
ยึดเกษตรพอเพียงเลี้ยงชีพ ทางชีวิต"บัณฑิต กูลพฤกษี"
ความสำเร็จในการใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นเครื่องนำทางในการดำเนินชีวิต ของอดีตแม่พิมพ์ของชาติและข้าราชการบำนาญอย่าง "บัณฑิต กูลพฤกษี" เจ้าของรางวัลชมเชยประเภทประชาชนทั่วไป ในโครงการประกวดผลงานตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงครั้งที่ 1 เมื่อปี 2550 จัดโดยสำ
บนเนื้อที่กว่า 35 ไร่ในพื้นที่ หมู่ 6 ต.เขาสมิง อ.เขาสมิง จ.ตราด ซึ่งเป็นบ้านพักอาศัยถูกแปลงสภาพเป็นสวนเกษตรผสมผสานที่มีความหลากหลาย โดยเน้นการทำเกษตรกรรมธรรมชาติ ปราศจากสารเคมีทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นการปลูกพืชผักสมุนไพร ผลไม้นานาชนิด เลี้ยงหมู เป็ด ไก่ ขุดบ่อเลี้ยงปลา ทุกอย่างไม่มีสารเคมีเข้ามาเกี่ยวข้องแม้แต่น้อย
บัณฑิตย้ำว่า แม้หลายคนจะบอกว่าการใช้เกษตรอินทรีย์ 100% เป็นไปได้ยาก แต่เขาก็ทำให้เห็นเป็นผลสำเร็จมาแล้ว เพียงแต่เราต้องอดทนช่วงระยะแรกเท่านั้น ซึ่งในส่วนของเขาต้องใช้เวลาถึง 3 ปีเต็มกว่าจะเปลี่ยนเกษตรเคมีที่พ่อแม่ทำไว้มาเป็นเกษตรอินทรีย์ 100% โดยผลผลิตที่ได้จากพืชผักทุกชนิดไม่แพ้การใช้สารเคมี ขณะที่ข้อดีเกษตรอินทรีย์ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของตัวเอง
ปัจจุบันมีรายได้จากการจำหน่ายผลผลิตเล็กๆ น้อยๆ จากพืชผักเฉลี่ยวันละ 400-500 บาท ในขณะที่รายจ่ายแทบจะไม่มี หรือรายได้เฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 1.5-1.8 แสนบาท แม้รายได้จะดีแต่เขาก็ยืนยันว่าไม่สำคัญเท่าการที่ได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาของสมาชิกในครอบครัว เพราะเป็นความสุขที่ไม่สามารถซื้อหาได้ด้วยเงิน นี่คือบทสรุปทางชีวิตของปราชญ์ชาวบ้านแห่งเมืองตราด เจ้าของผลงานการทำเกษตรผสมผสานดีเด่นที่ชื่อ "บัณฑิต กูลพฤกษี"
"สุรัตน์ อัตตะ"