
ขอโทษด้วยความสมัครใจ
พระพุทธศาสนาของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นสังคมที่...ระวังความพลาดพลั้ง สำนึกรู้ในความพลาดพลั้ง ขอขมา ให้อภัย
ยกตัวอย่าง เช่น ทุกวันเข้าพรรษา พระสงฆ์แห่งวัดนั้นๆ จะต้องตระเตรียมเครื่องขอขมาพระเถระ แล้วจัดทำพิธีขอขมา อโหสิกรรม โดยพระที่มีพรรษา (อายุ) น้อย ประคองเครื่องขอขมาด้วยมือทั้งสองข้าง แล้วกล่าวว่า...
"ข้าพเจ้าได้ล่วงเกินต่อท่านนานัปการ ขอท่านโปรดยกโทษแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่ท่าน กรรมใดที่ข้าพเจ้าได้ล่วงเกินด้วย กาย วาจา ใจ ขอท่านได้โปรดยกโทษแก่ข้าพเจ้า"
เมื่อพระเถระได้เห็นกิริยา คำพูด เครื่องสักการะ ก็กล่าวคำว่า... "ข้าพเจ้าได้รับการขอขมาจากท่านแล้ว ก็ขอยกโทษนั้น"
พระผู้มีพรรษา (อายุ) น้อยกว่าก็ก้มลงกราบ จากนั้นมาก็อยู่ด้วยความสามัคคีธรรม มีความสุข สงเคราะห์เกื้อกูลต่อกันและกัน
ครั้นเมื่อขอขมาในวัดเสร็จแล้ว ก็นิยมใช้เวลา ๗ วันแรกของการเข้าพรรษา ไปขอขมา หรือที่ภาษาพระเรียกว่า "ทำวัตร" ไปยังวัดต่างๆ ที่มีพระเถระชั้นผู้ใหญ่ ระดับเจ้าคณะชั้นปกครอง
การขอขมา จึงเป็น "อโหสิกรรม" หรืออาจเรียกได้ว่า เป็นพิธี "ตัดกรรม"
การที่คนเราเกิดมาจะทำมาหากินด้วยความเป็นผู้มีกัลยาณมิตร การทำมาหากินก็ฝืดเคืองยากแค้น ยากเข็ญอยู่แล้ว ถ้าเกิดมีการวิวาทบาดหมาง มีศัตรูหลายระดับ จะทำมาหากินอย่างไร
การทะเลาะกัน การเป็นศัตรูกัน มิใช่เป็นผลเสียเฉพาะตนเท่านั้น ถ้าคนทะเลาะกันแบ่งเป็นสองฝ่าย พระที่เคยสามัคคีกัน แตกเป็นสองฝ่าย เด็กก็แตกเป็นสองฝ่าย สัตว์ก็แตกเป็นสองฝ่าย ผีก็แตกเป็นสองฝ่าย เทวดาก็แตกเป็นสองฝ่าย เรียกว่า พวกใครพวกมัน จากนั้นก็จ้องจับผิดคิดล้างแค้นกัน ทำแต่เรื่องวุ่นวายไม่เว้นแต่ละวัน สิริมงคลความเจริญความสุขก็หดหายไปจากตัวเอง และสังคม โบราณพูดเสมอว่า... "ที่ไหนทะเลาะกัน ที่นั่นห่าลง คือเรียกฝ่ายตรงกันข้ามว่า ไอ้ห่า อีห่า"
แล้วจะทะเลาะกันเพื่ออะไร ?
การทะเลาะจะไม่จบลงอย่างแน่นอน ถ้าไม่มีการขอขมา ไม่มีการให้อภัย ไม่หยุดการยุยงและยื้อยุด ฝ่ายหนึ่งไม่ขอขมา ฝ่ายหนึ่งถือโทษ ไม่ให้อภัย ผลคือ ความหายนะอันยืดยาว, ฝ่ายหนึ่งไม่ขอขมา แต่อีกฝ่ายหนึ่งไม่ถือโทษยินดียืนหยัดในการให้อภัย ฝ่ายแรกย่อยยับฝ่ายหลังเจริญ, ฝ่ายหนึ่งขอขมา อีกฝ่ายหนึ่งไม่ให้อภัย ผลคือ ฝ่ายแรกเจริญ ฝ่ายหลังหายนะ, ฝ่ายหนึ่งขอขมา และอีกฝ่ายหนึ่งให้อภัย ผลคือ เจริญทั้งสองฝ่าย,
แต่ถ้าทั้งสองฝ่าย ไม่มีการขอขมา และไม่มีการให้อภัย อีกทั้งยังมีการยุยงและยื้อยุด หายนะในวงกว้าง, หรือฝ่ายหนึ่งไม่ขอมขาฝ่ายหนึ่งให้อภัย แต่บริวารไม่ยินยอมเป็นการบีบบังคับผู้ให้อภัย
"พระราชวิจิตรปฏิภาณ (เจ้าคุณพิพิธ)"