
เอาครูใหญ่กลับมาให้โรงเรียน
โดย... หทัยรัตน์ ดีประเสริฐ [email protected] -
ด้วยความเชื่อว่าคนที่จะเป็นครูได้ต้องรู้ชีวิต รู้ความเป็นไปของความเป็นมนุษย์ รู้ความเป็นไปของกระบวนการเรียนรู้ซึ่งเกิดจากข้างในด้วย ข้างนอกด้วย การจัดการศึกษาจึงควรเปิดพื้นที่ให้ผู้เรียนได้มีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งต่างๆ กับครู และสถานการณ์จริง เรียนแบบเน้นเป็นโปรเจกต์ทำให้ได้ใช้ความรู้ทันที ที่สำคัญ “ครู” จะทำหน้าที่ได้ดีต้องมีหัวหน้าที่ดีนั่นก็คือ “ครูใหญ่” ที่เข้าใจและร่วมพัฒนาเด็กนักเรียนไปด้วยกัน
รศ.ประภาภัทร นิยม อธิการบดีสถาบันอาศรมศิลป์ และผู้ก่อตั้งโรงเรียนรุ่งอรุณ ผู้ใช้ประสบการณ์เป็นอาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลััย และประสบการณ์สอนลูกที่มีอาการการเรียนรู้ที่ไม่ปกติ พบว่าหลักสูตรการศึกษาที่มีในเมืองไทยไม่ได้ตอบโจทย์ผู้เรียนทุกคน และเด็กทุกคนมีศักยภาพที่จะเรียนรู้ได้ถ้าได้รับกระบวนการสอนที่เหมาะสมจึงก่อตั้งโรงเรียนรุ่งอรุณเมื่อ 20 ปีก่อนจากนั้นก็เปิดสถาบันอาศรมศิลป์เมื่อ 10 ปีที่แล้ว
โรงเรียนแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นโรงเรียนทางเลือกที่เด่นที่สุดแห่งหนึ่ง ทั้งเรื่องบรรยากาศของโรงเรียนที่เหมือนบ้านกลางป่า รูปแบบการสอนที่เน้นให้ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยตัวเองตั้งแต่อนุบาลจนถึงมัธยมปลาย ในแต่ละชั้นปีมีธีมหลักที่ทุกวิชามุ่งหลักการศึกษาอย่างเป็นองค์รวม (Holistic Learning) ประกอบด้วย 3 H (Heart Head Hands) หัวใจ สมอง สองมือ ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องเป็นโรงเรียนสร้างครูชั้นยอด และอาจารย์ประภาภัทร ก็เปรียบได้กับครูของครูนั่นเอง
ล่าสุดอาจารย์ประภาภัทร อยู่ระหว่างผลักดันพื้นที่นวัตกรรมการจัดการศึกษา หรือ Sandbox การศึกษาไทย ด้วยความหวังว่าจะเป็น “หัวใจ” สำคัญในการพัฒนาประเทศ นำร่องที่ จ.ระยอง และจ.ศรีสะเกษ เพื่อยกระดับการพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพในการจัดการศึกษา ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา และส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนร่วมจัดการศึกษา มีความคล่องตัวในการบริหารจัดการ โดยส่งเสริมให้สถานศึกษามีอิสระในการจัดหลักสูตรการเรียนรู้ ระยะเวลาดำเนินงาน 3 ปี (2562-2564) โดยปีแรก (ก.ย.2561-ส.ค.2562) มีโรงเรียนที่สนใจเข้าร่วมเป็นโรงเรียนต้นแบบใน จ.ระยอง จำนวน 30 โรงเรียน และศรีสะเกษ จำนวน 50 โรงเรียน
ปัจจุบันผู้อำนวยการโรงเรียนมากกว่า 80% ทำงานในบทบาทของผู้บริหารองค์กร มิใช่ในบทบาทของการเป็นผู้นำวิชาการ หรือเป็น “ครูใหญ่” ที่สามารถเป็น “ครูของครู” ได้ จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงบทบาทของผู้อำนวยการให้เป็นผู้นำวิชาการ (Super Coach) ที่สร้างแรงบันดาลใจให้ครู เด็ก ผู้ปกครอง และชุมชน รวมทั้งให้มีความเป็นเจ้าของและบริหารโรงเรียนอย่างเป็นมืออาชีพ ด้วยการเปลี่ยน Mindset และกำหนดวิสัยทัศน์ของโรงเรียน (School Vison) ใหม่ พร้อมจัดทำแผนการดำเนินงานของโรงเรียนอย่างเป็นรูปธรรม
อาจารย์ประภาภัทร อธิบายว่า คานงัดที่สำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงของผู้อำนวยการโรงเรียนใน จ.ระยอง โดยใช้ชื่อโปรแกรม “ผอ.กล้าเปลี่ยน” ขณะนี้มีผู้อำนวยการโรงเรียนต้นแบบเข้าร่วมโปรแกรมเรียบร้อยแล้วจำนวน 30 โรงเรียน ต่อมาคานงัดที่สำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงครู คือ CRC Classroom Reflection to Change เป็นนวัตกรรมการศึกษา “วิดีโอ คลิป" เป็นกระจกบานใหญ่สะท้อนผลการเรียนรู้และบทบาทของครูในห้องเรียน โดยให้มีการถ่ายทำวิดีโอ คลิป การเรียนการสอนในห้องเรียนแล้วนำมาอภิปรายร่วมกัน ทำให้ครูเห็นตัวเองว่าจัดการเรียนการสอนในห้องเรียนอย่างไร โดยมีผู้อำนวยการโรงเรียนและที่ปรึกษาในฐานะโค้ชร่วมให้ข้อสังเกต และให้ครูนำไปปรับปรุงการจัดการเรียนการสอนในห้องเรียนของตนเองเพื่อให้เด็กเกิดการเรียนรู้อย่างแท้จริงต่อไป
"ที่สำคัญผู้อำนวยการโรงเรียนและครูสามารถออกแบบให้ทุกๆ สถานที่ และทุกๆ สถานการณ์เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ (Learning Space) รวมทั้งออกแบบหลักสูตรการเรียนรู้ใหม่ให้มุ่งผลลัพธ์ที่สมรรรถนะ (Competency Based) มากกว่าการให้ความสำคัญกับเนื้อหา (Content Based) ด้วยการออกแบบหลักสูตรการเรียนรู้แบบไม่แยกส่วนและบูรณาการให้เข้าถึงระบบคุณค่า
รวมทั้งการปรับวิธีเรียน เปลี่ยนวิธีสอน จากการเรียนแบบรอรับ (Passive Learning) ซึ่งเป็นการเรียนรู้จากภายนอกสู่ภายในตัวผู้เรียนด้วยวิธีการเรียนรู้ที่แบบเดิม เช่น การฟัง บรรยาย อ่านจากหนังสือ ดูสื่อภาพและเสียง หรือชมการสาธิตสู่การเรียนรู้แบบใฝ่รู้ (Active Learning) ซึ่งเป็นการเรียนรู้จากภายในตัวผู้เรียนสู่ภายนอก โดยใช้วิธีการเรียนรู้ผ่านการอภิปรายกลุ่ม การฝึกฝน ลงมือปฏิบัติ และการประยุกต์ใช้ในทันที
คานงัดที่สำคัญต่อการปรับวิธีเรียน เปลี่ยนวิธีสอน และวิธีประเมินผล ที่สถาบันอาศรมศิลป์ใช้คือ MINI M-ED เป็นหลักสูตรระยะสั้นเพื่อพัฒนาผู้อำนวยการโรงเรียนและครูในการบริหารงานวิชาการและการจัดการเรียนการสอนเพื่อสร้างนวัตกรรมการศึกษาที่เหมาะสมกับบริบทโรงเรียนและก่อให้เกิดผลต่อผู้เรียนโดยตรง
จากการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของโครงการ (ก.ย. 2561-ก.พ.2562) พบว่า ผอ.วิชัย จันทร์ส่อง โรงเรียนวัดตาขัน พานักเรียน จ.ระยอง ออกไปเรียนรู้นอกห้องเรียนที่เกาะเสม็ด เป็นครั้งแรก และพบว่าเกิดกระบวนการเรียนรู้หลากหลายมิติ โดยผู้อำนวยการปรับบทบาทตนเองสู่การเป็นนักวางแผนการบริหารและการจัดการวิชาการ ครูวางแผนการจัดการเรียนรู้แบบใหม่ด้วยบทบาทผู้อำนวยการเรียนรู้ (Facilitator) เด็กเกิดกระบวนการเรียนรู้ใหม่
รวมทั้งการเปิดพื้นที่ให้สถานที่และชาวชุมชนเป็นผู้ให้ความรู้ “เกาะเสม็ด” กลายเป็น Learning Space ที่เด็กๆ ได้เรียนรู้สถานที่สำคัญทางภูมิศาสตร์ ชาวบ้านทั้งด้านฝั่งบกและฝั่งเกาะ ได้เป็นครูภูมิปัญญา ครูชุมชน เกิดการสร้างกระบวนการเรียนรู้ใหม่ที่เชื่อมโยงวิชาการและวิชาชีวิต เด็กๆ ได้รับประสบการณ์ตรงตลอดจนรับรู้สถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดของตนเองและได้ฝึกฝนตนเองให้เกิดสมรรถนะใหม่ในศตวรรษที่ 21
“จะเห็นได้ว่าการคืนครูใหญ่ให้โรงเรียนคือหัวใจของการจัดการศึกษาที่ทุกภาคส่วนจะได้ประโยชน์อย่างแท้จริง เมื่อครูใหญ่ทุกคนกลับไปทำหน้าที่โค้ช หรือเป็นครูของครูในโรงเรียนของตนเองแล้วเชื่อว่าจะเป็นความหวังในการปฏิรูปการศึกษาของประเทศไทยอย่างแท้จริงและอยากให้เกิดขึ้นจริงในประเทศไทย” ผู้ก่อตั้งโรงเรียนรุ่งอรุณ กล่าว
ใช้“ครูใหญ่”แทน“ผอ.ร.ร.” ปลุกสปิริตความเป็น“ครู”
นพ.จิรุตม์ ศรีรัตนบัลล์ ประธานคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศึกษาแนวทางการจัดทำพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การศึกษาแห่งชาติ คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา (กอปศ.) กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการกฤษฎีกา ได้พิจารณาร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.... ไปแล้วคืบหน้ากว่าร้อยละ 80-90 แล้ว ซึ่งเข้าใจว่าขณะนี้น่าจะเป็นการทบทวนรอบสุดท้าย ทั้งนี้ในส่วนของประเด็นการกำหนดตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาที่คณะกรรมการอิสระเสนอในร่างพ.ร.บ.การศึกษา ที่ประชุมคณะกรรมการกฤษฎีกามีมติเห็นชอบให้กลับไปใช้คำว่าครูใหญ่ เหมือนที่ผ่านมา
โดยในที่ประชุมมีผู้อภิปรายอย่างหลากหลายทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ได้ข้อสรุปว่ายังจะกลับมาใช้คำว่าครูใหญ่ เนื่องจากที่ประชุมให้ความสำคัญในเรื่องความเป็นครูสูงมาก และตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษานั้นต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูอยู่แล้ว อีกทั้งการทำหน้าที่เป็นหัวหน้าของครูในโรงเรียน และที่ผ่านมาเราก็เคยใช้คำว่าครูใหญ่ ดังนั้นที่ประชุมจึงลงความเห็น ว่าความเป็นครูเป็นเรื่องสำคัญจึงจะต้องให้ความสำคัญกับบทบาทหน้าที่ความเป็นครู ซึ่งการที่หัวหน้าครูกลับมาใช้คำว่าครูใหญ่ก็น่าจะทำให้มีพลังในการปฏิรูปเพื่อการศึกษาของเด็กมากขึ้น