ้มเป็นลักษณะหลังค่อม หันคอไปทางซ้ายทางขวาก็ลำบาก
กลุ่มเสี่ยง
โรคหลังแข็งที่เกิดขึ้นในผู้ชายมักจะมีความรุนแรงของโรคมากกว่าผู้หญิง มักจะเกิดความผิดปกติของกระดูกสันหลังและกระดูกเชิงกรานมากกว่าผู้หญิง ผู้หญิงที่เป็นโรคหลังแข็งมักจะมีการอักเสบของข้อเข่า ข้อเท้า หรือข้อนิ้วมือนิ้วเท้ามากกว่า อาการปวดหลังนี้อาจจะมีตั้งแต่ปวดไม่มาก จนถึงปวดทรมานมากจนทำอะไรไม่ได้ บางรายปวดไม่มากก็ไม่ได้ไปรับการรักษาปล่อยไว้จนเกิดความพิการ หลังยึดติดแข็งไปหมด ขยับก้มไม่ได้แล้วค่อยไปหาหมอ ถึงตอนนั้นก็อาจจะสายเกินไป ไม่สามารถรักษาให้กลับเป็นสภาพเดิมได้
อาการปวดหลังโดยมากจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปช้าๆ จะเป็นลักษณะอาการปวดแบบตื้อๆ มักจะปวดบริเวณก้นกบหรือเอวส่วนล่าง อาการปวดจะเป็นมากในช่วงตื่นนอนตอนเช้า โดยจะรู้สึกปวดตึงหลังขยับไม่ได้สะดวก บางรายเป็นอยู่นานเป็นชั่วโมง แต่พอมีการเคลื่อนไหวไปเรื่อยๆ อาการปวดหลังจะดีขึ้น แต่พออยู่นิ่งๆ นั่งนานๆ จะกลับมาปวดอีก
อาการแทรกซ้อน
อาการปวดข้อหรือข้ออักเสบร่วมด้วย ข้อที่ปวดมักจะปวดบริเวณข้อสะโพกหรือข้อไหล่ ส่วนข้อที่อักเสบ ปวด บวม จะเป็นข้อเข่าหรือข้อเท้า ผู้ป่วยโรคหลังแข็งจะมีอาการปวดหรืออักเสบบริเวณจุดที่เส้นเอ็นไปเกาะกับกระดูก เช่น บริเวณเอ็นร้อยหวาย หรือเอ็นฝ่าเท้า หรือมีเส้นเอ็นบริเวณอื่นๆ ของร่างกายอักเสบได้บ่อย บางรายนิ้วมือหรือนิ้วเท้าบวมทั้งนิ้ว เป็นลักษณะคล้ายไส้กรอก (sausage finger)
จากการที่โรคหลังแข็งเป็นโรคหนึ่งที่เกิดจากภูมิคุ้มกันผิดปกติ ทำให้มีอาการในระบบอื่นได้ที่สำคัญคือ อาการทางตา อาจมีตาแดง ปวดตา เคืองตา ตาสู้แสงไม่ได้ จากเยื่อบุตาอักเสบ มักเป็นข้างเดียวมากกว่าสองข้าง โดยทั่วไปอาการทางตามักเกิดตามหลังอาการทางข้อ
สาเหตุของโรค
มีข้อมูลว่าโรคหลังแข็งจะเกิดในคนที่มีพันธุกรรมบางชนิดที่เรียกว่า HLA-B27 ทำให้มีแนวโน้มจะเป็นโรคนี้มากกว่าคนที่มีพันธุกรรมแบบอื่น แต่คนที่มีพันธุกรรมแบบ HLA-B27 นี้ซึ่งมีอยู่ประมาณร้อยละ 10 ของคนในโลกนี้ ในขณะนี้พบว่าน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อโรคบางชนิดที่ทำให้เกิดการอักเสบในลำไส้ ทำให้เกิดอาการท้องเดินท้องเสียหรือการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ทำให้มีท่อปัสสาวะหรือกระเพาะปัสสาวะอักเสบ แต่ในขณะที่เกิดโรคหลังแข็งขึ้น การติดเชื้อเหล่านี้จะได้รับการรักษาหรือหายไปแล้ว
คาดว่าการติดเชื้อเหล่านี้อาจจะไปเปลี่ยนแปลงระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันดูเหมือนจะจำเนื้อเยื่อบริเวณข้อหรือเยื่อหุ้มกระดูกสันหลังไม่ได้ จึงมองเห็นเป็นสิ่งแปลกปลอม ระบบภูมิคุ้มกันจึงมีปฏิกิริยาต่อต้าน ทำให้เกิดการอักเสบที่บริเวณเยื่อหุ้มกระดูกสันหลังและข้อ ทำให้เกิดอาการปวด และมีการทำลายเยื่อหุ้มข้อและกระดูกจนกลายเป็นความพิการ
โรงพบาบาลพญาไท โทร.1772