ครม.ไฟเขียวเพิ่มเงินอุดหนุนรายหัวให้ร.ร.ขนาดเล็ก

 เมื่อวันที่ 27 ต.ค.2552 นายจุรินทร์   ลักษณวิศิษฏ์     รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.)  เปิดเผยหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอขอเพิ่มอัตราเงินอุดหนุนรายหัวให้แก่โรงเรียนขนาดเล็กสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษา(สพฐ.) ซึ่งหมายถึงโรงเรียนประถมศึกษาที่มีจำนวนนักเรียนต่ำกว่า 120 คน มีอยู่ทั้งหมด 13,880 แห่งทั่วประเทศ ครอบคลุมนักเรียน 979,275 คน และโรงเรียนขยายโอกาส-โรงเรียนมัธยมที่มีจำนวนนักเรียนน้อยกว่า 300 คน มีอยู่ทั้งหมด 437 แห่ง นักเรียน 90,864 คน

 นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า สาเหตุที่ศธ.เสนอขอเพิ่มเงินรายหัวให้แก่ร.ร.ขนาดเล็ก เพราะมีผลวิจัยชี้ชัดว่า เมื่อรัฐเพิ่มอัตราเงินอุดหนุนรายหัวให้โรงเรียนตั้งแต่ปีงบประมาณ 2550 มานั้น พบว่า มีส่วนช่วยทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนดีขึ้นสะท้อนจากคะแนนโอเน็ตที่เพิ่มขึ้นในทุกระดับทั้ง ป.6 ม.3 และ ม.6 นอกจากนั้น โรงเรียนยังผ่านการประเมินของสำนักรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) ในระดับที่ดีขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับสมัยก่อน โดยโรงเรียนประถมฯ ผ่านประเมิน ร้อยละ 61 ร.ร.ขยายโอกาสร้อยละ 57 และโรงเรียนมัธยม ร้อยละ 94.95 อีกทั้งจำนวนนักเรียนที่อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ก็ลดลงประมาณ ร้อยละ 0.3 ด้วย

 รมว.ศธ. กล่าวต่อไปว่า  สำหรับอัตราเงินอุดหนุนรายหัวใหม่ของร.ร.ขนาดเล็กนั้น สำหรับระดับประถมศึกษา เพิ่มให้คนละ 500 บาท จาก 1,900 บาทเป็น 2,400 บาท ระดับมัธยมต้นเพิ่มคนละ 1,000 บาท จาก 3,500 บาท เป็น 4,500 บาท และระดับมัธยมปลายเพิ่มคนละ 1,000 บาท จาก 3,800 เป็น 4,800 บาท โดยมีผลตั้งแต่ปีการศึกษา 2553 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่โรงเรียนขนาดเล็กทุกแห่งจะได้ปรับเพิ่มเงินอุดหนุนรายหัว แต่จะให้เฉพาะโรงเรียนขนาดเล็กที่ไม่ได้อยู่ในโครงการช่วยเหลืออื่นๆ โดยจะให้สพฐ.ไปประมวลข้อมูลมาอีกครั้ง คาดว่า จะมีโรงเรียนขนาดเล็กได้ปรับเพิ่มเงินอุดหนุนรายหัวประมาณ 10,000 แห่ง