เปิดโลกมุสลิมตอน: คำสอนครั้งสุดท้าย รูปอยู่กล่อง bandit | คมชัดลึก

ต่างก็มีสิทธิซึ่งกันและกันในการอยู่ในโลกนี้ ดังนั้นจึงต้องให้เกียรติซึ่งกันและกันและอยู่ด้วยกันอย่างสันติ และสุดท้ายนี้ขอให้ลูกๆ ทุกคนนำความรู้ที่ได้มากลับไปพัฒนาสังคม ประเทศ ไม่ใช่สร้างความแตกแยก” คือคำสั่งสอนของ แกรนเช็คอิหม่ามตอนตอวีย์ ประมุขมหาวิทยาลัยอัลอัซฮัร ในโอกาสที่มอบปริญญาบัตรแก่นักศึกษาที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยอัลอัซฮัร เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2552

 ถือเป็นวันประวัติศาสตร์ที่สมาคมนักเรียนไทยในกรุงไคโร ในพระบรมราชูปถัมภ์ ภายใต้การดูแลของสถานทูตไทย จัดงานมอบปริญญาบัตรแก่นักศึกษาที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยอัลอัซฮัร ขึ้นเป็นครั้งที่ 3 โดยมีประมุขมหาวิทยาลัยอัลอัซฮัร ให้เกียรติเป็นผู้มอบเหมือนทุกปีที่ผ่านมา โดยมีท่านทูตนภดล เทพพิทักษ์ ร่วมเป็นสักขีพยานก่อนเดินทางกลับประเทศไทย เนื่องจากหมดวาระในการประจำการ ณ กรุงไคโร ประเทศอียิปต์

  ปีนี้มีผู้สำเร็จการศึกษาทั้งหมด 100 กว่าคน เข้ารับปริญญาบัตรเพียง 84 คน เป็นนักศึกษาผู้ชาย 60 คน และผู้หญิง 24 คน การได้พิชิต ม.อัลอัซฮัร ของนักศึกษามุสลิม เหมือนที่นักศึกษาสามัญต้องการพิชิตจากสถาบันจากอังกฤษและอเมริกา มีการอัดวิดีโอซึ่งเป็นคำพูดของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และคณะ ส.ส.นำทีมโดย สมัย เจริญช่าง ส.ส.กรุงเทพฯ เปิดประเด็นถึงเรื่องความไว้ใจของภาครัฐที่มีต่อนักศึกษามุสลิมและคนมุสลิมทั่วประเทศไทย

 ศิริ แขกพงษ์ นักศึกษาจาก จ.นครศรีธรรมราช จบการศึกษาคณะนิติศาสตร์อิสลาม เป็นบุตรคนสุดท้องของพี่น้องสามของนายโหยบและนางไหมมีเนาะ แขกพงษ์ มีอาชีพเลี้ยงกุ้ง บอกว่ามหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้ให้อะไรแก่เขาเยอะมากมาก ทั้งเรื่องวิชาการศาสนา มุมมองของการเป็นอยู่ในประเทศอิสลามและการเป็นอิสลามสายกลางที่สมบูรณ์ที่สุด จบการศึกษาที่นี่แล้ว วางแผนไว้ว่าจะไปเรียนต่อโทที่ประเทศมาเลเซีย
  
    เขาบอกว่า นักศึกษาทุกคนที่ได้เรียนรู้ในรั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ไม่ว่าจะกี่รุ่นแล้วสำหรับนักศึกษาไทย คงเป็นคำเตือนและคงเป็นคำยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า ม.อัลอัซฮัร ไม่ได้สอนให้มีการแบ่งแยก แล้วพวกเราชาวมุสลิมที่จบจากที่นี่หรือที่ไหน คิดอะไรกันอยู่ กับสิ่งที่ทำอยู่ในปัจจุบัน