
"หวายเทียม"จากโพลีโอเลฟิน ทนทาน-คล้ายจากธรรมชาติ
ปัจจุบันต้องยอมรับว่า หวายจากป่านั้นเป็นวัตถุดิบที่ตลาดต้องการสูง เพื่อนำมาใช้ทำผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องจักสาน เฟอร์นิเจอร์ และของใช้อื่นๆ แต่ปริมาณหวายดิบที่เกษตรกรปลูก หรือจากป่านั้น มีไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด จึงต้องนำเ
ขณะเดียวกันบางบริษัทที่ผลิตหวายเทียมก็ประสบปัญหา โดยเฉพาะการผลิตหวายเทียมชนิดพีวีซี เนื่องจากเฟอร์นิเจอร์ที่ผลิตจากหวายเทียมชนิดนี้ ขายได้เฉพาะในประเทศและในปริมาณที่ไม่มากนัก แต่ไม่สามารถส่งออกไปขายยังต่างประเทศได้ โดยเฉพาะตลาดยุโรป เนื่องจากมาตรฐานอุตสาหกรรมสินค้าของประเทศเหล่านี้ ไม่ยอมรับการใช้พีวีซี ที่มีแคลเซียมคาร์บอเนตเป็นฟิลเลอร์สำหรับงานเฟอร์นิเจอร์และภาชนะในครัวเรือน ทำให้ประสบปัญหายุ่งยากในการหาวัตถุดิบป้อนโรงงาน
ด้วยเหตุเหล่านี้ นายหทัยเทพ ฤทธิ์เกื้อ และ นายจรูญ สันร้าย นักศึกษาจากภาควิชาวิศวกรรมวัสดุและโลหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ร่วมกับบริษัทธราพงษ์ พี.วี.ซี. จำกัด ทำการวิจัยและทดลองผลิตหวายเทียมจากโพลีโอเลฟิน เพื่อทดแทนหวายเทียมที่ผู้ประกอบการนำเข้าจากต่างประเทศ โดยผ่านโครงการสำหรับนักศึกษาปริญญาตรี (Industrial And Research Projects) หรือไออาร์พุส (irpus) โดยมี นายวีรศักดิ์ หมู่เจริญ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาตลอดโครงการ
นายหทัยเทพ บอกว่า จากการทดลองผลิตหวายเทียมในหลายๆ สูตรคอมเปาด์ด้วยเครื่องอัดรีดสกรูเดี่ยว พบว่า ส่วนประสมที่ประกอบด้วย โพลีโพรพิลีน, โพลีเอทิลีน, ผงไม้, สารประสาน, สารหล่อลื่น, สารปรับปรุงคุณสมบัติการทนแรงกระแทก และยางอีพีดีเอ็ม (Ethyle-Propylene-Diene Rubber-EPDM) เมื่อผลิตออกมาเป็นหวายเทียมแล้ว มีคุณสมบัติความต้านทานต่อแรงกระแทกสูง และความต้านทานต่อการหักงอต่ำ อ่อนตัวโค้งงอได้ดี การกระจายตัวของผงไม้ดี สีและลักษณะภายนอกที่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าใกล้เคียงกับหวายจากธรรมชาติ เหมาะสำหรับใช้ในงานจักสาน และผลิตภัณฑ์ที่ต้องการคุณสมบัติเหนียวโค้งงอดี
ในการทดลองนั้น นายจรูญบอกว่า ใช้เวลาทดลองราว 1 ปี ก็ได้หวายเทียมที่มีคุณภาพอย่างที่กล่าว และที่สำคัญต้านแรงกระแทกได้สูงกว่าการใช้หวายดิบหลายเท่า มีความยืดหยุ่นโค้งงอได้ดี ขณะที่สีสันนอกจากจะเหมือนธรรมชาติมากๆ แล้ว ยังสามารถใส่สีตามที่ลูกค้าต้องการได้ หากสามารถมีการผลิตได้อย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าจะสามารถลดการนำเข้าหวายเทียมจากต่างประเทศได้มาก ซึ่งนั่นหมายถึงว่าเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ที่ผลิตจากหวายมีราคาถูกลง
นับว่าเป็นงานวิจัยที่ประสบผลสำเร็จได้อีกชิ้นหนึ่ง ซึ่งอนาคตจะสามารถทดแทนหวายเทียมนำเข้าจากต่างประเทศได้อย่างดี หากได้รับการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ยังสามารถนำประโยชน์ไปสู่ผู้บริโภค นอกจากนั้น ยังเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
หากผู้ใดอยากทราบรายละเอียดเจ้าของผลงานสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ นายหทัยเทพ ฤทธิ์เกื้อ โทรศัพท์ 08-3603-8466 หรือ นายจรูญ สันร้าย โทรศัพท์ 08-9195-0937 ยินดีให้ความรู้กับทุกท่านที่สนใจด้วย