
ปันน้ำใจสู่โรงเรียนวัดคลองเตยชุมชนมากปัญหาแต่ไม่ไร้น้ำใจ
"หน้าที่หนึ่งของสื่อมวลชนก็คือการมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม" เป็นคำมั่นของผู้บริหารบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งตรงใจ พงษ์ศักดิ์ ศรีสด บรรณาธิการนสพ.คม ชัด ลึก และ กมลทิพย์ ใบเงิน บก.ข่าวการศึกษา สาธารณสุข วัฒนธรรม ดังนั้น ในโอกาสที่ "
ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา กองบก.คม ชัด ลึก ส่วนหนึ่งร่วมด้วยพันธมิตรที่มากด้วยน้ำใจที่ต้องการแบ่งปันอย่างศูนย์หนังสือจุฬาฯ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) มรภ.บ้านสมเด็จเจ้าพระยา จึงได้ร่วมกันจัดโครงการ “ปันน้ำใจ สู่โรงเรียนวัดคลองเตย” ร่วมกันมอบสิ่งของอุปกรณ์การศึกษา อุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา และปทานุกรมฉบับกระเป๋าสำหรับนักเรียน 70 เล่ม อุปกรณ์กีฬา มอบทุนการศึกษา และเลี้ยงอาหารกลางวันให้แก่นักเรียนจำนวน 400 คน
กมลทิพย์ ใบเงิน กล่าวว่า กิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อให้ประชาชน ตลอดจนองค์กร หรือบริษัท ได้มีส่วนร่วมคืนกำไรสู่สังคม ส่งมอบโอกาสทางการศึกษา แก่เด็กด้อยโอกาสในโรงเรียนที่ขาดแคลนอุปกรณ์เพื่อศึกษา "คม ชัด ลึก" จึงได้ประสานองค์กรต่างๆ ที่มีจิตศรัทธามาทำกิจกรรมร่วมกัน เพราะการเป็นสื่อมวลชนก็มีส่วนในการพัฒนาสังคม เป็นตัวกลางที่จะสื่อสารให้ผู้ที่มีกำลังทรัพย์แบ่งปันให้แก่ผู้ที่ด้อยโอกาสกว่าได้ และจะยึดมั่นในพันธกิจนี้อย่างต่อเนื่องตลอดไป
ด้าน ผศ.สมชาย รัศมี ผู้อำนวยการสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา (มบส.) กล่าวว่าการที่มบส.ได้ทำกิจกรรมช่วยเหลือสังคมร่วมกับองค์กรภาคเอกชน ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี ทำให้มองเห็นความด้อยโอกาสของเด็กที่มีวิถีชีวิตอยู่ในชุมชนคลองเตย อยู่ในครอบครัวที่พ่อแม่ต้องทำงานหาเช้ากินค่ำ ขาดคนดูแล เมื่อเด็กเลิกเรียนในช่วงเย็นก็เข้าไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยงนำไปสู่การมั่วสุมเกิดปัญหายาเสพติด การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร การตั้งครรภ์และมีลูกขณะที่ยังเป็นวัยรุ่น โดยเด็กส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีโอกาสเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา
“มหาวิทยาลัยราชภัฏที่มีภารกิจในการพัฒนาชุมชน ตั้งใจว่าจะร่วมมือกับองค์กรต่างๆ จัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่เด็กด้อยโอกาสทางการศึกษาในสังคมกรุงเทพฯ ให้ความช่วยเหลือด้านทุนการศึกษาให้แก่เด็กที่ต้องการเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย และร่วมมือในการทำกิจกรรมช่วยเหลือสังคมด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่องตลอดไป” ผศ.สมชาย กล่าว
ขณะที่ ทรงยศ สามกษัตริย์ รองผู้จัดการศูนย์หนังสือจุฬาฯ หนึ่งในพันธมิตร บอกว่าเป็นกิจกรรมที่ดีมาก และสอดคล้องกับปณิธานของศูนย์หนังสือจุฬาฯ ที่มุ่งสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้และคืนประโยชน์ให้แก่สังคม ครั้งนี้ได้นำหนังสือสำหรับเด็ก นิทาน หนังสือเสริมความรู้ในด้านต่างๆ มาร่วมแบ่งปันเข้าห้องสมุด รวมทั้งจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านและเสริมสร้างจินตนาการ เรื่อง “นิทานเล่าไป พับไป” สอนให้น้องๆ ประดิษฐ์กล่องของขวัญจากนิทาน นำกล่องของขวัญที่ประดิษฐ์นั้นกลับบ้านไปใช้ประโยชน์กันทุกคนอีกด้วย
"วิรัตน์ ตรงแก้ว" ผอ.ร.ร.วัดคลองเตย บอกว่า เด็กที่นี่ส่วนใหญ่มีฐานะยากจน จบ.ป.6 แล้วเรียนต่อ 90% แต่ไม่จบจะมีครอบครัว และส่งลูกมาเรียนต่อที่โรงเรียนแห่งนี้อีก แต่ถือว่าโชคดีที่โรงเรียนได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชน และองค์กรต่างๆ เนื่องจากตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีปัญหามากที่สุดในกทม. หรืออาจจะเป็นมากที่สุดในประเทศก็ว่าได้ ทั้งปัญหายาเสพติด ปัญหาเด็กวัยรุ่นท้องก่อนวัยอันควร และปัญหาสังคมต่างๆ เนื่องจากสภาพพื้นที่เป็นสลัม กิจกรรมครั้งนี้โรงเรียนได้ประโยชน์มาก โดยเฉพาะปทานุกรมฉบับกระเป๋า เพราะจะช่วยให้นักเรียนที่จบป.6 ออกไปมีทักษะทางวิชาการเรียนต่อในระดับชั้นที่สูงขึ้นได้
ทั้งนี้ พันธมิตรทั้ง 4 ให้คำมั่นว่าจะร่วมกันจัดกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันอีกในโอกาสต่อไป ส่วนโรงเรียนอีก 9 แห่ง จะทยอยดำเนินการในปี 2553 ได้แก่ 1.โรงเรียนบ้านดอยงาม จ.แม่ฮ่องสอน 2.โรงเรียนบ้านปลักปลา จ.นราธิวาส 3.โรงเรียนบ้านหินแตก จ.สกลนคร 4.โรงเรียนบ้านมะม่วง จ.ตราด 5.โรงเรียนวัดสุคันธาวาส (กมลนาวิน) จ.สมุทรปราการ 6.โรงเรียนตชด.บ้านเลผะสุคี จ.ตาก 7.ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขาแม่ฟ้าหลวง บ้านสาละวะ จ.กาญจนบุรี 8.ร.ร.สัมพันธ์วิทยา จ.นราธิวาส และ 9.ร.ร.เทศบาลวัดโกรกกราก จ.สมุทรสาคร
0 หทัยรัตน์ ดีประเสริฐ 0